xs
xsm
sm
md
lg

รมว.กลาโหมส่ง 500 สห.ดูปีใหม่ จ่อถามฝ่าย กม.หาก “ไอ้กี้ร์” ขอดึงช่วยประกันตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (แฟ้มภาพ)
รัฐมนตรีกลาโหม สั่งกองทัพใช้ สห.ช่วยตำรวจดูความสงบปีใหม่ ดูจุดเสี่ยง-จุดสำคัญ คาดใช้ 500 นาย ให้ทัพบกดู กทม.ฝั่งใน ทัพเรือดูฝั่งธนบุรี ทัพอากาศดูแถวดอนเมือง เชื่อแดงไม่มีป่วน เผยทนาย “จอมตะกายตึก” ยังไม่ติดต่อขอใช้ตำแหน่งประกันตัว เล็งถามกรมพระธรรมนูญมีอำนาจทำแค่ไหน ไม่ยุ่งแก้ รธน.แนะฟังเสียงส่วนรวม ด้านโฆษกกลาโหมเผยผลประชุมสภากลาโหมให้เหล่าทัพจับตาสถานการณ์ ประสานข่าวตำรวจ

วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมสภากลาโหม เรื่องการดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ตนจะสั่งการในที่ประชุมสภากลาโหม โดยให้กองทัพไทย สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และ 3 เหล่าทัพ ใใช้สารวัตรทหารของแต่ละหน่วยเสริมกำลังให้ตำรวจในการดูแลความเรียบร้อย ความสงบสุขของประชาชนในวันปีใหม่ อย่าให้มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ประชาชนไม่สบายใจ หรือขาดความสุขในการเตรียมการต้อนรับปีใหม่ รวมถึงไม่อยากให้มีเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น ซึ่งการเสริมกำลังนั้นขอให้ดูจุดที่สำคัญ จุดเสี่ยงต่างๆ ว่ามีจุดไหนบ้าง จุดที่จัดงานปีใหม่ จะขอให้เอาใจใส่เสริมกำลัง ในขณะเดียวกัน ศูนย์ปฎิบัติการของเหล่าทัพที่มีอยู่ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ไปตรวจเยี่ยมและได้เห็นมา ท่านก็ได้สั่งการตนมาว่าให้ใช้ศูนย์นี้ติดตามข่าวสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ ทางตำรวจ เพื่อจะได้ดูแลให้เกิดความกระชับและแน่ใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นใน กทม.

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องแต่งตั้งสารวัตรทหารให้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า คงไม่ ซึ่งมณฑลทหารบกที่11 เป็นหน่วยหลักที่ควบคุมดูแล สารวัตรทหารโดยมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายนอกกรมกองอยู่แล้ว ทั้งนี้เราสามารถเป็นเจ้าหน้าที่ในการสนับสนุนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เบื้องต้นจะให้กำลังสารวัตรทหาร 3 เหล่าทัพ ประมาณ 400-500 นาย โดยกองทัพบกจะดู กทม.ภายใน กองทัพเรือรับผิดชอบฝั่งธนบุรี กองทัพอากาศดูแลพื้นที่ดอนเมือง

เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามเคลื่อนไหว โดยเฉพาะการกดดันให้ปล่อยตัวนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ซึ่งอาจจะเป็นเหตุให้สถานการณ์วุ่นวายมากขึ้น พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าอย่างนั้น ความสุขของประชาชนในวันปีใหม่คงจะไม่มีการก่อกวนในลักษณะที่วุ่นวายเช่นนั้น ส่วนจะมีโอกาสพูดคุยกับแกนนำคนเสื้อแดงเพื่อไม่ให้มากดดันศาลหรือไม่นั้น ไม่ใช่หน้าที่ตน ตนดูแลเรื่องความมั่นคงและความสงบสุขเป็นส่วนร่วม จะไม่เข้าไปถึงบุคคลภายในพรรค

เมื่อถามว่า ทนายของนายอริสมันต์ระบุอยากให้ รมว.กลาโหมใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีค้ำประกัน พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อหรือทาบทาม ซึ่งยังตอบไม่ได้ว่าจะทำอย่างไร แต่ถ้าได้รับการทาบทามก็ต้องหารือกับทางกฎหมายในส่วนของทหาร คือ เจ้ากรมพระธรรมนูญ ว่าเรามีอำนาจ หน้าที่ ขอบเขตความสามารถในการช่วยเหลืออย่างไร ในเรื่องของความรู้สึกในฐานะที่ตนปกครองทหารและครอบครัว เราก็เห็นใจทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ต่างๆ เราเห็นใจภรรยา ลูกที่ไม่ได้ใกล้ชิดพ่อ เพราะฉะนั้นถ้ามีขอบเขตแค่ไหนต้องคุยกันอีกทีในอนาคต ทั้งหมดนี้หากได้รับการประสานมา แต่ถ้าไม่ได้รับการประสานก็ไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงกลาโหม แต่ในเรื่องของมนุษยธรรมความรู้สึกก็อีกอย่างหนึ่ง เพราะเราปกครองกองทัพ ทหาร เห็นใจครอบครัวที่ขาดพ่อ

เมื่อถามว่า พฤติกรรมของนายอริสมันต์ ที่มีต่อบ้านเมือง สถาบัน ยิ่งใหญ่กว่าครอบครัวหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า “ก็นั้นน่ะสิ ผมจึงต้องบอกว่าต้องคุยกกับฝ่ายกฎหมายของกระทรวงก่อนว่าผมเกี่ยวข้องมีอำนาจหน้าที่แค่ไหน” เมื่อถามถึงกรณีที่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของทางการเมือง ในความรู้สึกส่วนตัวรัฐบาลควรฟังเสียงส่วนรวม และทางรัฐสภาและ ครม.จะว่าอย่างไร แต่โดยส่วนตัวแล้วตนไม่เข้าไปแตะต้องในเรื่องนี้ เมื่อถามว่า มาตราต่างๆ ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการแก้ไขเป็นเรื่องของการป้องกันการกระทำ ความผิด ควรจะคงไว้หรือต้องแก้ไข พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ต้องดูทีละมาตรา ถ้าพูดเป็นส่วนร่วมพูดยาก

พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมที่มีพล.อ.ยุทธศักดิ์ เป็นประธานในการประชุมว่า ในห้วงวันหยุดราชการเนื่องในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อาจมีกลุ่มผู้ ไม่หวังดีฉวยโอกาสนี้ก่อให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ ดำเนินการดังนี้ 1. จัดกำลังทหารสารวัตรประมาณ 400-500 นาย สนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความสงบเรียบร้อย ให้กับสถานที่ราชการและประชาชนทั่วไป เมื่อได้รับการร้องขอ ในลักษณะผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังเหตุกรณีผู้ไม่ประสงค์ดีต้องการสร้างสถานการณ์ ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมประชาชนภายหลังจากเหตุการณ์อุทกภัย 2.ให้ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และศูนย์ปฏิบัติการของเหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และหากมีสถานการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นให้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบโดยเร็ว โดยให้เชื่อมโยงข้อมูลกันระหว่างศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงมหาดไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการกองทัพไทยและเหล่าทัพ รวมทั้งศูนย์ปฏิบัติการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อประสานการปฏิบัติให้เกิดความครอบคลุมและรวดเร็วทันต่อสถานการณ์

พ.อ.ธนาธิปกล่าวว่า 3.ขอให้หน่วยงานด้านการข่าวของกองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพประสานข้อมูลด้านการข่าวกับเจ้าหน้าที่ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ มีความพร้อมในการดูแลบ้านเมืองให้เกิดความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนให้ระมัดระวังเรื่องการใช้รถใช้ถนน การดื่มแอลกอฮอลล์ รวมทั้งให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นบุคคลหรือวัตถุต้องสงสัย กรุณาแจ้งแก่เจ้าหน้าที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนโดยรวม โดยสามารถแจ้งทางโทรศัพท์ที่หมายเลข 0-2622-1972
กำลังโหลดความคิดเห็น