รมช.เกษตรฯ ตีโพยตีโพยยันแก้ร่าง รธน.เป็นหน้าที่ของ ส.ส.ร.โวยสมาชิก ส.ส.ร.50 ค้านแก้ไข รธน.แค่รักษาประติมากรรมที่แสนอัปลักษณ์ในระบอบ ปชต.แขวะให้ความร่วมมือแก้เสียโดยดี เพื่อลบรอยตราบาปที่สร้างความขัดแย้งจนถึงวันนี้
วันนี้ (6 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันที่จะให้กำหนด 3 ประเด็น ลงในชั้นกรรมาธิการ ว่า เรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่จำเป็นต้องอธิบายกันอีก เพราะจุดยืนรัฐบาล พรรคเพื่อไทย ชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่มีกรณีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แล้ว จนมาถึงการเสนอแก้ไขมาตรา 291 ชัดเจนว่าจะไม่แก้ไข ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในรัฐธรรมนูญจะไม่แตะต้องบทบัญญัติอันเกี่ยวเนื่องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนเรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องที่ ส.ส.ร.ที่มาจากประชาชน จะใช้ดุลพินิจพิจารณา หากเราบอกว่าเราแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมผ่าน ส.ส.ร.ผ่านประชามติ แล้วเรากำหนดกรอบกติกาเอาไว้ละเอียดทุกแง่มุม จะกลายเป็น ส.ส.ร.ภาคบังคับทำให้การมีส่วนร่วมของประชาชนถูกจำกัดลงไปมาก
“พรรคประชาธิปัตย์น่าจะคิดอะไรใหม่ๆ บ้าง น่าจะมีประเด็นใหม่ๆ ออกมาสู่สังคม หรือควรมีแง่มุมทางการเมือง หรือการบริหารที่ออกมาท้าทายความคิดของรัฐบาล เท่าที่เห็นมีอาการย้ำคิดย้ำทำ และพูดอย่างนี้ซ้ำๆ ทำให้ปรากฏการณ์ทางสื่อมวลชนย่ำอยู่ที่เดิม ผมว่าเกือบ 2 สัปดาห์ แล้ว เหตุผลเพราะพรรคประชาธิปัตย์เช้ามาก็พูดเรื่องเดิมทุกวัน ทำให้สื่อมาถามฝั่งรัฐบาลซึ่งไม่ทราบจะตอบอย่างไรก็ตอบเหมือนเดิมเพราะมัน เป็นจุดยืนแต่ต้น ประชาธิปัตย์ควรทำเวลานี้ คือ หันหน้าคุยกันในพรรค ปรึกษาหารือกันให้ดีว่าจะกำหนดจุดยืน แนวทางการทำงานทางการเมืองอย่างไร ผมคิดว่า ต้องมีการปรับเปลี่ยนหลายอย่างภายในพรรคประชาธิปัตย์ เพราะถ้าเดินทางเดิมจะกลายเป็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ เดินออกห่างประชาชน แล้วดูเหมือนว่าสิ่งที่ทำอยู่เวลานี้ ไปคิดเอาเองว่าประชาชนกลุ่มหนึ่งเป็นฝ่ายตรงข้าม หรือศัตรู ฉะนั้นพรรคการเมืองที่เห็นประชาชนเป็นศัตรูจะไม่สามารถเข้าไปอยู่ในหัวใจ ประชาชนได้เลย” นายณัฐวุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่า กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกชมรม ส.ส.ร.50 ออกแถลงการณ์ระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ของรัฐบาลเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ นายณัฐวุฒิ ตอบว่า รัฐบาลได้แก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 291 ตามที่มีการบัญญัติเปิดช่องเอาไว้ ไม่ใช่การล้มล้างรัฐธรรมนูญแบบที่ ส.ส.ร.50 รับเหมามาจากพวกที่ล้มล้างรัฐธรรมนูญปี 40 ทำ แล้วก็ร่างรัฐธรรมนูญปี 50 ด้วยการบรรจุมาตรา 309 และ 237 เข้าไปในรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่ประชาชนไม่เห็นด้วย ทั้งนี้ ส.ส.ร.50 เป็นคนร่างแบบแปลนเอาไว้ และมีการเปิดช่องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แล้วพอเราจะแก้ก็บอกว่าแก้ไขไม่ได้ ตนคิดว่า ส.ส.ร.50 ควรจะให้ความร่วมมือในการแก้ไขครั้งนี้ อย่างน้อยก็เพื่อจะลบรอยตราบาปที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความขัดแย้งมาจนถึงทุกวันนี้
“ผมไม่เห็นว่า ส.ส.ร.50 จะคิดเหมือนกับกลุ่มที่ออกมาต่อต้านทุกคน เพราะการที่ ส.ส.ร.50บางคนออกมาคัดค้านครั้งนี้ ก็เพราะจะรักษาประติมากรรมชั้นเยี่ยมของตัวเองที่ เป็นความอัปลักษณ์ของระบอบประชาธิปไตยเอาไว้ ไม่มีใครรับได้หรอก และมาไม่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย แม้แต่การโหวตเป็นรายมาตราในสภาองค์ประชุมก็ยังไม่ครบเลย” นายณัฐวุฒิ กล่าว