“เสนาบดีไพร่” ไม่กังวลผู้ตรวจการฯ เตรียมพิจารณาชี้ชะตาวันนี้ ยันเป็น รมต.ตามกรอบกติกา ชี้เป็นเรื่องการเมือง โว มี.ค.นี้มีผลงานโชว์ เย้ย ปชป.ควรคิดประเด็นใหม่ อย่าเอาแต่เรื่องแก้ รธน.มาพูดรายวัน
วันนี้ (6 มี.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเตรียมตัดสินกรณีตรวจสอบจริยธรรมกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งนายณัฐวุฒิ กับนางนลินี ทวีสิน เป็นรัฐมนตรีว่า ตนไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรเป็นพิเศษกับเรื่องนี้ อย่างที่เคยบอกหลายครั้งว่าการแต่งตั้งเป็นไปตามกรอบกติกาของกฎหมาย และผ่านหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติ คือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี การยื่นตรวจสอบนั้นเป็นเรื่องทางการเมือง และเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจได้ เมื่อเป็นการเริ่มต้นประเด็นทางการเมืองก็จะมีฝ่ายตรงข้ามที่คอยสร้างเรื่องสร้างเงื่อนไข จึงอยู่ที่หน่วยงานที่รับผิดชอบที่รับเรื่องไปแล้วจะใช้ดุลพินิจอย่างไร ซึ่งตนเคารพการพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ไม่กังวลต่อผลที่จะออกมา เพราะตั้งแต่ตนรับหน้าที่ก็เดินหน้าทำงานและมีหลายเรื่องที่ดำเนินการแล้ว และภายในเดือน มี.ค.นี้น่าจะมีผลงานที่อยู่ภายใต้การกำกับออกมาให้ประชาชนได้เห็น ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้เรื่องการตรวจสอบหรือการสร้างประเด็นทางการเมืองมาลดทอนสมาธิในการทำงานต่อไป
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันให้รัฐบาลเขียนข้อกำหนดให้ห้ามแตะต้องหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ในขั้นตอนของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกันอีก เพราะจุดยืนของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าจะไม่มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และในรัฐธรรมนูญก็จะไม่แตะไปต้องหมวดสถาบัน ส่วนประเด็นอื่นเป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนจะใช้ดุลพินิจพิจารณา เราอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมผ่าน ส.ส.ร.และการทำประชามติ แต่ถ้าเรากำหนดกติกาไว้ละเอียดเกินไป ก็จะกลายเป็น ส.ส.ร.ภาคบังคับ
“พรรคประชาธิปัตย์น่าจะคิดอะไรใหม่ๆ ออกมาสู่สังคมและมีแง่มุมทางการเมือง ทางบริหารที่ท้าทายความคิดของรัฐบาล แต่เท่าที่เห็นก็มีแต่อาการย้ำคิดย้ำทำพูดซ้ำๆ ทำให้ย่ำอยู่กับประเด็นเดิมติดกัน 2 สัปดาห์มาแล้ว พรรคประชาธิปัตย์พูดเรื่องเดิมทุกวัน เมื่อสื่อมาถามความเห็นรัฐบาลเราก็ตอบเหมือนเดิม เพราะมันเป็นจุดยืนที่ปรากฏชัดมาตั้งแต่ต้น สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ควรทำขณะนี้คือหันหน้าหารือกันให้ชัดเจนว่าจะกำหนดจุดยืนทางการเมืองให้ชัดเจนอย่างไร และต้องมีการปรับเปลี่ยนหลายอย่าง หากยังเดินอยู่แบบนี้ก็จะยิ่งห่างออกจากประชาชน”
