xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” ยัน พธม.ไม่เคยหนุนใช้กำลัง ของ “กวีไกร” ย้อน “พานทองแท้” โยนผิดให้คนอื่น ต้องใช้กับคนเสื้อแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โฆษกพันธมิตรฯโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก แจง กรณี “กวีไกร” จุดยืน พธม.ไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังทุกรูปแบบ โต้กลับ “พานทองแท้” โพสต์ลงเฟซบุ๊ก “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น” เมื่อพวกตัวเองทำผิดแล้วถูกจับได้ก็กล่าวหาว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามทันทีอย่างไม่เขินอายนั้น ควรใช้กับคนเสื้อแดงมากกว่า ที่เผาบ้านเผาเมือง ซ้ำสมัย “สมชาย” เป็นนายกฯ ASTV ถูกยิงถล่มด้วย ปืน M16-ระเบิด M79 “พานทองแท้” ทำไมไม่รู้จักคำว่าอายบ้าง ที่ประเทศไทยเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน โดย “ทักษิณ” หนุนอยู่เบื้องหลัง


วันนี้ (12 มี.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” ในกรณีของ “กวีไกร โชคพัฒนเกษมสุข” เนื้อความดังนี้

ถึงแม้ว่า คุณกวีไกร จะเคยเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ และแสดงออกว่าไม่ชอบระบอบทักษิณเอาอย่างมาก (ตามที่ปรากฏเป็นภาพและการแสดงความเห็นใน Social Media) แต่คุณกวีไกร ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้กำลังในลักษณะเข้าทำร้ายร่างกายหรือทำลายทรัพย์สินผู้อื่น (ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรฯหรือไม่ก็ตาม)

และแกนนำพันธมิตรฯก็ประกาศมาโดยตลอด ว่า ให้ใช้แนวทางสงบและปราศจากอาวุธเท่านั้น ดังนั้น การทำร้ายร่างกายผู้อื่นนอกภารกิจการชุมนุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ไม่ใช่การป้องกันตัวเอง และเป็นฝ่ายเริ่มใช้กำลังเองก่อน ตลอดจนการเข้าทุบทำลายทรัพย์สินผู้อื่นจำต้องได้รับโทษตามกฎหมาย และการกระทำเช่นนี้ทำให้เกิดความเสียหายต่อการประชุมของพันธมิตรฯที่ต้องการให้เกิดบรรยากาศสร้างสรรค์เพื่อปฏิรูปประเทศ อีกทั้งยังกลายเป็นเครื่องมือของฝ่ายตรงกันข้ามมาขยายผลสร้างความเสียหายเพื่อกลบวัตถุประสงค์ในการประชุมทั้งหมด

ด้วยเหตุผลดังกล่าวแกนนำพันธมิตรฯจึงไม่สนับสนุน และไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าวซึ่งไม่ใช่แนวทางของพันธมิตรฯอย่างแน่นอน ด้วยเหตุผลนี้การ์ดพันธมิตรฯจึงต้องเข้าจับกุมคุณกวีไกร ส่งตำรวจด้วยตัวเอง (เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและเจตนารมณ์ที่แท้จริงในการประชุม) และทนายพันธมิตรฯก็ไม่สามารถจะเข้าให้การช่วยเหลือได้ เพราะถือว่าเป็นการกระทำส่วนบุคคลซึ่งไม่ใช่ภารกิจ ไม่ใช่แนวทาง และไม่ใช่เจตนารมณ์ของพันธมิตรฯ

สำหรับกรณีที่ในวันดังกล่าวนั้นมีพิธีกรบางท่านกล่าวในทำนองว่าเป็น “เหลืองเทียม” หรือแม้แต่ผมเองใช้คำว่า “คนร้าย” นั้น เป็นการพูดภายใต้ข้อมูลที่ได้รับจาก “พฤติกรรม” ในขณะนั้นที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางของแกนนำพันธมิตรฯที่ประกาศมาโดยตลอด และไม่สอดคล้องกับแนวทางของมวลชนทั้งหมดในเวลานั้น และยังทำให้การประชุมพันธมิตรฯได้รับความเสียหาย แต่เมื่อในเวลาต่อมาได้มีการตรวจสอบผ่าน Social Media พบว่า บุคคลดังกล่าวเคยเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯและแสดงออกต่อต้านทักษิณอย่างชัดเจน จึงย่อมไม่อาจเรียกสรุปได้ว่าเป็น “เหลืองเทียม” ดังที่ได้มีการกล่าวในวันนั้น ผมจึงกราบขออภัยในความผิดพลาดในข้อมูลดังกล่าวมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

ส่วนกรณีที่ คุณพานทองแท้ ชินวัตร เขียนข้อความในเฟสบุ๊ค ความตอนหนึ่งว่า:

“เมื่อได้อ่านความเห็นหลายด้านจากข่าวที่ออกมาเกี่ยวกับอดีตการ์ดเสื้อเหลืองทุบรถผู้สื่อข่าวของ Voice TV ที่ไปทำข่าวการชุมนุมของพันธมิตรเมื่อถูกจับกุมกลับโดนด้วยการกล่าวหาจากพวกเดียวกันว่าเป็น “เหลืองเทียม” บ้าง “แดงปลอม” บ้าง ทำให้ผมรู้สึกหดหู่ใจ และคิดว่าการเมืองไทยหากยังเลือกข้างกันอยู่อย่างไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้ ความสามัคคีปรองดรองของคนในชาติ คงจะเกิดขึ้นได้ยากครับ โดยเฉพาะพฤติกรรม “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น” เมื่อพวกตัวเองทำผิดแล้วถูกจับได้ก็ กล่าวหาว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามทันทีอย่างไม่เขินอาย น่าจะหมดไปจากการเมืองยุคนี้แล้ว แต่กลับยังคงเป็นการเมืองท่าไม้ตายที่ใช้กันอยู่ทุกวี่วัน คิดแล้วก็ท้อใจครับ นี่ขนาด Voice TV เราเสนอข่าวอย่างเป็นกลางแล้วยังโดนขนาดนี้ จะต้องให้เมืองไทยของเราแตกความสามัคคีกันจนล้าหลังเป็นอันดับบ๊วยของอาเซียนก่อนแล้วจึงค่อยหันหน้าเข้าหากันหรือเปล่าครับ เฮ้อออ...”

ผมคิดว่า คุณพานทองแท้ ชินวัตร น่าจะใช้คำถามนี้กับแกนนำคนเสื้อแดงที่ประกาศบนเวทีอย่างชัดเจนหลายครั้ง ว่า ให้เผาเลยผมรับผิดชอบ วันเสียงปืนแตกทักษิณจะเข้าประเทศ เอาขวดมาใส่น้ำมันที่กรุงเทพจะเป็นทะเลเพลิง ให้เอาถังแก๊สมารวมกัน ใครมีไม้ใช้ไม้ใครมีปืนใช้ปืน หรือมีชายชุดดำใช้อาวุธสงครามจริงยิงต่อสู้ฝ่ายทหารจนเสียชีวิตบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นการส่งสัญญาณใช้ความรุนแรงในระดับแกนนำจนทำให้มวลชนเผาบ้านเผาเมืองจนวอดวายมาแล้ว แล้วยังจะมีหน้าใช้งบประมาณแผ่นดินเบิกเงินเยียวยาให้กับคนเหล่านี้อย่างมากยิ่งกว่าทหารหาญที่เขาพลีชีพเพื่อปกป้องอธิปไตย หรือดูแลความสงบในภาคใต้ แถมยังเอาแกนนำแบบนี้มาเป็นรัฐมนตรีเสียอีก คุณพานทองแท้น่าจะถามพ่อคุณหรือญาติคุณด้วยว่าการกระทำเช่นนี้มันสมควรจะละอายหรือไม่?

หรือจะเอาให้ชัดยิ่งกว่านี้เพื่อเทียบความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับ Voice TV เมื่อเทียบกับ ASTV ในปี 2551 ที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ญาติคุณพานทองแท้ เป็นนายกรัฐมนตรี ASTV ถูกยิงถล่มด้วย ปืน M16 และระเบิด M79 แทบทุกสัปดาห์กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ทำไมคุณพานทองแท้ไม่รู้จักคำว่าอายบ้างหรือครับ ที่ประเทศไทยเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนในสมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ที่พ่อของคุณสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง

ส่วนที่บอกว่า Voice TV นำเสนอเป็นกลางนั้น ประชาชนคนดูเขาคงไม่ได้โง่ และตัดสินเองได้ว่า Voice TV สนับสนุนใคร เพราะความจริงต้องตั้งคำถามว่า Voice TV เคยตรวสอบอะไรได้กับรัฐบาลพรรคพลังประชาชน หรือ เพื่อไทย ที่พ่อของคุณพานทองแท้สนับสนุนมาโดยตลอด?

ข้อสำคัญคนอย่าง คุณกวีไกร แม้จะทำผิดกฎหมายและทำไม่ถูกต้อง แต่ก็ยังเป็นลูกผู้ชายรับสารภาพผิดนั้น

-ดีกว่าพวกเผาบ้านเผาเมืองแล้วบอกว่าตัวเองไม่เกี่ยว (ทั้งๆ ที่แกนนำประกาศอยู่ปาวๆ)
-ดีกว่าคนที่ใช้อาวุธสงครามยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่รัฐแล้วบอกว่าแกนนำไม่รู้เรื่อง หรือไม่ก็บอกว่าเป็นฝีมือของแดงเทียม
-ดีกว่าคนโกงชาติปล้นแผ่นดินแล้วหนีคดีไม่ยอมรับโทษ
และข้อสำคัญ...
ดีกว่าคนที่โกงข้อสอบในมหาวิทยาลัยแล้วสามารถจบปริญญาได้โดยไม่อายใคร

จริงไหมครับ!?
กำลังโหลดความคิดเห็น