ผู้ตรวจการแผ่นดิน ลั่นพร้อมถูกสอบจุ้นนายกฯ ยันทำงานสุจริต ชี้ มติแค่ข้อเสนอไม่ใช่คำสั่ง ยันถ้าไม่ทำก็ไม่มีผลอะไร ปัดเป็นเครื่องมือทางการเมือง อ้างคดี “รสนา” จบช้าเพราะหน่วยงานอื่นไม่ร่วมมือ
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ออกมาโจมตีการทำงานผู้ตรวจการแผ่นดินก้าวก่ายแทรกแซงจากกรณีที่มีมติให้นายกรัฐมนตรีทบทวนการแต่งตั้ง นางนลินี ทวีสิน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่า ไม่เป็นไร ถ้ามีการตรวจสอบ เราก็ยินดี เพราะผู้ตรวจการฯทำหน้าที่ด้วยความสุจริต หากพรรคเพื่อไทย เห็นว่า เราก้าวล่วง ก้าวก่ายแทรกแซง แต่เรื่องนี้เป็นดุลพินิจของผู้ตรวจการแผ่นดิน และเราก็มีเหตุผล เพราะการตรวจสอบจริยธรรมจะต้องมีผู้ร้องเรียนเข้ามาซึ่งผู้ตรวจแผ่นดินไม่สามารรถหยิบยกมาพิจารณาเองได้
“มติของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีดังกล่าวเป็นเพียงข้อเสนอไม่ใช่คำสั่ง เราไม่บังอาจไปสั่งว่านายกฯต้องชี้แจงภายใน 30 วัน แต่เป็นข้อเสนอแนะ ซึ่งพรรคเพื่อไทยอาจเข้าใจผิด และหากไม่ดำเนินการ ผู้ตรวจฯก็ไม่ได้มีมาตรการอะไรต่อ นอกจากแค่รายงานผลต่อ ครม.และรัฐสภาเท่านั้น แต่เวลานี้ไปเข้าใจกันผิด เราไม่ได้มีความประสงค์ที่จะสั่งนายกฯ เรามีหน้าที่เสนอหน่วยงานรัฐ และก็ได้เสนอสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนนตรีแล้ว ที่ให้การพิจารณาแต่งตั้งรัฐมนตรีครอบคลุมมาตรา 279 วรรค 4 ด้วย” นายศรีราชา กล่าว
ส่วนที่ระบุว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองนั้น นายศรีราชา กล่าวว่า คงไม่เป็น เพราะเราตรงไปตรงมา มีความเป็นกลาง เพราะหากไม่เป็นกลาง ก็อยู่ไม่ได้ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้องเป็นหลักให้กับแผ่นดินทำตัวให้มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งตนสามารถรับประกันได้
นายศรีราชา ยังปฏิเสธให้ความเห็นกรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ถามหาจริยธรรมของประธานวุฒิสภา และ นายปราโมทย์ โชติมงคล ที่ปรึกษาประธานวุฒิสภา อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เนื่องจากเคยทำหน้าที่สรรหา ส.ว.มาก่อน แต่ก็กลับไปเป็น ส.ว.สรรหา และที่ปรึกษา ส.ว.โดยกล่าวเพียงว่า ต้องดูเงื่อนไขคุณสมบัติการสรรหา ส.ว.ในขณะนั้นว่าเป็นอย่างไร หากไม่มีข้อห้ามก็อาจจะทำได้ แต่ตนคงให้ความเห็นยาก
ส่วนความคืบหน้ากรณี นายเรืองไกร ร้องขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.เกี่ยวกับการขึ้นเวทีพรรคประชาธิปัตย์ โจมตีรัฐบาลนั้น ผู้ตรวจฯก็พยายามดำเนินการอยู่ แต่บางทีติดที่หน่วยงานไม่ตอบกลับมา ทำเรื่องจบช้า แต่กรณี 2 รัฐมนตรีนั้น ที่ผู้ตรวจฯดำเนินการเร็ว เพราะทุกหน่วยงานที่ถูกกล่าวหาให้ความร่วมมือตอบกลับมาเร็ว จึงทำให้เรื่องจบเร็ว ยืนยันผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง ซึ่งขณะนี้ก็พยายามเร่งรัดเรื่องร้องร้องเรียนที่ค้างอยู่ให้เสร็จเร็วที่สุด