“คำนูณ” แนะกองทัพใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150 วรรค 9 ส่งทนายซักค้านคดี 16 ศพชุมนุมเสื้อแดง ชี้หากปล่อยให้ศาลมีคำสั่งตามสำนวนอัยการ ทหารจะถูกจับเป็นตัวประกันทันที เพื่อแลกกับการยอมรับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อีกทั้งจะถูกตราหน้าว่าฆ่าประชาชน แล้วต่อไปใครจะกล้าปฏิบัติหน้าที่อีก
วันที่ 15 มี.ค. นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา และรองประธานคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาลของวุฒิสภา และ พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ ส.ว.วรรหา และประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาปฏิรูประบบงานความมั่นคง ได้ร่วมในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
นายคำนูณกล่าวถึงคดี 16 ศพในการชุมนุมเสื้อแดงว่า เรื่องนี้ถ้าทหารคิดไม่เป็นเจ๊งแน่ๆ ทุกครั้งหลังการปราบจลาจลมันต้องตามมาด้วยกฎหมายนิรโทษกรรม แต่ครั้งนี้ไม่มี และแปลกคดีที่ทหารตายไม่คืบหน้า ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ว่ามีชายชุดดำ แต่ไม่สามารถหาตัวได้เลย แล้วมีคดีอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่รู้สาเหตุการตาย โดยมีทั้งสิ้น 16 ศพ ที่ดีเอสไอส่งเรื่องมายังนครบาล ที่อ้างว่าเป็นการตายจากเจ้าหน้าที่รัฐ
การสืบสวนของตำรวจ มีการชันสูตรพลิกศพ ระบุว่าตายโดยเจ้าพนักงานของรัฐ ซึ่งอ้างว่าขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ถ่วงดุลไว้ 3 ฝ่าย คือตำรวจ แล้วก็ให้เจ้าพนักงานอัยการมาร่วมชันสูตรพลิกศพด้วย แค่นั้นยังไม่พอ ยังให้เจ้าพนักงานอัยการทำสำนวนยื่นร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าเป็นการตายที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติหน้าที่ ตอนนี้คดีมาถึงจุดนี้
อัยการยื่นไปแล้วรวมทั้งสิ้น 4 สำนวน 4 ศพ เมื่อ 17 ก.พ. 2555 นายชาญณรงค์ พลศรีลา วันที่ 21 ก.พ. คดีนายพัน คำกอง วันที่ 22 ก.พ. คดี ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ และ 24 ก.พ. คดีพลทหาร ณรงริท สาละ
ซึ่งคดีแรก ศาลนัดไต่สวนนัดแรก 12 มี.ค. แต่เกิดการผิดพลาดไม่ทัน จึงเลื่อนไป 18 มิ.ย. ศพที่ 2 จะไต่สวน 23 เม.ย. คดี ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ ไต่สวน 24 พ.ค. ความหมายคือถ้าศาลมีคำสั่งตามคำร้องว่าเป็นการตายที่เกิดจากเจ้าหน้าที่ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติหน้าที่ นั่นก็คือทหาร ไม่ใช่คนอื่นเลย ก่อนนี้มีคนโฆษณาว่าทหารฆ่าประชาชน แต่ถ้าศาลมีคำสั่งออกมาแบบนี้ ก็จะไม่ใช่แค่การโฆษณาแล้ว อีกทั้งมี 2 ศพที่เป็นชาวต่างชาติ แน่นอนต่างชาติจะต้องให้ความสนใจอย่างมาก ถ้าศาลมีคำสั่งออกมาแบบนี้
นายคำนูณกล่าวต่อว่า ตนพูดกับปลัดกระทรวงกลาโหม (พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์) และคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาปฏิรูประบบงานความมั่นคง ก็จะต้องพบกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด (พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) ผู้บัญชาการทหารบก (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ซึ่งตนก็จะถามอีกว่ากองทัพได้คิดบ้างหรือไม่ว่าตัวเองกำลังจะเดินไปสู่กับดักอันใหญ่โตมโหฬาร คิดจะแก้หมากเกมนี้อย่างไร
“ผมก็บอกว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150 วรรค 9 มันมีช่องเปิดได้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลอาจเรียกสืบพยานอื่นใดเพิ่มเติมก็ได้ ผมก็แนะว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ว่า ทางกองทัพต้องแต่งทนายความเข้าไปซักค้านในชั้นนี้ แม้ว่าไม่เคยมีประเพณีปฏิบัติมาก่อน แต่ว่าถ้ากองทัพไม่สู้ตั้งแต่ชั้นนี้เลย ปล่อยให้ศาลมีคำสั่งออกมาว่าการตายของทุกศพ เป็นการกระทำของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติหน้าที่ ใครจะเดือดร้อน ทหารโดยรวมเดือดร้อน จะถูกตราหน้าไปตลอดว่าฆ่าประชาชน ฆ่าเด็กด้วย ทหารจะถูกจับเป็นตัวประกันทันที ให้ต้องสนับสนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือ พ.ร.บ.ปรองดอง อะไรก็แล้วแต่ เพราะไม่อย่างนั้นคำสั่งของศาลอันนี้ และคดีที่เจ้าพนักงานสืบสวน จะต้องเดินหน้าหาตัวผู้กระทำการต่อไป มันจะเป็นชนักปักหลังให้ไม่สบายใจตลอดเวลา ทหารทั่วไปก็ต้องรู้สึกกระทบกระเทือน ต่อไปถ้ามีเหตุต้องใช้ทหารอีก ใครจะกล้าปฏิบัติการ
ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ถ้าตอบคำถามอันนี้ไม่ได้ ต่อไปเลิกคิดที่จะใช้กำลังทหารได้เลย และแม้มีข่าวว่ารัฐมนตรีบางคนรับรองว่าจะไม่มีการหาตัวคนผิด แต่จะไว้ใจได้หรือว่าพูดจริง ขนาดแค่ในสำนวนยังระบุหน่วยงานของทหารเลย” นายคำนูณ กล่าว
ส.ว.สรรหากล่าวอีกว่า จะเรียกผู้บังคับบัญชาจากกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 31 และผู้บังคับบัญชาจากกองพันทหารราบที่ 3 ไปให้ปากคำ ขอถามผู้บังคับบัญชาของทหารทั้ง 2 หน่วยว่ามีความสุขหรือเปล่าเวลาไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน หรือผู้บัญชาการทหารสูงสุดรู้สึกอย่างไร ที่ลูกน้องที่ปฏิบัติตามคำสั่งของท่านต้องไปแก้คดี หรือไปให้ปากคำ
ถ้ากองทัพนิ่งเฉย แล้วปล่อยให้กระบวนการไต่สวนในศาล ในชั้นชันสูตรพลิกศพ ดำเนินไปฝ่ายเดียว โดยที่กองทัพไม่ส่งทนายความเข้าไปซักค้าน หรือเข้าไปสืบ ตนว่าไม่ฉลาด เพราะว่าศาลไม่มีทางสั่งการเป็นอย่างอื่นเลย นอกจากสั่งตามที่สำนวนที่เจ้าพนักงานอัยการว่ามา ถามว่าท่านผู้บังคับบัญชาไม่เห็นแก่ศักดิ์ศรีของกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 31 แลกองพันทหารราบที่ 3 บ้างหรือ
ตนว่าเรื่องนี้ความสำคัญอย่างใหญ่หลวง ไม่ใช่ว่าแต่งตั้งทนายความเข้าไปแล้วศาลจะอนุญาต แต่ตนเชื่อว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150 วรรค 9 เปิดโอกาสให้ตามสมควร เจ้ากรมพระธรรมนูญ ท่านปลัดกระทรวงกลาโหม ท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด ท่านผู้บัญชาการทหารบก จะไม่พยายามทำตั้งแต่ชั้นนี้ ถ้าปล่อยเลยชั้นนี้ไป คำสั่งของศาลจะถือเป็นที่สุด กระบวนการหาผู้กระทำผิดจะเดินหน้าต่อไป
ด้าน พล.อ.อ.วีรวิท กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นบทเรียนในการใช้กองกำลังทหาร เมื่อจำเป็นต้องใช้ทหาร ก็ต้องมีกระบวนการให้ความปลอดภัยทางด้านกฎหมาย ในกรณีที่ทหารปฏิบัติแล้วมีข้อผิดพลาด หรือปฏิบัติในลักษณะที่เข้าข่ายวิสามัญฆาตกรรม เพราะฉะนั้นกระบวนการอันนี้ก็เป็นวัตถุประสงค์อันหนึ่งที่วุฒิสภาได้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาปฏิรูประบบงานความมั่นคงขึ้นมาเพื่อศึกษา
กรรมาธิการก็ได้เรียนปลัดกระทรวงกลาโหม ให้กรมพระธรรมนูญจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลทั้ง 4 สำนวน แม้กระทั่งการชันสูตรพลิกศพ หรือการดำเนินการต่างๆ ในฐานะอัยการทหาร เข้าไปศึกษาสำนวน และหาข้อกฎหมาย เพื่อไม่ให้ทหารถูกกระทบจากตรงนี้ ซึ่งท่านปลัดก็รับไว้ และจะไปหาทางออก
