“เรืองไกร” ได้ทีหลังเล่น “สัก” สำเร็จ! แฉเจออีก 10 ส.ว.ส่อขาดคุณสมบัติต้องพ้นตำแหน่ง เหตุไม่ได้ไปเลือกตั้ง จ่อยื่น กกต.เล่นสัปดาห์หน้า โดดป้อง “ปู” เหยงๆ จวกผู้ตรวจการแผ่นดิน เมินเล่น “ธีรเดช-ปราโมทย์” ขึ้นเงินเดือนตัวเอง ถามมาตรฐานอยู่ไหน จี้สอบ “รสนา” ขึ้นเวที ปชป.ด่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่เป็นกลาง
วันนี้ (11 มี.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบข้อมูลใหม่ ว่า มี ส.ว.ประมาณ 10 คน อาจขาดคุณสมบัติตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ไม่สามารถดำรงตำแหน่ง ส.ว.ได้ เนื่องจากพบว่าไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยมีหลักฐานที่ได้ตรวจสอบกับทางสำนักงานเขตต่างๆ คาดว่า จะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาได้เพื่อส่งศาลฎีกาวินิจฉัยต่อไปได้ภายในสัปดาห์หน้า
นายเรืองไกร กล่าวว่า จากการติดตามข่าวผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัย ว่า นายกรัฐมนตรีไม่ยึดประมวลจริยธรรมอย่างรอบคอบเพียงพอ ในการแต่งตั้ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ นางนลินี ทวีสิน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นั้น อยากถามกลับไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินทั้ง 3 คน ว่า ได้ยึดหลักการนี้ด้วยหรือไม่ กรณีอดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน 2 คน คือ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร และ นายปราโมทย์ โชติมงคล ที่ศาลอาญาได้นัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 25 เม.ย.2555 นี้ กรณีถูกกล่าวหาว่าออกระเบียบเพื่อขึ้นเงินเดือนและค่าตอบแทนให้ตัวเอง ซึ่งเป็นกรณีเดียวกันกับอดีตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ถูกศาลพิพากษาว่า มีความผิด จนต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งชุด ทำไมไม่ยกกรณีนี้มาพิจารณาบ้าง หรือเป็นเพราะเคยอยู่องค์กรเดียวกันมาเลยทำเฉยๆ ไป ซึ่งตนก็สงสัยเช่นกันว่า คณะกรรมการสรรหา ส.ว.หรือ 6 อรหันต์ สรรหามาเป็น ส.ว.ได้อย่างไร และ ส.ว.ด้วยกันเลือกมาเป็นประธานวุฒิสภาได้อย่างไร และขณะนี้ทราบว่า นายปราโมทย์ ก็มาเป็นที่ปรึกษาประธานวุฒิสภาด้วย ทำไมผู้ตรวจการฯทั้ง 3 คน มองไม่เห็นประเด็นนี้ ถามว่ามาตรฐานอยู่ที่ไหน
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีเรื่องร้องเรียน ผู้ตรวจการฯ กรณี น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ ไปขึ้นเวทีพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาโจมตีรัฐบาล ซึ่งแสดงถึงความไม่เป็นกลางทางการเมือง ที่ถือเป็นคุณสมบัติสำคัญที่รัฐธรรมนูญกำหนดต่อผู้ที่จะมาเป็น ส.ว.ได้ยื่นเรื่องก่อนที่ผู้ตรวจการฯจะตรวจสอบกรณี นายณัฐวุฒิ และ นางนลินี กรณีนั้นใช้เวลาตรวจสอบแค่ 15 วัน ก็แจ้งผลออกมาแล้ว แต่กรณี น.ส.รสนา ที่ถือเป็น ส.ว.ที่ได้รับคะแนนเลือกตั้งสูงสุดของประเทศ ท่านจะไม่ตรวจสอบหรือว่าเป็นกลางทางการเมืองจริงหรือไม่ ข้ออ้างว่าไปขึ้นเวทีเพื่อให้ข้อมูลเรื่องราคาน้ำมัน หากยึดตามประมวลจริยธรรมจริง ก็ควรไปขึ้นเวทีอื่นที่เป็นกลาง จะเป็นเวทีวงวิชาการ หรือในกรรมาธิการก็คงไม่มีใครว่า ไม่ใช่ไปขึ้นเวทีของพรรคการเมือง และกรณีของ น.ส.รสนา ก็คล้ายกรณีของนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เป็นนางสาวที่มีสามีและลูก 1 คนเหมือนกัน แต่ทำไมไม่ตรวจสอบให้เหมือนกัน หากท่านไม่ทำอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้