xs
xsm
sm
md
lg

ทำเงินบนโลกไอที (72) : พาธุรกิจฝ่าน้ำท่วม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ไม่แน่ น้ำลดแล้วหลายธุรกิจอาจจะติดใจเลิกเช่าสำนักงานก็ได้เพราะสามารถสื่อสารได้ด้วยเครื่องมือออนไลน์
ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าในวิกฤติมีโอกาส หลายคนท่องจนขึ้นใจว่าฟ้าหลังฝนมีเสมอ แต่นักธุรกิจหลายคนอาจยังคิดไม่ตกว่าจะพาธุรกิจฝ่าวิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้ไปในท่าไหนดี บทความนี้จะช่วยให้คุณ "ปรับมุมมองเปิดความคิด" เพื่อให้หนทางพาธุรกิจฝ่าน้ำท่วมด้วย Social Media เป็นไปอย่างราบรื่นเหมือนชื่อเรื่อง

***ปรับมุมมองเปิดความคิด พาธุรกิจฝ่าน้ำท่วมด้วย Social Media
โดย เมธา เกรียงปริญญากิจ (www.socialmer.com)

ในยุคที่มีสื่อต่างๆ มากมาย ทั้งสื่อหลัก สื่อทางเลือก เว็บไซต์ Social Media ฯลฯ อย่างทุกวันนี้ คงปฎิเสธไม่ได้ว่าผู้ที่รับสื่อต่างๆ ก็จะมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไปตามสื่อที่ตัวเองได้รับด้วย

ยกตัวอย่างใกล้ตัวง่ายๆ เช่นในวิกฤติน้ำท่วมตอนนี้ เราอาจจะสังเกตเห็นว่าผู้ที่อาศัยสื่อหลักเช่น โทรทัศน์, วิทยุ, หนังสือพิมพ์กับผู้ที่สามารถเข้าถึง Social Media เช่น Facebook หรือ Twitter นั้น ถึงแม้จะอยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน แต่ความเข้าใจและการเตรียมตัวรับมือนั้นอาจจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อาจจะเป็นเพราะว่าสื่อหลักนั้นมีกระบวนการกรอง การควบคุมอยู่มากกว่าสื่อ Social Media ซึ่งเป็นสื่อที่มีเสรีภาพอย่างเต็มที่

ความแตกต่างนี้เองที่ทำให้เกิดช่องว่าง (Gap) ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารขึ้น ซึ่งบางครั้งก็ไม่จำเป็นว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องเป็นฝ่ายที่ถูกต้องที่สุดเสมอไปก็ได้

ที่เกริ่นมาแบบนี้ เพราะวันนี้ผมเองอยากจะมีโอกาสได้แบ่งปันกับท่านผู้อ่านซึ่งอาจจะเป็นผู้ที่ใช้ Social Media อยู่แล้ว หรือว่ายังไม่เคยใช้มาก่อน ในแง่มุมของการปรับมุมมอง เปิดความคิด ในช่วงวิกฤติน้ำท่วมที่เรากำลังเผชิญอยู่ ซึ่งหลายๆ คนที่รับสื่อต่างๆ โดยเฉพาะ Social Media นั้นอาจจะเกิดความตื่นตระหนกหรือเครียดจากข่าวสารที่ได้รับในแต่ละวัน แถมบางคนอาจจะมองว่าเป็นฝันร้ายสำหรับผู้ประกอบการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพมหานคร ซึ่งดูเหมือนว่าตอนนี้ทุกอย่างกำลังหยุดชะงักไปจนหลายๆ ท่านอาจจะเกิดความเครียด

วันนี้ในคอลัมน์ “ทำเงินบนโลกไอที” จึงอยากจะพาผู้อ่านมามองอีกด้านหนึ่งด้วยกันว่าท่ามกลางวิกฤติแบบนี้ เหล่านักธุรกิจผู้ประกอบการจะมีทางออกอย่างไรบ้างด้วยเครื่องมือตัวช่วยต่างๆ ด้านไอทีที่เรามีอยู่ครับ

***Social Media มีส่วนช่วยธุรกิจอย่างไรในภาวะน้ำท่วม

ธุรกิจของคุณอาจจะเป็นหนึ่งในธุรกิจจำนวนมากมายกำลังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่นี้ แต่อย่าเพิ่งท้อแท้ไปครับ เพราะว่าด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารในปัจจุบัน คุณเองยังพอมีทางออกอื่นๆ ที่เป็นไปได้อีกหลายทางที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณยังคงดำเนินต่อไปได้ ลองมาดูด้วยกันดูครับว่า ท่ามกลางสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ คุณมองเห็นช่องทางอะไรบ้างทางธุรกิจด้วยเครื่องมือทาง Social Media ที่อยู่ในมือ สำหรับผมเอง มีอยู่ “4 อ.” ที่ผมเห็นว่าน่าจะเป็นไปได้ครับ

1. โอกาส : ธุรกิจเกือบทุกแห่งที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมคงจะรู้สึกว่ากำลังเสียโอกาสทางธุรกิจไป กิจการบางแห่งต้องปิดร้านหนีน้ำเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนๆ คุณมีทางเลือกว่าคุณจะนั่งอยู่เฉยๆ รอน้ำลด หรือจะปรับความคิดว่านี่คือโอกาสที่คุณจะได้มีเวลาลองทำอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง

ยกตัวอย่างในช่วงเหตุการณ์การเมืองปีที่แล้ว เมื่อร้านเสื้อผ้าในสยามสแควร์ต่างเดือดร้อนจากการที่ถนนถูกปิด ไม่สามารถเปิดร้านค้าได้ตามปกติเป็นเวลาหลายสัปดาห์ มีบางร้านที่ตัดสินใจเคลื่อนตัวเองไปสู่การทำตลาดบนโลก Social Media ด้วยการเปิดหน้า Facebook เพื่อประชาสัมพันธ์และขายสินค้าทางอินเตอร์เน็ตแทนที่ ซึ่งมีหลายๆ ร้านที่ทำได้ดี และประสบผลสำเร็จ และจนกระทั่งปัจจุบันนี้ร้านเหล่านี้หลายๆ ร้านก็ยังได้ใช้ประโยชน์จากสื่อ Social Media ที่ตนเองสร้างขึ้นไว้อยู่

หรือถ้าธุรกิจของคุณเป็นลักษณะสำนักงาน คุณอาจจะเริ่มต้นศึกษาการทำงานแบบ Virtual Office ซึ่งพนักงานทุกคนไม่จำเป็นต้องเข้างานที่เดียวกัน แต่ทำงานร่วมกันได้ด้วยเครื่องมือออนไลน์ต่างๆ เช่น Google Docs และเปลี่ยนมาสื่อสารกันทาง Facebook Group หรือ Google+ Hangout ซะ ถ้าไปได้ดี ไม่แน่น้ำลดแล้วอาจจะติดใจเลิกเช่าสำนักงานประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือนของบริษัทไปได้อีกเยอะด้วยครับ

ฉะนั้นถ้าคุณยังไม่รู้จักเครื่องมือออนไลน์หรือสื่อ Social Media ที่ผมเอ่ยๆ มาทั้งหมดนี้เลย นี่อาจจะเป็นช่วงเวลาดีที่คุณจะได้ลองทำความรู้จักและศึกษาการใช้งานดูบ้างก็ได้ครับ

2. อุปสงค์ : แน่นอนครับว่าในภาวะน้ำท่วมเช่นนี้ รวมถึงหลังจากน้ำลดลงไปแล้ว เราจะได้เห็นความต้องการสินค้าหรือบริการบางอย่างมากขึ้นเป็นพิเศษ เช่นอาหาร,น้ำดื่ม, เรือ, ที่พัก หรือบริการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทำความสะอาดซ่อมแซมบ้านและรถยนต์ที่จะมีความต้องการเป็นอย่างมากหลังจากน้ำลด

การที่คุณติดตามข่าวสารใน Social Media ทำให้คุณได้รู้อย่างเจาะจงมากขึ้นว่ามีใครที่ไหนกำลังต้องการอะไร ซึ่งอาจจะเป็นคนใกล้ตัว, ญาติมิตร, หรือเพื่อนของเพื่อนที่ฝากข้อความต่อๆ กันมา ซึ่งถ้าคุณมีบางสิ่งบางอย่างที่สามารถตอบความต้องการเหล่านั้น เช่นมีสินค้าหรือบริการที่กำลังอยู่ในความต้องการ หรือคิดว่ามีความสามารถที่จะก้าวเข้ามาให้เป็นผู้ให้บริการด้านนี้ได้ Social Media ก็สามารถเป็นช่องทางในการนำเสนอธุรกิจของคุณที่มีพลังเป็นอย่างมากครับ

หรือถ้าคุณต้องการที่จะเป็นฝ่ายรุกมากขึ้น คุณก็สามารถทำการประชาสัมพันธ์ในเชิงรุก เช่นซื้อโฆษณาประชาสัมพันธ์ธุรกิจของคุณบน Facebook โดยให้โฟกัสกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เช่นต้องการให้โฆษณาของคุณปรากฎขึ้นเฉพาะหน้า Facebook ของผู้ที่อยู่อาศัยในจังหวัดนนทบุรีหรือเป็นสมาชิกของโครงการหมู่บ้านใดหมู่บ้านหนึ่งเท่านั้น (ตามฐานข้อมูลใน Facebook) โดยที่มีต้นทุนไม่แพงมากนัก ยังไม่นับรวมถึงการใช้เครื่องมือประชาสัมพันธ์ออนไลน์อื่นๆ เช่น Google Adwords เข้ามาส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ธุรกิจและบริการของคุณได้อีกด้วย

3. ไอเดีย : เมื่อคุณรู้ถึงอุปสงค์ Social Media ยังช่วยให้คุณหาคำตอบสำหรับความต้องการต่าง ๆ ได้อีกเช่นกันครับ ยกตัวอย่างเช่นบน Youtube มีคลิปที่แนะนำวิธีการทำสิ่งต่างๆ มากมายที่เกี่ยวข้องกับน้ำท่วม เช่นการสร้างเรือแบบง่ายๆ, การทำเครื่องกรองน้ำใช้เอง, การทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม หรือแม้แต่คนไทยเองก็มีความคิดสร้างสรรค์ดีๆ ที่สามารถนำไปปฎิบัติได้อยู่เยอะมาก (ลองไปดูตัวอย่างไอเดียต่างๆ ช่วงน้ำท่วมที่มีคนรวบรวมมาไว้ได้ที่นี่ครับ http://www.volunteerconnex.com/share)

คุณเองสามารถใช้ช่วงเวลาที่น้ำท่วมนี้ลองศึกษาและฝึกฝน ประดิษฐ์ หรือปฎิบัติตามไอเดียต่างๆ ทั้งของคนไทยและคนต่างชาติ ซึ่งถ้าทำได้ดีมีผลสำเร็จคุณก็สามารถนำกลับมาแบ่งปันบน Social Media ต่างๆ เป็นการเผยแพร่ให้คนได้รู้จักและไม่แน่คุณอาจจะสามารถต่อยอดออกมาเป็นผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจในอนาคตได้เช่นกันครับ

4. อาสา : บางครั้งโอกาสทางธุรกิจอาจจะไม่จำเป็นต้องมีผลตอบแทนออกมาเป็นตัวเงินเสมอไป แต่เป็นโอกาสในการพัฒนาภาพลักษณ์ หรือเสริมความสัมพันธ์ทั้งภายในองค์กรบริษัทเอง หรือการกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าของคุณก็ได้ครับ

ลองละสายตาจากตัวเลขผลกำไรขาดทุน ออกมาใช้เวลาแบบนี้สร้างสิ่งที่ตัวเงินแลกซื้อไม่ได้ ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเช่นกัน

ตอนนี้หลายบริษัทยอมปิดออฟฟิศเพื่อให้พนักงานไปเป็นอาสาสมัครในที่ต่างๆ หรือองค์กรใหญ่หลายแห่งได้มีโอกาสแสดงความห่วงใยต่อพนักงานและลูกค้าด้วยมาตรการดูแลรับผิดชอบต่างๆ ต่อสังคม (CSR) คุณสามารถใช้พลังของ Social Network ในการพูดคุย ดูแลลูกค้าที่มีความเดือดร้อน หรือระดมคน สิ่งของบริจาค เพื่อออกไปช่วยเหลือคนอื่นๆ ได้แบบไม่หวังสิ่งตอบแทน ไม่ว่าจะในนามบริษัทหรือส่วนตัว ซึ่งหลายๆ ครั้งสิ่งที่ทำต่างๆ เหล่านี้ ก็สามารถจะไปปรากฎอยู่บน News Feed หรือ Timeline ของ Social Network ต่างๆ ซึ่งก็สามารถส่งผลดีในการสร้างภาพลักษณ์และความผูกพันต่อธุรกิจของคุณในสายตาของคนอื่นในระยะยาวได้อีกด้วยเช่นกันครับ

สุดท้ายนี้ก็ขอส่งความปรารถนาดีให้ทุกท่านมีจิตใจที่เข้มแข็งและมีความหวังท่ามกลางเหตุการณ์น้ำท่วมนี้ รู้จักเสพสื่อต่างๆ แต่พอดี มีวิจารณญาณ คิดก่อนโพสต์ ค้นคว้าก่อนแชร์ครับ เพื่อที่เราจะได้ร่วมกันสร้างสรรค์สังคมที่ดีไปด้วยกันทั้งในชีวิตจริงและในสังคมออนไลน์ ถ้ามีคำถามหรือข้อเสนอแนะติชมใดๆ สามารถพูดคุยกับผมได้ทาง Twitter @mehtaxz ได้เสมอครับ
ตัวอย่างโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้นเพราะวิกฤติน้ำท่วม กทม.
กำลังโหลดความคิดเห็น