xs
xsm
sm
md
lg

“เสธ.หนั่น-บิ๊กบัง” ใครลับ-ลวง-พราง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง


งานเสวนาเวทีรับฟังความคิดเห็น “ข้อเสนอเพื่อการสร้างความปรองดองแห่งชาติ”ของสถาบันพระปกเกล้า ที่นำเสนอต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการสร้างแนวทางการปรองดองแห่งชาติ หรือกมธ.ปรองดอง สภาผู้แทนราษฎร ชุดพลเอกสนธิ บุญยกลิน เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2555 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น

ไม่มีใครคาดว่า พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนาจะกระโดดมาเข้าฉากแย่งซีนของทุกคนในวงเสวนาไปหมด ด้วยการโยนคำถามฆาตกรรมพลเอก สนธิตายคาจอทีวี

พลตรีสนั่นไปร่วมงานวันดังกล่าวในฐานะตัวแทนพรรคชาติไทยพัฒนา ก่อนหน้านี้เคยรับอาสาเล่นบทนักเจรจาปรองดองช่วงการเลือกตั้ง3กรกฎาคม 2554 เพื่อหวังชูจุดขาย มือปรองดอง -พรรคสมานฉันท์มาแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

แม้จะให้สัมภาษณ์ก่อนการเริ่มงานว่า จะถามพลเอกสนธิ แบบลูกผู้ชายถึงสาเหตุการทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เพื่อให้พลเอกสนธิตอบคำถามให้คลายใจประชาชนที่มีการถ่ายทอดสดการเสวนาทางโทรทัศน์

เสธ.หนั่นบอกว่าจะถามพลเอกสนธิ ในฐานะอดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ถึงสาเหตุการทำรัฐประหาร คนฟังก็คิดว่าเสธ.หนั่นคงแค่ถามพอเป็นพิธี ให้เวทีรับฟังความคิดเห็นดังกล่าว มีสีสันการเมืองบ้าง ไม่ใช่เวทีเอาเอกสารวิจัยสถาบันพระปกเกล้ามานั่งคุยกันอย่างน่าเบื่อ

ที่ไหนได้ เสธ.หนั่น ที่ประกาศจะเล่นการเมืองสมัยนี้เป็นสมัยสุดท้าย กลับโยนคำถามชนิด เรียกเสียงฮือฮากันทั้งประเทศ บนข้อสงสัยว่า เสธ.หนั่นมีเจตนาอะไร กับคำถาม 3ข้อดังนี้

1.ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการปฎิวัติ ตัวท่านเองหรือไม่ที่มีเหตุผลจูงใจส่วนตัว เนื่องจากประชาชนมีความแคลงใจว่าอำมาตย์และผู้ที่อยู่เหนือรัฐธรรมนูญเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งแม้กระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มคนเสื้อแดงก็ยังเข้าใจเช่นนั้น

2.เมื่อเกิดการปฏิวัติแล้ว ท่านและคณะปฏิวัติได้เข้าเฝ้าถวายรายงานฯ โดยมี พล.เอก เปรม ติณสูลานนท์ เป็นผู้นำท่านเข้าเฝ้าและรู้เห็นถึงการปฏิวัติในครั้งนั้นหรือไม่ และท่านเคยเข้าพบท่านองคมนตรีหรือไม่

3.ภายหลังเกิดความขัดแย้งทางการเมือง พล.อ.เปรม ได้เคยขอร้องให้ออกมาพูดความจริงโดยผ่าน พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ถึง 2 ครั้งใช่หรือไม่ และท่านได้ออกมาพูดความจริงหรือไม่

แน่นอนว่า ความลับ ก็คือ ความลับ ไม่มีทางที่พลเอกสนธิจะมาพูดเรื่องแบบนี้ ต่อสาธารณชน มันต้องเป็นความลับที่ตายไปพร้อมกับหัวหน้าคณะรัฐประหาร 19 ก.ย. 49

พลเอกสนธิ ไม่หลงกลแน่นอน แต่สิ่งที่ผู้คนสงสัยคือ เสธ.หนั่น หวังผลอะไรกับเรื่องนี้ ไปรับงานใครมาหรือไม่กับการเล่นเกมนี้บนเวทีเสวนาปรองดอง

บางคนก็คิดไปว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่เสธ.หนั่นต้องการดิสเครดิตพลเอกสนธิว่าเป็นคนที่ทำรัฐประหาร19 ก.ย. 49 ตามคำสั่งคนอื่น ไม่ได้คิดและต้องการจะทำปฏิวัติ ดังนั้น เสธ.หนั่นเลยต้องการชี้ว่า เมื่อทำปฏิวัติยังมีคนอยู่เบื้องหลัง แล้วการที่ “บิ๊กบัง”มาทำหน้าที่ประธานกมธ.ปรองดอง

จะมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่?

ยิ่งการที่กมธ.ปรองดอง พยายามเร่งรัดผลักดันแนวทางการปรองดองตามข้อเสนอสถาบันพระปกเกล้า ด้วยการจะให้ล้มคดีคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)และนิรโทษกรรมคดีชุมนุมทางการเมือง เพื่อหวังใช้เป็นบันไดให้พรรคเพื่อไทยออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับทักษิณ ชินวัตร

แล้วจะเป็นไปได้หรือไม่ที่ “บิ๊กบัง” จะมีใครอีกคนอยู่เบื้องหลัง ชนิดที่หลายคนอาจเดาทาง “บิ๊กบัง”ผิดหมด

จากที่เคยคิดว่าพลเอกสนธิรับงานทักษิณ ชินวัตร ก็อาจไม่ใช่ แต่เป็นใคร หรือจะเป็นคนที่เสธ.หนั่นเอ่ยชื่อถามว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ กับการทำรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 หรือเปล่า?

เสธ.หนั่นอาจต้องการไขข้อสงสัยบางอย่างว่าแท้จริงแล้วมันเป็นเกมที่ “บิ๊กบัง” รับงานมาเพื่อ ทำแผนปรองดองระหว่างกลุ่มอำมาตย์กับทักษิณ ชินวัตร เพื่อให้ทั้งสองฝ่าย วิน-วิน เลิกแล้วต่อกัน โดยตัวเองคือ “บิ๊กบัง”ยอมถูกเข้าใจผิดกันทั้งหมด เพื่อภารกิจนี้

หากเป็นไปตามการคาดการบนทฤษฎีนี้ ก็ถือว่า “บิ๊กบัง”และคนที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนทั้งหมด ทำได้เนียน ชนิดกว่าจะรู้ทัน ผู้คนโดนแหกตากันทั้งประเทศ !

อย่างไรก็ตาม นี้เป็นแค่การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในกรอบหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายความเป็นไปได้ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง การที่เสธ.หนั่น พยายามขุดเรื่อง

ป๋าเปรม-ปฏิวัติ 19ก.ย. 49 -อำมาตย์-ผู้อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ-ทักษิณ-เสื้อแดง

ให้กลับมาอยู่บนกระดานการต่อรองเรื่องการปรองดองแต่เป็นการเคลื่อนไหวของเสธ.หนั่น ที่อ่านนัยยะแล้ว ไม่ได้มุ่งหวังให้ทุกอย่างหมดสิ้นข้อสงสัยของสังคมเสียก่อนแล้วถึงค่อยเดินหน้าปรองดองอย่างที่เสธ.หนั่นอ้างไว้ แต่น่าจะเป็นการหวังผลอะไรบางอย่างที่คงต้อง “ถอดรหัส”กันหลายจิ๊กซอว์และใช้เวลาพอควรสำหรับการแกะรอยเบื้องหน้าเบื้องหลังเรื่องนี้ ซึ่งดูแล้ว ต้องมีอะไรซ่อนอยู่มากมาย

แม้แต่ความเป็นไปได้ ที่มันอาจเป็นความต้องการของทักษิณเองด้วยก็ได้ ที่ต้องการให้เสธ.หนั่นเดินแผนนี้ เพราะเสธ.หนั่นกับทักษิณ ก็สายสัมพันธ์ดีต่อกันอยู่แล้ว ข้อสงสัย 3ข้อนี้ ทักษิณย่อมต้องการอยากรู้จาก “บิ๊กบัง”อยู่แล้ว และเชื่อว่าต้องเคยคุยกันแล้วแบบลับๆ แต่เป็นการคุยกันแบบ ไม่มีใครรับรู้

ทักษิณก็อาจอยากให้เสธ.หนั่นเป็นคนถาม “บิ๊กบัง”ต่อหน้าผู้คน ทั้งที่รู้ว่าพลเอกสนธิย่อมไม่ตอบ แต่เมื่อคำถามถูกถามไปแล้วผ่านการรับรู้ของประชาชนทั้งประเทศ แค่นี้ทักษิณก็พอใจแล้ว เพราะคงไม่มีโอกาสไหนเหมาะเท่านี้แล้ว และไม่มีใครเก๋าส์พอเท่าเสธ.หนั่น ซึ่งไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว

ก็ไม่แน่เช่นกัน ที่เสธ.หนั่นก็อาจเป็นคนเล่มเกม ลับ ลวง พราง เสียเอง หาใช่ “บิ๊กบัง” ต้นตำรับ

ถึงได้บอกตอนต้นว่า เกมปรองดองที่กำลังเริ่มต้น จับตาดูกันให้ดี มันมี หมากซ่อนหมาก ไว้ทุกจังหวะการเดิน หากใครอ่านเกมไม่ออก หรืออ่านพลาด อ่านแค่ชั้นเดียว ทั้งที่มีหลายชั้น ก็ตามไม่ทันเบื้องหลังการจัดการทั้งหมดแน่นอน

อย่างไรก็ตาม “ทีมข่าวการเมืองASTVผู้จัดการ”ขอโฟกัสเฉพาะเกมเบื้องหน้าที่เห็นกันตอนนี้่ก่อน กมธ.ปรองดอง เร่งเดินหน้าส่งรายงานกมธ.ที่ยึดกรอบของพระปกเกล้า ที่ให้นิรโทษกรรมคดีชุมนุมการเมืองและล้มคดีคตส. ให้สภาผู้แทนราษฏรเห็นชอบโดยมีการวางแผนเอาไว้ว่าต้องการให้เสร็จก่อน18 เมษายน 2555 คือให้ทันก่อนที่สภาฯจะปิด เพื่อที่พอเปิดสมัยประชุมหน้ามา ก็จะได้มีการชงร่างกฎหมายปรองดองเข้าสภาฯ ไปเลย เพราะถือว่า สภาฯ ที่เพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลคุมเสียงข้างมากเห็นชอบไปแล้วกับข้อเสนอปรองดองของกมธ.ปรองดอง

ขณะที่กมธ.ปรองดองฝั่งปชป.บอกว่า อาจไม่ใช่สภาฯสมัยหน้าที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรม แต่อาจเป็นสมัยนี้ก็ได้ เพราะตอนนี้รัฐบาลโดยร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็บอกมาตลอดว่ามีกฎหมายปรองดอง 6 มาตราอยู่ในมือหมดแล้ว พร้อมเสนอเข้าสภาฯได้ทุกเมื่อ

แต่ “เรา-ทีมข่าวการเมือง”ก็ประเมินว่า ทุกอย่างไม่น่าจะทำได้โดยง่ายดายนัก เพราะแค่เริ่มต้น ของการพยายามรวบรัดจะสรุปรายงานของกมธ.ปรองดอง ที่จะทั้งล้มคดีความคตส.ทั้งหมด รวมถึงการนิรโทษกรรมคดีชุมนุมการเมืองทั้งหมด ทั้งที่บางฝ่ายก็บอกว่าไม่ต้องการให้มีการนิรโทษกรรมแต่ขอต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมปกติ เช่นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ประกาศชัดเจน แต่พวกฝ่ายกมธ.เพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลก็พยายามจะรวบรัดเอาคนทุกกลุ่มทุกสีมาเป็นตัวพ่วงไปด้วย

เพื่อหวังลดแรงต้าน ว่าออกกฎหมายเพื่อช่วยคนๆเดียวอย่างทักษิณ ชินวัตรหรือทักษิณกับพวกพ้องเช่นแกนนำเสื้อแดงให้พ้นผิด เพราะเมื่อมีหลายกลุ่มได้อานิสงส์ไปด้วย แรงต้านก็จะได้ลดน้อยลง และสร้างความชอบธรรมให้กับฝั่งตัวเอง

เหมือนกับที่ กมธ.ปรองดองได้เห็นชอบกับข้อเสนอเรื่องการทบทวนคดีความคตส.จากที่นักวิจัยสถาบันพระปกเกล้าเสนอไป3แนวทาง ดังนี้

ทางเลือกที่1 ดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาด้วยกระบวนการยุติธรรมตามปกติโดยให้พิจารณา เฉพาะผลการพิจารณาของคตส.สิ้นผลลงและโอนคดีทั้งหมดให้ป.ป.ช.ดำเนินการใหม่ แต่ไม่กระทบถึงคดีที่ถึงที่สุดแล้ว

ทางเลือกที่2 ให้เพิกถอนผลทางกฎหมายที่ดำเนินการโดยคตส.ทั้งหมด และให้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมปกติ โดยให้ถือว่าคดีดังกล่าวไม่ขาดอายุความ

ทางเลือกที่3 ให้เพิกถอนผลทางกฎหมายที่ดำเนินการโดยคตส.ทั้งหมด และไม่นำคดีที่อยู่ระหว่างกระบวนการและการตัดสินไปแล้วมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้ไม่ว่าทางเลือกใดจะต้องไม่มีการฟ้องร้องคตส.ในเวลาต่อมา เพราะให้ถือว่าการกระทำของคตส.เป็นไปตามหน้าทีทที่กำหนดไว้ขณะนั้น

แต่เสียงส่วนใหญ่คือสายพรรคร่วมรัฐบาลก็พร้อมใจกันโหวตในข้อที่ให้ประโยชน์กับทักษิณและฝั่งตัวเองมากที่สุด

นั่นคือ ข้อ 3 ที่ก็คือการเขียนด้วยมือ ลบด้วยตีน ของพลเอกสนธิ ผู้ลงนามตั้งกรรมการคตส.ให้มาจับทุจริตระบอบทักษิณ แต่มาวันนี้ พลเอกสนธิ ก็เตรียมชงข้อเสนอเป็นบันไดให้สภาฯออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อบอกว่า ทุกอย่างที่คตส.ทำ แม้แต่การสอบสวนทำคดีจนศาลฎีกาตัดสินว่าทักษิณทำผิดจริงคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯและคดียึดทรัพย์ มันเป็นสิ่งที่ใช้ไม่ได้ เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ

หากสภาเพื่อไทย จะดึงดัน กดปุ่มเดินหน้าช่วย “ล้างผิด”ทักษิณผ่านเครื่องมือการเมืองที่ฝั่งตัวเองคุมความได้เปรียบไว้แล้วใช้วิธีการที่สุจริตชนยากจะยอมรับได้

การหวังใช้กมธ.ปรองดอง ออกรายงานอัปยศแบบนี้เป็นบันไดขั้นแรก เมื่อถึงวันที่บันไดขั้นที่ 2 และ 3 ของทักษิณและเพื่อไทยตามมาอีก คงได้รู้กันตอนนั้นว่า แม้มีเสียงข้างมากในสภาฯ แต่หากทำงานแบบสภาทาส-สภาโจรให้ระบอบทักษิณ

ก็อาจได้เห็น คนดีคนกล้าคนรักประเทศชาติบ้านเมืองที่ไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ไปตบเท้าแสดงพลังหน้ารัฐสภากันอีกรอบ แล้วจะหาว่าไม่เตือน
กำลังโหลดความคิดเห็น