xs
xsm
sm
md
lg

“ประวิช” จี้ “ปู” ใช้ดุลพินิจตั้ง “นลินี-ณัฐวุฒิ” ใหม่ใน 30 วัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประวิช รัตนเพียร (แฟ้มภาพ)
“ประวิช” ยันตรวจสอบ “นลินี-ณัฐวุฒิ” ชัดเจน ไม่กำกวม เหลือกรณีให้นายกฯ ใช้ดุลพินิจใหม่ให้รอบคอบในการแต่งตั้ง 2 รมต.จี้ต้องตอบใน 30 วัน หากเพิกเฉยมีมาตรการกดดันต่อ ย้ำ ส่งผลศึกษา รธน.ของ 10 อรหันต์ ให้ ส.ส.ร.นำไปพิจารณา ระบุ หากมีการร้องเรียนปัญหาข้อกฎหมายพร้อมส่ง ศาล รธน.ตีความ

ที่รัฐสภา วันนี้ (8 มี.ค.) นายประวิช รัตนเพียร ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้เปิดเผยถึงกรณีการวินิจฉัยกรณีการแต่งตั้ง นางนลินี ทวีสิน และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ถูกมองว่า มีลักษณะกำกวมเหมือนกลัวๆ กล้าๆ ไม่กล้าตัดสินใจนั้น ว่า คำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินนั้นมีความชัดเจนอยู่ในตัวเอง และอยู่ในกรอบอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่ยอมรับว่า ในข่าวที่แถลงไปนั้นมีเนื้อหาที่ค่อนข้างยาว จึงทำให้มีความรู้สึกว่ากำกวม ขัดแย้งกันได้

นายประวิช กล่าวว่า เนื่องจากผู้ร้องเรียนในเรื่องนี้ได้ร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำ รวม 4 คน ในการพิจารณาวินิจฉัยผู้ตรวจการแผ่นดินจึงต้องวินิจฉัยตามประเด็นการร้องเรียน กรณีร้องเรียน นางนลินี และ นายณัฐวุฒิ ว่า ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง นั้น ผู้ตรวจการแผ่นดิน เห็นว่า การกระทำที่เป็นมูลเหตุแห่งการร้องเรียนในประเด็นนี้ เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนที่บุคคลทั้งสองจะได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จึงมิอาจนำกรณีการกระทำดังกล่าวมาประกอบการพิจารณา ว่า เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงวินิจฉัยให้ยุติเรื่อง

ส่วนการร้องเรียน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีนั้น นายอำพน กิตติอำพน เป็นการปฏิบัติหน้าที่ไปตามที่เคยปฏิบัติมาเป็นมาตรฐานเดิมทุกครั้ง จึงเห็นว่าไม่ผิด แต่ขอให้ไปแก้ไขวิธีการใหม่ให้ครอบคลุมถึงเรื่องพฤติกรรมทางจริยธรรมตามมาตรา 279 วรรค 4

นายประวิช กล่าวว่า ส่วนที่เป็นประเด็นคือการร้องเรียนนายกรัฐมนตรี เป็นประเด็นสำคัญที่สุดซึ่งอยู่ตอนท้าย คือ 1.ผู้ตรวจการแผ่นดินตั้งคำถามกับท่านนายกฯ ว่า แม้ นางนลินี จะมีคุณสมบัติครบตามกฎหมายไทยเป็นรัฐมนตรีได้ แต่การที่มีปัญหาอยู่กับทางสหรัฐฯนั้นอาจก่อให้เกิดเป็นภาระในการบริหารราชการแผ่นดินได้ ควรที่นายกฯ จะต้องพิจารณาการแต่งตั้งนางนลินี ด้วยความระมัดระวังยิ่งขึ้นหรือไม่

2.กรณีของ นายณัฐวุฒิ ไม่เหมือน นางนลินี เพราะนายณัฐวุฒินั้น อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไทย อัยการสั่งฟ้อง และศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาแล้ว แม้คดียังไม่มีคำพิพากษาแต่นายกรัฐมนตรีจะต้องนำพฤติกรรมของนายณัฐวุฒิดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาว่าจะให้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้พิจารณาแล้วเห็นว่า นายกรัฐมนตรียังไม่ได้พิจารณาพฤติกรรมของนายณัฐวุฒิด้วยความรอบคอบเพียงพอ จึงขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาทั้ง 2 กรณีให้รอบคอบใหม่ และขอคำตอบใน 30 วัน โดยขณะนี้ได้ส่งหนังสือไปให้นายกฯเรียบร้อง และรอคำตอบให้นายกฯใช้ดุลพินิจใหม่ หากมีการเพิกเฉย ก็จะมีการมาตราการณ์ต่อไป และเรื่องนี้จะต้องมีการรายงานต่อรัฐสภาด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเมืองแทรกแซงในการตัดสินของผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ นายประวิช กล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นองค์กรอิสระ ไม่เกี่ยวกับการเมือง และในการเสนอแนะให้นายกฯ ทบทวนดังกล่าว เป็นการพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ อันนี้เป็นเรื่องตรงไปตรงมา ปลอดการเมือง

นายประวิช ยังกล่าวถึงการตั้งคณะที่ปรึกษา 10 คน ขึ้นมาศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ 50 ว่า เป็นการแต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 244(3) เพื่อศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญว่าที่ผ่านมามีปัญหาอะไรหรือไม่ และ หากไม่ทำสังคม อาจถามได้ และยิ่งในขณะนี้ก็มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วด้วย

ดังนั้น หากที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดินทั้ง 10 คน สรุปผลการศึกษาเป็นที่เรียบร้อย จะมอบให้แก่ ส.ส.ร.เป็นแนวทางในการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในมาตราใดควรแก้ไข มีข้อดีข้อเสียอย่างไร และเหมาะสมหรือไม่ที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่หาก ส.ส.ร.หรือ รัฐสภาไม่เห็นด้วยก็ถือว่าเป็นสิทธิ เพราะผู้ตรวจการแผ่นดินมีหน้าที่ให้การเสนอแนะในสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสม พร้อมทำรายงานเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา แต่หากเรื่องไหนมีปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย และมีการร้องเรียนเข้ามาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 245ผู้ตรวจการแผ่นดินอาจส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุติได้
กำลังโหลดความคิดเห็น