นับตั้งแต่พรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งเป็นเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และโหวตเลือกให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จัดตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นบริหารประเทศเป็นต้นมา ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทยผู้มีอำนาจแท้จริง ในการควบคุมและบงการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็เหิมเกริมในชัยชนะและอำนาจทางการเมืองที่ได้มาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งๆ ที่ทักษิณอยู่ในฐานะจำเลยที่ต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกและตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาร้ายแรงอีกมากมายหลายคดี เขาก็ยังลอยนวลไม่ถูกบังคับจับกุมหรือนำตัวมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยแต่อย่างใด
การเดินทางไปยังประเทศต่างๆ แม้กระทั่งป้วนเปี้ยน วนเวียนเดินทางเข้ามายังประเทศอาเซียนหลายประเทศรอบบ้านเรา ไม่ว่ากัมพูชา ลาว มาเลเซีย พม่า เป็นต้น เขาก็ยังสามารถกระทำได้โดยมิได้ยำเกรงต่อความผิดทางกฎหมาย ขณะเดียวกันยังบังอาจนัดพบบรรดา ส.ส.ในสังกัดพรรคเพื่อไทย รวมพลคนเสื้อแดงและแกนนำหรือเรียกข้าราชการไปพบวางแผน สั่งการให้พรรคการเมืองและสมุนบริวารดำเนินการใดๆ ตามคำบัญชาและสั่งการของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี ก็ล้วนแต่บริหารบ้านเมืองตามคำบัญชาของเขาทั้งสิ้น
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็เช่นเดียวกัน จะดำเนินกิจกรรมใดๆ ทางการเมืองในรัฐสภา ไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสนอพระราชบัญญัติหรือกฎหมายฉบับใดเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ก็ล้วนแต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากทักษิณทั้งสิ้น ไม่เพียงเท่านี้ ทักษิณยังทำตัวเป็นผู้มีอำนาจและผู้ทรงอิทธิพลเหนือรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในทุกๆ เรื่อง แม้แต่การเจรจากับผู้นำประเทศต่างๆ กลุ่มธุรกิจทั้งหลายที่ประสงค์จะมาลงทุนค้าขายในประเทศไทย รวมถึงขบวนการและกลุ่มโจรก่อการร้าย หรือผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ปรากฏข่าวให้เห็นว่าเขาเข้าไปมีบทบาทพบปะเจรจากับกลุ่มเหล่านั้น
พฤติกรรมทั้งหลายที่ทักษิณ พรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดง และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กำลังสมคบกันกระทำการดังที่ปรากฏข้อเท็จจริงให้เห็นอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มิใช่การดำเนินงานทางการเมืองและการใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินตามปกติธรรมดา อยู่ภายใต้กฎหมายและรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแต่อย่างใด กรณีดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายเป็นการทรยศและกบฏต่อแผ่นดิน ที่ต้องได้รับการจัดการตามกฎหมาย เพื่อลงโทษมิให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ใด เหตุผลที่ผู้เขียนเห็นว่าพฤติกรรมของทักษิณกับพวกเป็นการกระทำความผิดร้ายแรงต่อแผ่นดิน คือ
1) ทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยที่ต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลไทย และถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติ โดยศาลมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย
2) เขาเป็นบุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองเป็นระยะเวลา 5 ปี และเมื่อศาลพิพากษาว่าร่ำรวยผิดปกติ ก็จะถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปตลอดชีวิตตามรัฐธรรมนูญของประเทศไทย
3) เขาอยู่ในฐานะตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาร้ายแรงที่ทางการไทยต้องการตัวมาดำเนินคดีหลายคดี อาทิ ความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต, คดีก่อการร้าย, คดีความผิดฐานสนับสนุน หรือใช้ผู้อื่นให้กระทำความผิดในการก่อจลาจล และการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นต้น
4) มีพฤติกรรมเป็นที่น่าสงสัยและปรากฏข้อเท็จจริงตามข่าวสารที่เผยแพร่ในสื่อมวลชน และจากการแถลงของกรมสอบสวนคดีพิเศษว่าระหว่างการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 กองกำลังชายชุดดำที่ติดอาวุธสงครามและเข้าร่วมในการชุมนุมของคนเสื้อแดง โดยก่อเหตุรุนแรงใช้อาวุธสงครามเข้าต่อสู้ขัดขวางการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าปฏิบัติการขอพื้นที่คืน กระทั่งการใช้อาวุธสงครามก่อเหตุวินาศกรรม ระเบิดหรือยิงทำลายสถานที่สำคัญทางราชการ ได้รับการฝึกฝนหรือสนับสนุนด้านอาวุธและกำลังจากประเทศกัมพูชา โดยมีการจับกลุ่มชายฉกรรจ์ชุดดำพร้อมอาวุธสงครามได้เป็นจำนวนมาก พฤติกรรมจึงเป็นการซ่องสุมกำลังกระทำการเพื่อเป็นกบฏ และทำลายความมั่นคงของประเทศ
5) ร่วมมือกับรัฐต่างประเทศกระทำการเพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรไทยตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ ในกรณีข้อพิพาทเรื่องดินแดนและอาณาเขตบริเวณปราสาทพระวิหาร และแหล่งพลังงานทางทะเล พฤติกรรมของรัฐบาลโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐบาลชุดนี้ ส่อไปในทางที่จะสมยอมให้ประเทศไทยต้องเสียดินแดงและเอกราชอธิปไตยของชาติด้วยความจำยอมโดยสมคบกับรัฐต่างประเทศ
พฤติกรรมทั้งหลายที่ทักษิณกับสมุนบริวารของเขากำลังกระทำการโดยเหิมเกริมอยู่ในขณะนี้ นอกจากเป็นความผิดต่อกฎหมายร้ายแรง เป็นการกบฏและทรยศต่อประเทศชาติของตนแล้วยังเป็นการทำให้บรรดาประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลายไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมของไทย เป็นการย่ำยีเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีประเทศของตนในสายตาชาวโลกอีกด้วย เหตุที่ทักษิณยังลอยนวลและบังอาจกระทำการดังกล่าวอยู่ได้ก็เพราะมีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกสนับสนุนและร่วมกระทำความผิด เพราะแทนที่รัฐบาลไทยจะขอตัวทักษิณในฐานะผู้ร้ายต้องคดีมาดำเนินการตามกฎหมาย พวกเขากลับเพิกเฉยและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐไทยจึงมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดดังกล่าวนี้ด้วย
ประเทศไทยเข้าสู่ยุคคนชั่วครองเมือง คนดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินกลางถนน ความถูกต้องดีงามและหลักกฎหมายของบ้านเมืองถูกย่ำยี คนกระทำความผิดที่เห็นกันอยู่ตำตากลับชูคอลอยนวล และเหิมเกริมในอำนาจของตนเองโดยไม่ฟังเสียงประชาชนไม่เคารพศาล ไม่เคารพกฎหมาย แถมดูถูกและเย้ยหยันดูหมิ่นอีกต่างหาก
คนส่วนใหญ่ที่รักความถูกต้อง รักความยุติธรรม รักชาติ รักศาสนา และพระมหากษัตริย์ ต้องทนอยู่ด้วยความกล้ำกลืนฝืนทน คนไทยส่วนใหญ่เชื่อในพระสยามเทวาธิราชว่ามีอยู่จริง ท่านคงจะปกป้อง คุ้มครอง ดูแลประเทศชาติของเรา และลงโทษคนที่คิดไม่ดีต่อชาติบ้านเมือง ขอได้โปรดรีบลงโทษคนทรยศ และกบฏต่อแผ่นดินโดยเร็วด้วยเทอญ พวกข้าพเจ้าประชาชนทั้งหลายสุดจะทนต่อไปอีกแล้ว
การเดินทางไปยังประเทศต่างๆ แม้กระทั่งป้วนเปี้ยน วนเวียนเดินทางเข้ามายังประเทศอาเซียนหลายประเทศรอบบ้านเรา ไม่ว่ากัมพูชา ลาว มาเลเซีย พม่า เป็นต้น เขาก็ยังสามารถกระทำได้โดยมิได้ยำเกรงต่อความผิดทางกฎหมาย ขณะเดียวกันยังบังอาจนัดพบบรรดา ส.ส.ในสังกัดพรรคเพื่อไทย รวมพลคนเสื้อแดงและแกนนำหรือเรียกข้าราชการไปพบวางแผน สั่งการให้พรรคการเมืองและสมุนบริวารดำเนินการใดๆ ตามคำบัญชาและสั่งการของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี ก็ล้วนแต่บริหารบ้านเมืองตามคำบัญชาของเขาทั้งสิ้น
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็เช่นเดียวกัน จะดำเนินกิจกรรมใดๆ ทางการเมืองในรัฐสภา ไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสนอพระราชบัญญัติหรือกฎหมายฉบับใดเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ก็ล้วนแต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากทักษิณทั้งสิ้น ไม่เพียงเท่านี้ ทักษิณยังทำตัวเป็นผู้มีอำนาจและผู้ทรงอิทธิพลเหนือรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในทุกๆ เรื่อง แม้แต่การเจรจากับผู้นำประเทศต่างๆ กลุ่มธุรกิจทั้งหลายที่ประสงค์จะมาลงทุนค้าขายในประเทศไทย รวมถึงขบวนการและกลุ่มโจรก่อการร้าย หรือผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ปรากฏข่าวให้เห็นว่าเขาเข้าไปมีบทบาทพบปะเจรจากับกลุ่มเหล่านั้น
พฤติกรรมทั้งหลายที่ทักษิณ พรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดง และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กำลังสมคบกันกระทำการดังที่ปรากฏข้อเท็จจริงให้เห็นอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มิใช่การดำเนินงานทางการเมืองและการใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินตามปกติธรรมดา อยู่ภายใต้กฎหมายและรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแต่อย่างใด กรณีดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายเป็นการทรยศและกบฏต่อแผ่นดิน ที่ต้องได้รับการจัดการตามกฎหมาย เพื่อลงโทษมิให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ใด เหตุผลที่ผู้เขียนเห็นว่าพฤติกรรมของทักษิณกับพวกเป็นการกระทำความผิดร้ายแรงต่อแผ่นดิน คือ
1) ทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยที่ต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลไทย และถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติ โดยศาลมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย
2) เขาเป็นบุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองเป็นระยะเวลา 5 ปี และเมื่อศาลพิพากษาว่าร่ำรวยผิดปกติ ก็จะถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปตลอดชีวิตตามรัฐธรรมนูญของประเทศไทย
3) เขาอยู่ในฐานะตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาร้ายแรงที่ทางการไทยต้องการตัวมาดำเนินคดีหลายคดี อาทิ ความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต, คดีก่อการร้าย, คดีความผิดฐานสนับสนุน หรือใช้ผู้อื่นให้กระทำความผิดในการก่อจลาจล และการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นต้น
4) มีพฤติกรรมเป็นที่น่าสงสัยและปรากฏข้อเท็จจริงตามข่าวสารที่เผยแพร่ในสื่อมวลชน และจากการแถลงของกรมสอบสวนคดีพิเศษว่าระหว่างการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 กองกำลังชายชุดดำที่ติดอาวุธสงครามและเข้าร่วมในการชุมนุมของคนเสื้อแดง โดยก่อเหตุรุนแรงใช้อาวุธสงครามเข้าต่อสู้ขัดขวางการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าปฏิบัติการขอพื้นที่คืน กระทั่งการใช้อาวุธสงครามก่อเหตุวินาศกรรม ระเบิดหรือยิงทำลายสถานที่สำคัญทางราชการ ได้รับการฝึกฝนหรือสนับสนุนด้านอาวุธและกำลังจากประเทศกัมพูชา โดยมีการจับกลุ่มชายฉกรรจ์ชุดดำพร้อมอาวุธสงครามได้เป็นจำนวนมาก พฤติกรรมจึงเป็นการซ่องสุมกำลังกระทำการเพื่อเป็นกบฏ และทำลายความมั่นคงของประเทศ
5) ร่วมมือกับรัฐต่างประเทศกระทำการเพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรไทยตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ ในกรณีข้อพิพาทเรื่องดินแดนและอาณาเขตบริเวณปราสาทพระวิหาร และแหล่งพลังงานทางทะเล พฤติกรรมของรัฐบาลโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐบาลชุดนี้ ส่อไปในทางที่จะสมยอมให้ประเทศไทยต้องเสียดินแดงและเอกราชอธิปไตยของชาติด้วยความจำยอมโดยสมคบกับรัฐต่างประเทศ
พฤติกรรมทั้งหลายที่ทักษิณกับสมุนบริวารของเขากำลังกระทำการโดยเหิมเกริมอยู่ในขณะนี้ นอกจากเป็นความผิดต่อกฎหมายร้ายแรง เป็นการกบฏและทรยศต่อประเทศชาติของตนแล้วยังเป็นการทำให้บรรดาประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลายไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมของไทย เป็นการย่ำยีเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีประเทศของตนในสายตาชาวโลกอีกด้วย เหตุที่ทักษิณยังลอยนวลและบังอาจกระทำการดังกล่าวอยู่ได้ก็เพราะมีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกสนับสนุนและร่วมกระทำความผิด เพราะแทนที่รัฐบาลไทยจะขอตัวทักษิณในฐานะผู้ร้ายต้องคดีมาดำเนินการตามกฎหมาย พวกเขากลับเพิกเฉยและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐไทยจึงมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดดังกล่าวนี้ด้วย
ประเทศไทยเข้าสู่ยุคคนชั่วครองเมือง คนดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินกลางถนน ความถูกต้องดีงามและหลักกฎหมายของบ้านเมืองถูกย่ำยี คนกระทำความผิดที่เห็นกันอยู่ตำตากลับชูคอลอยนวล และเหิมเกริมในอำนาจของตนเองโดยไม่ฟังเสียงประชาชนไม่เคารพศาล ไม่เคารพกฎหมาย แถมดูถูกและเย้ยหยันดูหมิ่นอีกต่างหาก
คนส่วนใหญ่ที่รักความถูกต้อง รักความยุติธรรม รักชาติ รักศาสนา และพระมหากษัตริย์ ต้องทนอยู่ด้วยความกล้ำกลืนฝืนทน คนไทยส่วนใหญ่เชื่อในพระสยามเทวาธิราชว่ามีอยู่จริง ท่านคงจะปกป้อง คุ้มครอง ดูแลประเทศชาติของเรา และลงโทษคนที่คิดไม่ดีต่อชาติบ้านเมือง ขอได้โปรดรีบลงโทษคนทรยศ และกบฏต่อแผ่นดินโดยเร็วด้วยเทอญ พวกข้าพเจ้าประชาชนทั้งหลายสุดจะทนต่อไปอีกแล้ว