สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จัดงานทำบุญครบรอบ 12 ปี “ผาณิต” ประกาศยึดความถูกต้อง ท่ามกลางความขัดแย้ง ย้ำ หากดันทุรังแก้ร่าง รธน.มีความผิดพลาด ต้องมีผู้รับผิดชอบ ด้านประธานชมรม ส.ส.ร.2550 ร้องสอบ ครม.-ส.ส.-ส.ว.เหตุแก้ไข รธน.ไม่เป็นไปตามขั้นตอน จงใจล้มล้าง เข้าข่ายผิดต่อความมั่นคงของรัฐ
วันนี้ (12 เม.ย.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้จัดงานครบรอบ 12 ปี การก่อตั้งสำนักงานฯ โดยมีการประกอบพิธีทางศาสนา ทำบุญ เลี้ยงพระ พร้อมทั้งจัดงานรดน้ำขอพรผู้ตรวจการแผ่นดินทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีราชา เจริญพาณิช และ นายประวิช รัตนเพียร ผู้ตรวจการแผ่นดิน เนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ โดยมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเข้าร่วมจำนวนมาก
นางผาณิต กล่าวว่า ในโอกาสสำนักงานฯครบรอบ 12 ปี จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในการดูแลเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการกระทำของรัฐ อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง โดยผู้ตรวจการแผ่นดินจะทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ยึดหลักความถูกต้อง แม้จะอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อาจเป็นปมขัดแย้ง ที่ขอฝากไปยังผู้เกี่ยวข้อง ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.จะต้องยึดหลักประมวลจริยธรรมของนักการเมือง และมองเห็นประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก รวมทั้งรู้รักสามัคคีตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นางผาณิต ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เข้าสู่วาระ 2 ของที่ประชุมรัฐสภา ว่า แม้หลายฝ่ายต้องการให้ทบทวน แต่ส่วนตัวเห็นว่าเลยขั้นตอนมาแล้ว ไม่สามารถย้อนกลับได้ ดังนั้น การเดินหน้าพิจารณาต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ และคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีหน้าที่เสนอแนะตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ซึ่งไม่ได้คัดค้านไม่ให้มีการแก้ไข แต่หากเกิดความผิดพลาดขึ้น ผู้เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ
ด้าน นายเกียรติชัย พงษ์พาณิชย์ ประธานชมรม ส.ส.ร.2550 ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นางผาณิต ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี ส.ส.และ ส.ว.เนื่องจากจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดย นายเกียรติชัย กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ มีความพยายามเร่งรีบดำเนินการแก้ไข ไม่เป็นไปตามขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 291 บัญญัติไว้ เพราะไม่มีการชี้แจงเหตุผลข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญเดิม และแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญใหม่ อีกทั้งไม่มีการเปิดเผยให้ประชาชนทราบและเข้าถึงข้อมูลรายละเอียด จึงถือเป็นการจงใจฝ่าฝืนกฎหมาย จงใจล้มล้างรัฐธรรมนูญ ถือว่า มีความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินสอบสวนเรื่องดังกล่าว และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะแม้รัฐสภาจะรับหลักการวาระ 1 ไปแล้ว แต่ให้เพิกถอนมตินั้น เพราะหากปล่อยให้ดำเนินการต่อจะส่งผลเสียหายอย่างกว้างขวางต่อประเทศและประชาชน
นางผาณิต ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เข้าสู่วาระ 2 ของที่ประชุมรัฐสภา ว่า แม้หลายฝ่ายต้องการให้ทบทวน แต่ส่วนตัวเห็นว่าเลยขั้นตอนมาแล้ว ไม่สามารถย้อนกลับได้ ดังนั้น การเดินหน้าพิจารณาต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ และคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งข้อเสนอของผู้ตรวจการแผ่นดินเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการทำตามหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ไม่ได้คัดค้านไม่ให้มีการแก้ไข แต่หากเกิดความผิดพลาดขึ้น ผู้เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ