xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.สับรัฐแก้ของแพงที่ปลายเหตุ ชี้ขึ้นค่าแรง 300 ทำเอสเอ็มอีเจ๊งนับแสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
“อภิรักษ์” เผยที่ประชุม ครม.เงาซัดรัฐแก้ของแพงที่ปลายเหตุ ชี้โชวห่วยช่วยชาติกระจายไม่ทั่วแถมไร้มาตรการซื้อเวียน ส่อใช้งบ 1.6 พันล้านไม่คุ้ม แนะให้งบศึกษาโครงสร้างต้นทุนและช่วยลดต้นทุนจะดีกว่า สับรัฐเมินทบทวนราคาก๊าซกระทบสินค้าขึ้น ฉะ พณ.คุมราคาก็ไร้ผล แฉค่าแรง 300 ทำเอสเอ็มอีเจ๊งนับแสน จี้แก้ผลผลิตเกษตรเชิงรุก “อรรถวิชช์” เย้ยใช้งบแก้ท่วมไม่โปร่งใสเหมือนไทยเข้มแข็ง

วันนี้ (4 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุม ครม.เงาว่า จากการตรวจสอบการแก้ปัญหาสินค้าราแพงของรัฐบาลพบว่ายังเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ โดยเฉพาะโครงการโชวห่วยช่วยชาติที่ใช้งบประมาณกว่า 1,600 ล้านบาท โดยกำหนดหนึ่งร้านค้าหนึ่งขุมชนมีเป้าหมาย 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ซึ่งกระจายไม่ทั่วถึง และการขายสินค้าที่กว่าท้องตลาด 20% ก็ยังไม่มีมาตรการป้องกันการเวียนเทียนซื้อสินค้าเพื่อนำไปขายต่อ จึงเห็นว่าเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่คุ้มค่า โดยรัฐบาลควรให้งบประมาณเพื่อศึกษาโครงสร้างต้นทุนสินค้าจำเป็น และกำหนดมาตรการช่วยลดต้นทุน จะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และทำให้ราคาปลายทางมีความเป็นธรรมต่อผู้บริโภคทั่วประเทศ ทั้งนี้ยังเห็นว่านโยบายพลังงานที่ผิดพลาดและรัฐบาลไม่ยอมทบทวนโดยมีการปรับราคาแก๊สเอ็นจีวี แอลพีจี และดีเซล สูงขึ้นกระทบต่อต้นทุนการผลิตทำให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย โดยจะเป็นภาระต่อประชาชนอย่างมาก เพราะ 55% ของค่าใช้จ่ายประชาชนเป็นค่าอาหาร และค่าเดินทาง นอกจากนี้ยังพบว่าการประกาศควบคุมราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์ไม่ได้ผลในทางปฏิบัติ

นอกจากนี้ ครม.เงาพรรคประชาธิปัตย์ ยังเป็นห่วงการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นมาใน 7 จังหัดและ 40% ในจังหวัดอื่นๆ นั้น เป็นการปรับค่าแรงแบบก้าวกระโดดทำให้ผู้ประกอบการปรับตัวไม่ทันและได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มแอล ซึ่งจะต้องปิดตัวลงนับแสนราย และธุรกิจโรงแรม และบริการ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดมาตรการพิเศษในการช่วยเหลือด้วย เพราะผู้ประกอบการเหล่านี้ไม่ได้ประโยชน์จากมาตรการลดภาษีนิติบุคคลธรรมดาจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 23 โดยผู้ที่ได้ประโยชน์คือบริษัทใหญ่ และอุตสาหกรรมบางประเภทเท่านั้น อีกทั้งแรงงานนอกระบบ 24 ล้านคนก็ไม่ได้ประโยชน์จากการปรับค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลชุดนี้

นายอภิรักษ์ยังวิเคราะห์ถึงแนวทางแก้ปัญหาสินค้าการเกษตรตกต่ำของรัฐบาลว่า มุ่งแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่มีการกำหนดมาตรการเชิงรุก ต้องรอให้เกษตรกรออกมาปิดถนนเรียกร้องจึงค่อยเข้าไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหายางพารา มันสำปะหลัง และสับปะรด จึงขอให้รัฐบาลกำหนดมาตรการเชิงรุกในการเข้าไปศึกษาโครงสร้างต้นทุน จัดหาตลาดรองรับผลไม้ที่กำลังจะออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้ แทนที่จะตามแก้ที่ปลายเหตุเมือนที่ผ่านมา และเห็นว่ารัฐบาลต้องปรับปรุงนโยบายในการดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชนทั้งระบบ

ด้าน นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี โฆษก ครม.เงาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงการเบิกจ่ายงบกลาง 1.2 แสนล้าน ซึ่งพบว่ารัฐบาลยังบริหารแบบปกติในการจัดการแก้ปัญหาน้ำท่วม ไม่ได้เป็นการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยพบว่าตัวเลขการเบิกจ่ายในกระทรวงหลัก เช่น เกษตร คมนาคม และมหาดไทย ยังมีการเบิกจ่ายไม่ถึงร้อยละ 5 และยังมีปัญหาเรื่องความโปร่งใสจึงขอให้มีการตรวจสอบได้ เช่น กรณีงบไทยเข้มแข็งของรัฐบาลชุดที่แล้ว เปิดโอกาสให้ติดตามผ่านเว็บไซต์ได้ว่าแต่ละโครงการอยู่ในขั้นตอนใดแต่ยังไม่เห็นความโปร่งใสในการดำเนินการให้ตรวจสอบได้ของรัฐบาลชุดนี้

นายอรรถวิชช์กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ พร้อมก้บฝากถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องขอให้ลดการให้ข่าวต่อสาธารณชน เพราะมีความอ่อนไหวมาก หากไม่ระมัดระวังอาจกลายเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น