“สุรนันทน์” สอนผู้ตรวจการฯ กำหนดให้ชัด คำจำกัดความ “เหมาะสม และรอบคอบ” ในการแต่งตั้ง “นลินี-ณัฐวุฒิ” ยัน “ปู” ไม่ทบทวนตั้ง 2 รมต.แน่ เตือน “ประวิช” อย่ามาขู่กัน หยันไร้ดาบ เอากฎหมายฉบับไหนมาก็เล่นงานนายกฯ ไม่ได้ อวย “ยิ่งลักษณ์” ทำงานฉลาด ใช้คนอื่นทำแล้วตัวเองคอยติดตามงาน
วันนี้(9 มี.ค.) นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี ให้กล่าวถึงกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีส่งหนังสือชี้แจงการแต่งตั้งนางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ภายใน 30 วันว่า ได้รับหนังสือดังกล่าวแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์รับทราบแล้วอย่างไม่เป็นทางการในเนื้อความทั้งหมดเพราะตอนที่หนังสือมาถึงทำเนียบฯ นั้น นายกฯ อยู่ญี่ปุ่น โดยนายกฯ ไม่มีความเห็นใดๆ เพราะต้องรอฝ่ายกฎหมายและเจ้าหน้าที่รัฐยกร่างคำตอบ นายกฯ จึงจะมาพิจารณาว่าควรตอบคำถามใดกับผู้ตรวจการแผ่นดินบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะทำงานการเมืองมาระยะหนึ่งนั้น กรณีของผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยในเรื่องนี้นี้เหมาะสมหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า จริงๆ แล้วยอมรับว่านายประวิช รัตนเพียร และผู้ตรวจการแผ่นดินคนอื่นๆ นั้นคุ้นเคยกัน ผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นองค์กรอิสระใหม่ที่เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญแล้วระยะหนึ่ง การทำงานนั้นคงต้องมีการวางมาตรฐานแต่ในหลายเรื่องนั้น ขอฝากไว้ว่าดุลพินิจในหลายเรื่องนั้นคงจะตั้งคำถามกลับไปได้ด้วยเช่นกัน เพราะการระบุว่า 2 คนนี้ไม่ผิด แต่มีคำถามว่านายกฯ แต่งตั้งสองคนนี้ให้เป็นรัฐมนตรีนั้นเหมาะสมและรอบคอบในการพิจารณาหรือไม่ ยืนยันว่าการคัดเลือกบุคคลเข้ามาเป็น ครม.ในรัฐบาลนี้ นายกฯ ดูทั้งหมดตั้งแต่คุณสมบัติที่ถูกต้องตามกฎหมาย คุณสมบัติในการทำงานบริหาร เงื่อนไขทางการเมืองและจริยธรรม ฉะนั้นถือว่าในใจของนายกฯครบถ้วน
“นายกฯ คงไม่ประเมินเรื่องพวกนี้เอง การที่บอกให้นายกฯทบทวนนั้นตนเชื่อว่านายกฯคงไม่ทบทวนแต่การประเมินผลงานนั้นจะประเมินผลตั้งแต่วันที่แต่งตั้งเข้ามา ปัจจุบัน และอนาคตว่าทำงานได้จริงหรือไม่ รวมทั้งประชาชนต้องร่วมประเมินด้วย ผมขอฝากผู้ตรวจการแผ่นดินด้วยว่าในหลายๆ เรื่องนั้นตนอยากเห็นคำจำกัดความที่ชัดว่าอะไรคือมาตรฐานในใจของผู้ตรวจการแผ่นดิน หากผู้ตรวจการแผ่นดินต้องการเสนอแก้รัฐธรรมนูญคงต้องเสนอกับ ส.ส.ร.ที่จะเกิดขึ้น ส่วนจะเสนอแก้กฎหมายและระเบียบสำนักนายกฯควรแนะนำให้ชัดเจนว่ามีข้อบกพร่องตรงไหน เพราะรัฐธรรมนูญ กฎหมายและระเบียบสำนักนายกฯ ที่มีอยู่นั้น นายกฯ กระทำตามและถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง”
ส่วนที่ นายประวิช รัตนเพียร ผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุว่าหากนายกฯ ไม่ทบทวนและชี้แจงตามระยะเวลาที่กำหนดจะมีมาตรการอื่นๆ ออกมาจัดการ นายสุรนันทน์กล่าวว่า ตรงนี้เกิดความไม่ชัดเจน ขอฝากนายประวิชว่าองค์กรอิสระนั้นไม่ใช่องค์กรที่จะออกมาขู่กัน ต้องมีมาตรฐานให้ชัดว่าจะให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และนักการเมืองปฏิบัติตนอย่างไร จะได้ทำให้ถูกเพราะไม่มีใครอยากปฏิบัติผิด แต่การที่ออกมาระบุว่าหากไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ขู่ว่าจะมีมาตรการอื่นๆ ตามมานั้น มันคืออะไรอยู่ในกฎหมายหรือระเบียบฉบับใด นายประวิชต้องพูดให้ชัดด้วย ไม่ใช่ว่าส่งจดหมายมาหนึ่งฉบับแล้วบอกว่าหากไม่ปฏิบัติตามจะมีมาตรการอื่นๆ ตามมา ถามว่ามันอยู่ในกฎหมายฉบับใด เอากันให้ชัดดีกว่า
ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่านายกฯ ควรขอโทษในเรื่องการแต่งตั้งนางนลินี และนายณัฐวุฒิ นายสุรนันทน์กล่าวว่า นายกฯ ยังไม่ขอโทษในเรื่องนี้เพราะต้องตอบคำถามผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน แต่นายอภิสิทธิ์ขอโทษประชาชน 91 คนที่เสียชีวิตแล้วหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลายฝ่ายระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีภาวะผู้นำนั้น นายสุรนันทน์กล่าวว่า ต้องทดสอบกันไป นานาจิตตัง มองกันคนละมุม หากพิจารณาเอแบคโพลล์จะพบว่านายกฯ คะแนนทิ้งห่างหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน แต่นายกฯ จะประเมินทุกครั้งและการทำงานต่างๆ จนถึงวันนี้ตั้งแต่การแก้ปัญหาน้ำท่วมมาได้และดำเนินนโยบายอื่นๆ มาได้ด้วยนั้น ตนคิดว่านายกฯ มีภาวะผู้นำเพียงพอ ส่วนการทำงานต่อไปนายกฯ คงต้องพิสูจน์ตัวเอง
เมื่อถามว่าแต่เสียงวิจารณ์ระบุว่านายกฯมักให้รัฐมนตรีคนอื่นๆ อธิบายเรื่องต่างๆ แทน ทั้งๆ ที่นายกฯ ควรชี้แจงเอง นายสุรนันทน์กล่าวว่า การบริหารจัดการบางครั้งต้องใช้คนให้เหมาะสมกับตำแหน่ง ตนคิดว่าการบริหารจัดการที่ชาญฉลาดคือใช้คนอื่นทำงานแล้วตัวเองติดตามงาน นายกฯ เป็นนักบริหารในสไตล์ให้อำนาจคนแล้วติดตามงาน