xs
xsm
sm
md
lg

“ค้อนปลอม” ลากถู ถกร่างแก้ไข รธน.ปชป.สงวนแปรญญัติตั้งชื่อ รธน.เพื่อแม้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมศักดิ์ เกียรติ์สุรนนท์
ประชุมร่วมรัฐสภาลากถูพิจารณาแก้ไข รธน. แสลงหูฝ่ายค้านสงวนแปรญัตติตั้งชื่อ รธน.รวบรัดเพื่อแม้ว ปธ.สั่งห้ามอภิปรายเพราะเสียดสีใส่ร้าย ลงมติรับหลักการ กมธ.เสียงข้างมาก 353 ต่อ 107 “วัชระ” แฉคนไม่ชอบ รธน.50 ควักเงินจ้างแก้ รธน. “สุทัศน์” ขู่ กมธ.เสนอร่างไม่สมบูรณ์เจอทางตัน ต้องยื่นศาล รธน.ตีความ

วันนี้ (10 เม.ย.) ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนขอสงวนความเห็นมาตรา 1 ชื่อร่างรัฐธรรมนูญ โดยขอตั้งชื่อรัฐธรรมนูญใหม่ว่า “รัฐธรรมนูญรวบรัดเพื่อทักษิณแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ...” แต่นายสมศักดิ์รีบทักท้วงทันทีว่า การเสนอคำแปรญัตติเช่นนี้ไม่ถูกต้อง รวมถึงกรณีของนายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมาธิการเสียงข้างน้อย ที่สงวนคำแปรญัตติ ตั้งชื่อว่า “รัฐธรรมนูญฉบับ นปช.ครองเมืองแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ...” อย่างนี้ให้ผ่านมาได้อย่างไร มันเป็นการใส่ร้ายชัดเจน ขอให้ประธานกรรมาธิการฯ ชี้แจงเรื่องนี้

โดย นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานกรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า ทั้งสองคนเป็นกรรมาธิการ โดยที่ประชุมเปิดโอกาสให้ทุกคนเสนอขอแปรญัตติ ทั้งสองคนไม่ได้ยกคำแปรญัตติขึ้นมาสู่การพิจารณา แต่อาศัยสิทธิในฐานะเป็นกรรมาธิการ สงวนความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรภายหลังหลังจากที่ประชุมสรุปยืนยันตามกรรมาธิการเสียงข้างมากแล้ว ในความเห็นของตน เห็นว่าทั้งสองคน ใช้ถ้อยคำที่ขัดต่อข้อบังคับ จึงไม่สามารถที่จะพิจารณาได้

นายเทพไทกล่าวว่า การขอแปรญัตติของตนเป็นเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุม ประธานมีสิทธิ์อะไรมาท้วงติง ในเมื่อประธานกรรมาธิการยอมรับแล้วว่ามีการขอสงวนคำแปรญัตติแบบนี้ ตนเกรงว่าชื่อนี้อาจจะได้รับการโหวตด้วยซ้ำไป โดยเฉพาะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติกับ พ.ต.ท.ทักษิณ

อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ยังย้ำให้ถอนคำพูด เพราะเป็นไม่ได้ที่จะมีรัฐธรรมนูญชื่อนี้เพราะเป็นการขัดข้อบังคับและเสียดสีใส่ร้ายชัดเจน ขณะที่นายสามารถกล่าวว่าในเมื่อกรรมาธิการเสียงข้างมากยืนยันตามร่างเดิม ก็ไม่ต้องให้มีการอภิปรายมาก ขอเสนอให้ประธานตัดสินลงมติได้เลย

นายเทพไทกล่าวตอบโต้ว่า ถ้าไม่อนุญาตก็ไม่จำเป็นต้องใส่เข้ามาในรายงาน แต่เมื่อใส่เข้ามา ตนก็จำเป็นต้องอธิบาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดา ส.ส.เพื่อไทยต่างพยายามอภิปรายสนับสนุนคำพูดของนายสามารถ โดยนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐธรรมนูญเป็นกEหมายสูงสุดไม่ควรนำมาล้อเล่น ประชดประชันก่อให้เกิดความเสียหาย ไม่เหมาะสม แม้จะเป็นสิทธิ แต่เมื่อนำเข้าสู่สภาซึ่งเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ การเขียนถ้อยคำที่ไม่สมควร สมาชิกควรพิจารณาถอนคำแปรญัตติ เพราะมีแต่ความรู้สึกอคติ

ขณะที่ฝ่ายค้านพยายามอภิปรายท้วงติง โดยนายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตามข้อบังคับกรรมาธิการมีสิทธิสงวนคำแปรอย่างไรก็ได้ และในข้อ 58 ยังให้สิทธิกรรมาธิการอภิปรายก่อน ไม่มีข้อไหนห้ามอภิปรายว่าถ้าไม่ถูกใจไม่ให้อภิปรายไม่ได้ และไม่เคยมีประเพณีปฏิบัติในสภานี้ที่จะไม่ให้ผู้สงวนคำแปรญัตติอภิปราย

หลังจากถกเถียงกันพอสมควร นายสมศักดิ์ยอมให้นายเทพไทอภิปรายต่อ แต่กำชับให้อภิปรายด้วยความระมัดระวัง โดยนายเทพไทกล่าวว่า ตนไม่คิดที่จะล้อเล่น หรือเสียดสี เพราะถือเป็นเกียรติด้วยซ้ำ และไม่เคยเห็นรัฐธรรมนูญฉบับไหนรวบรัดขนาดนี้ เพื่อทำตามความต้องการของใครบางคน เพื่อให้สมาชิกของรัฐบาลไปปรดน้ำดำหัวที่ลาว และเขมร เป็นการเอาเรื่องส่วนตัวประโยชน์ส่วนตนมากกว่ากฎหมายของประเทศ หากการประชุมวันที่ 10-11 เม.ย.ไม่เสร็จ ควรประชุมต่อหลังสงกรานต์ ไม่จำเป็นต้องลุกลี้ลุกลน แก้ไม่เสร็จไม่มีใครจะเป็นจะตาย อยากให้ความสำคัญกับห้วงเวลาด้วย ตนเชื่อว่ามีธงใบสั่งให้ทำเรื่องนี้จบสิ้นก่อนสงกรานต์ ถ้าทำเสร็จและจะนำไปไปเป็นผลงานของขวัญวันสงกรานต์ให้กับนายใหญ่ เหมาสมะและสอดคล้องกับร่างที่ตนสงวนเอาไว้ และยังเป็นการให้เกียรติกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงขอให้สมาชิกลงมติเห็นตามตนเสนอ

ส่วน นายสาธิตกล่าวว่า การถ่ายทอดสดมีปัญหาเพราะประธานเร่งรีบรวดรัดประชุมทำให้ติดการถ่ายทอดพระราชพิธีสำคัญและยังมีความไม่สมบูรณ์ของรายงานแต่ไม่ยอมเอากลับไปทำใหม่ ทั้งที่บอกว่าคำแปรของตนผิด การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ตนไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้น หากจะมีการแก้ไขแต่ต้องมีเหตุผลสนับสนุนพอสมควรเพราะยังมีปัญหาบ้านเมืองมากมายให้เร่งแก้ไข กล้ากลับไปถามประชาชนหรือไม่ว่า ถ้าให้เลือกระหว่างให้รัฐบาลไปแก้ปัญหาราคาข้าว ราคามันสำปะหลัง กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อะไรเร่งด่วนกว่ากัน ความคาดเดาของสังคมไม่ผิดว่ากำลังเอาการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปเสี่ยงกับหนทางของบ้านเมือง ไม่แปลกใจทำไมหวงแหนร่างของรัฐบาลกันมากเพราะต้องการล็อกสเปก ส.ส.ร. จนถึงขนาดต้องการกลับมติใหม่ เหตุที่ตั้งชื่อนี้เพราะพฤติกรรมที่เร่งรีบรวบรัดและบริหารจัดการให้เป็นไปตามกำหนดตามที่กรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่ต้องการ ตนมั่นใจว่าร่างแก้ไขของกรรมาธิการนี้ไม่สมบูรณ์ ส่วนจะนำไปสู่การยื่นศาล รธน.หรือไม่เป็นเรื่องที่จะพิจารณาต่อไป

ขณะที่ นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้สงวนคำแปรญัตติเปลี่ยนชื่อร่าง ว่า “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ที่มาจากการลงประชามติเห็นชอบของประชาชนจำนวน 14.7ล้านเสียง) (ฉบับที่....) พ.ศ.... ทั้งนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดนั้น มีเหตุผลเดียวเพราะบางคนไม่ชอบ จึงมีการผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยถึงขั้นจ่ายเงินให้ 2 แสนบาท อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจำนวนเสียงที่ลงมติรับรัฐธรรมนูญ 2550 มี 14.7 ล้านเสียง ส่วนเสียงของพรรคเพื่อไทยที่ระบุว่าเห็นชอบให้แก้รัฐธรรมนูญ มีประมาณ 15 ล้านเสียง ซึ่งถือว่ามีจำนวนเท่าๆ กัน ดังนั้นจะมาใช้เสียงข้างมากลากไปในรัฐสภาไม่ได้

ต่อมา นายสามารถ แก้วมีชัย ประธาน กมธ.ชี้แจงว่า ถ้อยคำที่บัญญัติไว้ตามที่กรรมาธิการเสียงข้างมากเห็นชอบเรียกว่า “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ...” ซึ่งเป็นถ้อยคำเดิมที่รัฐสภารับหลักการ ดังนั้นจึงขอยืนยันมาตรา 1 ตามถ้อยคำเดิมทุกประการ ในที่สุดที่ประชุมได้มีการลงมติเห็นชอบตาม กมธ.เสียงข้างมาก ให้ยืนยันตามถ้อยคำเดิมของมาตรา 1 คือ ให้เรียกว่า “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ...” ด้วยคะแนน 353 ต่อ 107 คะแนน งดออกเสียง 18 และไม่ลงคะแนนเสียง 3 คะแนน

ต่อมาฝ่ายค้านยังคงหยิบยกปัญหาเรื่องการไม่มีรายชื่อผู้ขอสงวนคำแปรญญัติมาอภิปรายอีก เพื่อยืนยันว่าร่างแก้ไขไม่ถูกต้องสมบูรณ์ และควรจะถอนร่างออกไป โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง กล่าวประท้วงนายสมศักดิ์ ว่าผิดข้อบังคับ 97 ว่าต้องมีการประกอบร่างเดิมกับที่ กมธ.แปรญัตติด้วย แต่ไม่มีการเสนอคำแปรญัตติของตน เช่น มาตรา 2 ตนไม่ได้ขอสงวนคำแปรญัตติเลย แต่กลับมีรายชื่อว่าตนขอสงวนไว้ ดังนั้นจะปล่อยให้พิจารณาต่อไปได้อย่างไร ถ้าดำเนินการต่อไปขัดข้อบังคับดังกล่าว

นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กมธ.เสียงข้างน้อย กล่าวว่า หากไม่ถอนรายงานออกไปจะนำไปสู่ทางตัน เพราะเมื่อมีการยื่นเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ารายงานไม่ชอบ อาจทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญล่าช้าออกไป

นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีรายชื่อใครตกหล่น แต่สมาชิกอาจะหาไม่เจอ เพราะมีผู้แปรญัตติมากถึง 178 คน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็พบรายชื่อทุกคน ร่วมทั้งรายชื่อของนายนิพิฏฐ์ ซึ่งตนตั้งใจจะมอบรายชื่อหลังจากพิจารณามาตรา 291/1 และยืนยันว่ารายชื่อดังกล่าวที่ตกหล่นไม่ได้พึ่งพิมพ์เมื่อมีการประท้วง พร้อมทั้งยืนยันว่าขั้นตอนการพิจารณาของรายงานถูกต้องทุกขั้นตอน

ขณะที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยต่างอภิปรายสนับสนุน โดยกล่าวหาว่าฝ่ายค้านเล่นเกมตื้นๆ เพื่อขัดขวาง ดึงเกมไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กำลังทำให้เรื่องนี้ติดขัด ควรจะปล่อยๆ กันไป ความผิดมนุษย์เกิดขึ้นได้เสมอ

ด้าน พล.อ.ธีรเดช มีเพียร รองประธานรัฐสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พยายามตัดบทให้ดำเนินการพิจารณามาตราต่อไปโดยไม่สนใจคำทักท้วง และว่า กมธ.ได้ชี้แจงถูกต้องแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น