xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ย้ำ พท.ต้องโชว์จุดยืนแก้ รธน. บี้คุมค่าครองชีพพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปชป.เฉ่งรัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาการเมืองของตัวเอง ตระบัดสัตย์นโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน จี้แสดงความชัดเจนประเด็นแก้ไข รธน.หวั่นสร้างความขัดแย้งรุนแรง พร้อมเรียกร้องเร่งแก้ปัญหาค่าครองชีพ หลังบริหารงานแย่โดยเฉพาะเรื่องพลังงาน นำมาซึ่งราคาข้าวของแพง ขณะเดียวกันตั้งขอสงสัยตั้ง “นลีนี” นั่ง รมต.ตอบแทนเอี่ยวธุรกิจในแอฟริกาใต้ หลังพบ “นช.แม้ว” เตรียมลงทุนทำเหมืองถ่านหิน ยันเดินหน้าพิสูจน์ ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี ท้าเรียกหลักฐานภาพวงจรปิด-ใบเสร็จค่าห้องพิสูจน์

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขณะนี้สถานการณ์ของประเทศมีโอกาสกลับมาสู่วังวนของความขัดแย้งและความวุ่นวายที่จะส่งต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมไม่รู้จบในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำกลุ่มนิติราษฎร์นั้น พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ไม่ว่าความเห็นนั้นจะถูกหรือผิด ความคิดเห็นนั้นเป็นสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่รับไม่ได้ เพราะไม่ควรละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น พร้อมยืนยันว่าการดำเนินการใดๆ ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและต้องใช้กระบวนการนิติรัฐ นิติธรรมนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตออกไปได้

ทั้งนี้ ผู้ที่สมควรโดนตำหนิจริงๆ คือ รัฐบาล เพราะมุ่งแต่แก้ไขปัญหาเรื่องการเมือง โดยละทิ้งปัญหาของประชาชน ละทิ้งคำพูดที่ได้เคยสัญญาไว้กับประชาชนในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้ง ตระบัดสัตย์นโยบายกับประชาชนเกือบทุกประเด็น โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยังคงยืนยันว่าไม่ได้ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เนื่องจากกระบวนการเลือกตั้ง ส.ส.ร. โดยที่ไม่มีการกำกับหัวข้อการปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคประชาธิปัตย์เกรงว่าเป็นการสุ่มเสี่ยงเกินไป เพราะฉะนั้นขอเสนอให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ....ระบุข้อจัดของการทำหน้าที่ของ ส.ส.ร.ได้ ว่าจะต้องไม่แตะต้อง 3 หมวดสำคัญ คือ หมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ หมวดองค์กรอิสระ และเรื่องการลบล้างความผิด ยังเป็นจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ จึงคิดว่าไม่มีอะไรเสียหายที่รัฐบาลจะประกาศจุดยืนในเรื่องเดียวกัน

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กลับระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ใจร้อน คำถามที่ต้องถามกลับไปเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะไม่แตะต้องหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ทำไม ร.ต.อ.เฉลิมถึงใจเย็นปล่อยให้เรื่องนี้เกิดความสุ่มเสี่ยงขึ้นได้ ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องแสดงความชัดเจนและความบริสุทธิ์ใจในการยังยั้งความขัดแย้งและภัยที่กำลังก่อตัวในสังคม หากรัฐบาลสามารถยืนยันได้ในชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.... จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญราบรื่น

นายชวนนท์เรียกร้องให้รัฐบาลมุ่งหน้าแก้ไขปัญหาค่าครองชีพให้กับประชาชนที่ขณะนี้พุ่งสูงขึ้น ดัชนีวัดค่าครองชีพและดัชนีวัดเงินเฟ้อสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาจำนวนหลายเปอร์เซนต์ สิ่งที่รัฐบาลระบุว่าพยายามที่จะควบคุมราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค แต่สิ่งที่รัฐบาลไม่พูดและจงใจจะทำคือการขึ้นราคาน้ำมันดีเซล ก๊าซเอ็นจีวีและแอลพีจี ที่เป็นสัญญาณที่ส่งไปยังสังคมว่ารัฐบาลชุดนี้มีทิศทางในการบริหารนโยบายพลังงานอย่างไร ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นการบริหารที่สะเปะสะปะ ขณะนี้น้ำมันดีเซลที่ปลายปีมีการคาดการณ์กันว่าอาจจะมีราคา36-37 บาท เช่นเดียวกับก๊าซเอ็นจีวีและแอลพีจีในภาคการขนส่งที่มีราคา 15 บาทต่อ กก.อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น สัญญาณตรงนี้ที่ส่งออกไปทำให้ราคาสินค้าในตลาดสูงขึ้นและไม่มีทางควบคุมได้ ดังนั้นข้อเรียกร้องของพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนี้ขอให้รัฐบาลกลับไปดึงราคาน้ำมันดีเซลต่ำกว่า 30 บาทเหมือนในยุคที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล รวมทั้งราคาก๊าซเอ็นจีวีและแอลจีวีที่ต้องมีการควบคุมให้อยู่ในระดับอัตราที่เหมาะสม ในขณะนี้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) มีกำไรมหาศาล ตนคิดว่าควรสละตรงนั้น เพื่อมาดูแลประชาชน ซึ่งจะไม่ได้ทำให้บริษัทดังกล่าวขาดทุน

นายชวนนท์กล่าวว่า สิ่งที่อยากเรียกร้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่าการควบคุมราคาสินค้าจะใช้การตลาดควบคุมไม่ได้ ที่ตลาดมีนบุรีที่นายกฯ เดินทางไปเปิดโครงการธงฟ้าจำหน่ายสินค้าราคาถูกนั้นนั้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ไม่เหลือร้านธงฟ้าแม้แต่ร้านเดียว ซึ่งสามารถไปดูได้ เพราะนายกฯ เอาธงไปติดหน้าร้านเขาเอง พอนายกฯกลับเขาก็ยกออก ถือว่าเป็นการละทิ้งประชาชนและข้อเท็จจริงที่ควรนำมาปรับปรุงแก้ไข แต่ใช้การตลาดแก้ไขปัญหาของประชาชนมาโดยตลอด เช่น อาหารตามสั่ง 1 อย่าง มีราคา 35 บาท ถ้าหากเพิ่มไข่ดาว มีราคา 45 บาท มะนาวลูกละ 8 บาท รัฐบาลจะต้องทำอย่างไรก็ได้ที่ควบคุมราคาสินค้าให้อยู่ภายใต้ในระดับที่ต้องการ เพราะราคาต้นทุนและเชื้อเพลิงมีราคาสูงขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่แม่ค้าและพ่อค้าจะยอมขายของในราคาที่ขาดทุน หลายครั้งที่มีการควบคุมราคาสินค้าที่ปลายทางแต่ไม่เคยควบคุมราคาสินค้าที่ต้นทาง ผลที่เกิดขึ้นจะทำให้สินค้าขาดตลาด ตนไม่คิดว่ารัฐบาลจะตอบสนองโจทย์ที่ตั้งไว้ได้จริง พรรคประชาธิปัตย์จึงเรียกร้องให้รัฐบาลควบคุมราคาสินค้าที่ต้นทุนและต้นทางปัจจัยต่างๆ ในการผลิต เพราะไม่มีประโยชน์ในการควบคุมสินค้าปลายทาง

นายชวนนท์กล่าวถึงกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท ทำเหมืองถ่านหินในประเทศแอฟริกาใต้กับบริษัท มิแรนดา มิเนรัล โฮลดิงส์ ว่า เมื่อ 1-2 เดือนที่ผ่านมา เคยพูดถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะลงทุนเหมืองแร่กับบริษัท โกลบอล พีเอส ไมนิ่ง อินเวสต์เมนท์ และมีความเชื่อมโยงกับบุคคลสำคัญในแอฟริกาใต้ จึงมีการตั้งคำถามว่าการตั้งนางนลินี ทวีสิน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวนี้หรือไม่ เนื่องจากนางนลินี ถูกสหรัฐอเมริกาแบล็กลิสต์ จากการทำธุรกรรมเพราะมีความเกี่ยวข้องกับแอฟริกาใต้ โดยก่อนหน้านี้นายนพดล ปัทมะ ทนายความส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ออกมาปฏิเสธว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทมิแรนดาฯ ที่ประเทศแอฟริกาใต้แล้ว แต่ปรากฏว่าเมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศแห่งหนึ่งระบุชัดว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมควักเงินกว่า 400 ล้านบาท เพื่อลงทุนทำเหมืองถ่านหินในประเทศแอฟริกาใต้

“ผมไม่เข้าใจว่าตกลงผมโกหก หรือนายนพดลโกหก กรณีดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่านายนพดลรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเต็มที่ มองว่าเป็นการเอาตัวเองเข้ามาแลก โดยพูดและตอบโต้โดยไม่มีข้อมูล ที่สำคัญยิ่งทำให้พวกผมสงสัยว่า พ.ต.ท.ทักษิณไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจเหมืองถ่านหินซึ่งอาจพาดพิงเกี่ยวกับนางนลินีมากขึ้น เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจไม่ได้ถอนตัวจริง แต่เหตุที่มีข่าวต้องถอนตัว เพราะขณะนั้น มีปัญหาการตรวจสอบโดยตลาดหลักทรัพย์ของแอฟริกาใต้ จนกระทั่งมีความชัดเจนมากขึ้นว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท มิแรนดาฯ ที่ประเทศแอฟริกาใต้”

นายชวนนท์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะตรวจสอบในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง กรณีดังกล่าวมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องหรือมีการตบรางวัลให้กับนางนลินีหรือไม่ เพราะเมื่อเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว บริษัทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับการอนุมัติในการเข้ามาทำเหมืองถ่านหินในประเทศแอฟริกาใต้ทันที

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินคดีกับ ส.ส.3 คนของพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย ตน นายเทพไท เสนพงศ์ นายศิริโชค โสภา หลังมีการพูดจาเสียดสี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ในทางเสื่อมเสียนั้น ยืนยันว่า ในวันที่ 6 มี.ค.นี้ ตนจะเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามเวลาที่นัดหมาย จะไม่ปากกล้า ขาสั่น ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ตามที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยพยายามกล่าวหา

แต่สิ่งที่ตนเป็นห่วงมากที่สุดคือเรื่องนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์อย่าเอามาเป็นเกมเครื่องมือปิดบังความจริงที่โรงแรมโฟร์ซีซันส์ เพราะที่ผ่านมาใช้กระโปรงตัวเองปิดมานานจนรู้ว่าสังคมเริ่มทนไม่ได้ ก็เลยมาใช้กฎหมายมาร่วมกันปิด ซึ่งจริงๆ แล้ว หาก น.ส. ยิ่งลักษณ์ หากชี้แจงผ่านสื่อมวลชนหรือตอบกระทู้ที่สภาฯ ว่าไปทำสิ่งใดที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เรื่องทุกอย่างก็จบ แต่ก็ไม่เคยอธิบายหรือชี้แจงใดๆ เลย อีกทั้งขณะนี้ก็มีข้อสงสัยว่ามีการไปพบกันจริงระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ชั้น 7 ของโรงแรมโฟร์ซีซันส์ ซึ่งไม่ทราบว่าห้องใด แต่เรื่องนี้เมื่อมีการฟ้องร้องไปแล้วอย่าหยุด และตนก็ไม่โทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะทราบดีว่าเป็นเรื่องของการเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องทำหน้าที่ไป แต่ว่าขอให้ตรวจสอบให้ถึงที่สุด เมื่อไปต่อสู้กันในชั้นศาลแล้ว ถ้าเรียกข้อมูลกล้องวงจรปิดที่ชั้น 7 และใบเสร็จของผู้ที่เปิดห้อง ออกมาได้ เมื่อเห็นแล้วตกใจก็ต้องกล้าที่จะเปิดเผยด้วย

“ถ้าตำรวจเห็นแล้ว เป็นภาพที่ไม่สามารถมาเปิดเผยสื่อมวลชนได้ จะกล้าหรือไม่ เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะตนก็พร้อมที่จะพิสูจน์ความจริงว่าสิ่งที่ได้ตั้งข้อสงสัยและข้อสังเกตนั้นไม่ว่าจะเรื่องเป็นศีลธรรม จริยธรรม หรือการทุจริต ก็เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายค้านอย่างตรงไปตรงมา ดังนั้น ขอให้กระบวนการยุติธรรมได้พิสูจน์ว่าเหตุการณ์ที่โรงแรมโฟร์ซีซันส์เกิดสิ่งใดขึ้น”

นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ชมโทรทัศน์คนเสื้อแดงช่องหนึ่ง กล่าวถึง น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์เป็นภาษาอีสานด้วยถ้อยคำหยาบคาย เพราะเป็นคำใต้สะดือ จึงอยากให้สังคมและสื่อมวลชนช่วยกันตรวจสอบพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น