xs
xsm
sm
md
lg

ยื่นสอบ"ปู" โดดสภาขึ้นสวรรค์ชั้น7 แม้วป้องไม่ทำเรื่องฉาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - "กลุ่มกรีน" ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินสอบจริยธรรมนายกฯ โดดประชุมสภาแอบไปเจรจาธุรกิจลับในโรงแรม ด้าน "เอกยุทธ"ให้ "หมอพรทิพย์" ช่วยตรวจบาดแผล อ้างไปโรงพยาบาล 2 แห่ง หมอไม่กล้าออกใบรับรอง ด้านประชาธิปัตย์ จี้ "ยิ่งลักษณ์" ชี้แจงเอง เรื่อง ว.5 ที่โฟร์ซีซัน ชั้น 7 อย่าปล่อยให้ประชาชนสับสน จินตนาการเป็นเรื่องชู้สาว "นพดล" แจงแทน เผยนายใหญ่เชื่อมั่นน้องสาวไม่ทำเรื่องเสื่อมเสีย

วานนี้ ( 13 ก.พ.) นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ตัวแทนกลุ่มกรีน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายสงัด ปัถวี รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีไม่เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะในวันที่ 8 ก.พ. ที่ปรากฏเป็นข่าวว่านายกฯได้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัว เป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ที่โรงแรมโฟร์ซีชัน โดยไม่ยอมเปิดเผยว่าไปทำอะไร ซึ่งทางกลุ่มฯเห็นว่า กรณีดังกล่าวกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เพราะเกรงว่ากิจธุระส่วนตัวที่นายกฯไปปฏิบัตินั้น อาจจะเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่นายกฯไปพูดคุยธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง หรือเปล่า เนื่องจากถ้าไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็น่าจะที่จะเปิดเผยถึงภารกิจดังกล่าวได้

" แม้ผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ในฐานะบุคคลสาธารณะ ควรมีสิทธิ และพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวก็ตาม แต่ในวันเกิดเหตุเป็นช่วงที่มีการประชุมสภาฯตามปกติ นายกฯกลับไม่เข้าร่วมประชุม แต่ไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัว ที่ว่ากันว่าไปพบกับนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และมีธุรกิจที่อาจมีส่วนได้เสียกับการกำหนดนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะกรณีที่รัฐบาลเตรียมจัดหาที่ดินกว่า 2 ล้านไร่ เพื่อทำแก้มลิงรับน้ำ ตามแนวทางการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ซึ่งวางงบประมาณทั้งระบบสูงกว่า 2.6 ล้านล้านบาท และยังปรากฏว่า นักธุรกิจคนดังกล่าวมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งหากไม่มีการดำเนินการใดๆ ก็จะส่งผลต่อกระบวนการกำหนดนโยบายสาธารณะของรัฐบาล และจะเกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนตามมา เพราะนายกฯ ไม่สามารถจำแนกระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน ออกจากส่วนรวมได้ ทำให้รัฐมนตรีร่วมคณะ เอาเยี่ยงอย่าง ไม่สนใจและคำนึงถึงจริยธรรมในการใช้อำนาจ และการปฏิบัติหน้า ทำให้เกิดปัญหาการทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ตามมา"

ดังนั้นทางกลุ่มกรีน จึงเห็นว่า มีความจำเป็นที่ผู้ตรวจการฯ จะต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 279 เพื่อตรวจสอบจริยธรรมของนายกฯ และหากพบข้อเท็จจริง ให้ดำเนินการในเรื่องของการถอดถอนทันที เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางจริยธรรม คุณธรรม และการเมือง

** ทวงผลสอบกรณีตั้ง"นลินี-เต้น"

ทั้งนี้ นายจาตุรันต์ ยังได้ยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้า กรณีที่ทางกลุ่มกรีน ยื่นขอให้ตรวจสอบจริยธรรมนายกรัฐมนตรี นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับการแต่งตั้งนางนลินี ทวีสิน เป็นรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมตรี และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์ อีกหนึ่งฉบับด้วย หลังจากปราฏข่าวว่า ทางผู้ตรวจการแผ่นดิน อาจยกคำร้อง

ด้านนายสงัด กล่าวว่า กรณีขอให้ตรวจสอบนายกฯ เกี่ยวกับการไม่ประชุมสภาฯนั้น ทางสำนักงานก็จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะผู้ตรวจการฯ พิจารณาว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไว้ดำเนินการหรือไม่ ในวันพุธที่ 15 ก.พ.นี้

ส่วนการตรวจสอบนายกฯ เรื่องการแต่งตั้ง นางนลินี และนายณัฐวุฒิ นั้น ขณะนี้ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีหนังสือลงวันที่ 1 ก.พ.55 ถึงนายกฯ และนายอำพน โดยไปรษณีย์ลงรับหนังสือในวันที่ 3 ก.พ. ซึ่งคงต้องรอให้ครบกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่บุคคลทั้ง 2 รับหนังสือว่า ตกลงแล้วจะมีหนังสือชี้แจงมาเลย หรือว่าจะขอเลื่อนการยื่นหนังสือชี้แจง เพราะสามารถทำได้ และมีหนังสือไปยังสถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย เพื่อขอข้อเท็จจริงกรณีการขึ้นบัญชีดำ นางนลินี แต่ในส่วนที่ว่าผู้ตรวจการฯ เตรียมยกคำร้องนั้น ตามกฎหมายให้อำนาจผู้ตรวจฯ พิจารณากรณีที่ดำรงตำแหน่งแล้ว แต่ทั้งนี้ มาตรา 279 วรรคท้าย บัญญัติให้ผู้ที่ทำหน้าที่แต่งตั้งบุคคลต้องแต่งตั้งบุคคลโดยคำนึงถึงจริยธรรม

***"เอกยุทธ" ให้ "หมอพรทิพย์" ตรวจ
 

วานนี้ (13 ก.พ.) นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจและเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซด์เดอร์ได้เข้าพบพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจน์สุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อขอให้แพทย์นิติเวชทางสถาบันฯ ตรวจสอบบาดแผล จากการถูกทำร้ายร่างกาย ที่โรงแรมโฟร์ซีซัน ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา

นายเอกยุทธ กล่าวว่าหลังเกิดเหตุตนได้เข้าตรวจบาดแผลที่ถูกทำร้ายที่โรงพยาบาล 2 แห่ง โดยทั้ง2 แห่งแพทย์ตรวจให้ แต่ไม่กล้าออกใบรับรองแพทย์ให้ ทั้งๆที่มีแพทย์นิติเวชทำการตรวจให้ จึงไม่ทราบเหตุใดเมื่อไปขอใบรับรองแพทย์จึงเกิดปัญหา ตนจึงต้องเดินทางมายังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพราะเชื่อว่าเป็นสถาบันที่น่าเชื่อถือ

สำหรับผลการตรวจของแพทย์นิติเวช และจักษุแพทย์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์นั้น ตนจะเก็บไว้เป็นหลักฐาน แต่ยังไม่ใช้เป็นข้อมูลในการดำเนินคดี และไม่ได้ใช้เพื่อจะเอาผิดใคร เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ได้เข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายเอกยุทธ ยังกล่าวถึงกรณีที่คนในรัฐบาลเรียกร้องให้ตนไปแจ้งความ ว่าการที่จะให้ตนไปแจ้งความตำรวจไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดหมดแล้ว เป็นชุดเดียวกับที่ตนมี แสดงว่าเขาเองก็มี แต่เขาไม่กล้าสู้หน้า เจ้าหน้าที่รัฐเองก็ทราบชัดอยู่แล้ว แต่ไม่ดำเนินการ ทำไมต้องรอให้ไปร้องทุกข์ และตนก็จะเดินในเกณฑ์ของตนที่มีอยู่ เพราะตอนนี้ตนทราบหมดแล้วว่า "ใครที่อยู่เบื้องหลัง" และรู้ว่าคนที่ใส่ชุดซาฟารีเป็นคนของใคร และจนถึงขณะนี้ รัฐบาลยังไม่มีการประสานมาแต่อย่างใด และถ้ามีความจำเป็น ตนก็อาจจะไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน

** "เหลิม"ท้า"เอกยุทธ"ไปแจ้งความ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายเอกยุทธ ออกมาท้าทายตนให้ไปแถลงข่าวพร้อมกันว่า ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่านายเอกยุทธ มาทะเลาะกับตนทำไม ตนไม่ขอรับคำท้า แต่ตนจะขอท้ากลับว่า ทำไมนายเอกยุทธ ไม่ไปแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสของคนร้าย มาท้าตนทำไม เพราะวันนั้นตนไม่ได้อยู่ที่โรงแรมโฟร์ซีซัน ดังนั้นนายเอกยุทธ ต้องไปแจ้งความร้องทุกข์ ถึงแม้ว่าตำรวจจะมีหน้าที่สืบสวนสอบสวนได้โดยที่ไม่ต้องร้องทุกข์ แต่ในเรื่องของตำหนิ รูปพรรณของคนร้าย ถ้านายเอกยุทธ ไปร้องทุกข์ ชี้แจงเรื่องก็จะง่ายขึ้น

เมื่อถามว่า นายเอกยุทธ ระบุว่า ร.ต.อ.เฉลิม รู้ดีทุกอย่าง รองนายกฯ กล่าวยืนยันว่า ไม่จริง เพราะตนไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย

** จี้"ปู"ชี้แจงให้หายสับสน

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับภารกิจ ว.5 ที่โรงแรมโฟร์ซีซัน เพราะขณะนี้สังคมเกิดความสับสน เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์และคนในรัฐบาลพูดไม่ตรงกัน โดยเฉพาะคำพูดของนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่เสียจนทำให้คนคิดถึงโรงแรมม่านรูด นายกฯ ต้องตบปากคนเหล่านี้ เพราะยิ่งพูดยิ่งทำให้เสีย ทำให้ข้อมูลหลุดออกมา

**โยงผลประโยชน์พื้นที่รับน้ำ

นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังอ้างว่า นายกฯอาจเจรจาเรื่องธุรกิจ เพาะมีประสบการณ์ธุรกิจมา 20 ปี ซึ่งเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และบังเอิญวันนั้น ก็มีคนพบนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อยู่ที่นั่นด้วย และจากนั้นบังเอิญมีการพูดถึงพื้นที่ 2 ล้านไร่ เพื่อทำเป็นพื้นที่รับน้ำ และฟลัดเวย์ โดยรัฐบาลตั้งงบไว้ 6 หมื่นล้านบาท จึงสงสัยว่า เหตุใดเพิ่งมีความชัดเจนในเรื่องงบประมาณ หลังจากนายกฯไป ว.5 ที่โรงแรมโฟร์ซีชั่น

"หากไม่มีการทุจริต หรือเอื้อประโยชน์ เหตุใดจึงไม่ออกมาชี้แจง และการบอกว่า เข้าพบนักธุรกิจเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น ทำไมจึงไม่ให้มีการประชุม กรอ. ที่เป็นช่องทางเปิดเผย ครอบคลุมธุรกิจหลายสาขา ทำไมจึงต้องแยกไปประชุมที่อื่น เรื่องนี้ประชาชนไม่ขำ และไม่ตลกด้วย เพราะเป็นการชี้ว่า มีการไปแอบสมคบคิดเพื่อวางแผนเอื้อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หรือไม่"

นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า วันนี้นายกฯ ถูกผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบเรื่องการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท เอสซี แอสเสท ในโครงการบ้านหลักแรก และที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ตัดถนนผ่านที่ดินแปลงงาม ผ่านบริษัทเอสซีแอสเสท มาแล้ว ถ้าพฤติกรรมเหล่านี้ยังคงอยู่ในความคิดรัฐบาล และคนแวดล้อมตระกูลนี้ แล้วไปทำอะไร ก็สามารถทำให้ที่ดินราคา 10 บาท ขึ้นไปถึงหลักแสนบาทได้ ขณะนี้สังคมต้องการความจริงจากปาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถ้าไม่มีอะไรทับซ้อน ก็ตอบมา จะได้จบ แต่นายกฯ กลับเลี่ยงตอบเบี่ยงไปในเรื่องจริยธรรม ทั้งที่ไม่มีคนถามว่าไปนอนกับใครมา แต่กลับตอบเองว่า เป็นผู้หญิง ไม่ทำอะไรให้เสียหาย

** ร้อนตัวเรื่อง"ชู้สาว"

น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ทนายส่วนตัวคือนายนพดล ปัทมะ ออกมาปกป้องชี้แจงภารกิจลับ ว.5 ชั้น7 โรงแรมโฟร์ซีซัน ของนายกรัฐมนตรี ถือว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก และลับเสียแล้ว เพราะมีพิรุธอย่างยิ่งโดยนายนพดล อ้างว่าไม่มีเรื่องไม่ชอบมาพากลใดๆ ไม่ใช่เรื่องชู้สาว ทั้งๆที่ยังไม่มีใครพูดว่าเป็นเรื่องชู้สาว แต่นายนพดลแบไต๋ออกมาเองแท้ๆ และพ.ต.ท.ทักษิณ เอาน้องสาวมาชู แล้วเชือดแท้ๆ คำพูดของนายนพดล เป็นเหมือนคำสารภาพของน.ส.ยิ่งลักษณ์

น.ส.มัลลิกา กล่าวด้วยว่า อยากขอร้องพ.ต.ท.ทักษิณ และนายนพดลว่าอย่าได้พูดสิ่งใดออกมาอีกเลย เพราะจะเสียมากกว่าได้ ควรให้ตัวนายกรัฐมนตรีชี้แจงด้วยตนเอง เพราะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และถ้ารักน้องสาวจริง พ.ต.ท.ทักษิณน่าจะรู้จักตัวตนนิสัยที่แท้จริงของน้องสาวตัวเองดีกว่าใคร ดังนั้นก่อนจะสายเกินแก้ และเป็นการฆ่าน้องสาวทั้งเป็น ควรปล่อยให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลาออกไปเสีย บางทีจิตสำนึก และจริยธรรม มันก็คือทางออกที่ดีที่สุดเช่นกัน

" ฝากบอกคุณยิ่งลักษณ์ว่า ที่สำคัญคือจริยธรรมทางการเมือง กรุณาอย่าใช้คำว่าผู้หญิงมาบังหน้า อย่าเพียงแค่ใช้คำนำหน้าว่า นางสาวแล้วอ้างความเป็นหญิงไปทำสิ่งที่มิควร แค่เขาขอให้ชี้แจงในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็โปรดชี้แจงไป ไม่ใช่หลบอยู่ใต้กระโปรงตัวเอง หลบอยู่ข้างหลังกลุ่มผู้หญิงอย่างเรา คุณไปทำอะไรไว้ผู้หญิงทั้งโลกต้องรับผิดชอบด้วยหรือ เมื่อหญิงชายก็เท่าเทียมกัน คุณจึงมาเป็นผู้นำเขา เมื่อทำเรื่องน่าสงสัย ชวนตรวจสอบจะโยนบาปให้ความเป็นหญิงอ้างว่าอย่ารังแกหญิงได้อย่างไร " น.ส.มัลลิกา กล่าว

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ไปพบนักธุรกิจ ที่รู้จักเพื่อขอความเห็น ขอคำปรึกษา และฟังเสียงสะท้อน เพื่อนำมาปรับใช้กับนโยบายรัฐบาล การฟื้นฟูเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหาน้ำท่วม จึงต้องหนีการประชุมสภาฯไปโรงแรมตามที่นายนพดดล ทนายของพ.ต.ท ทักษิณได้อธิบาย

ดังนั้นเพื่อเป็นการปกป้องเกียรติของนายกรัฐมนตรี และศักดิ์ศรีของผู้หญิงก็ช่วยระบุว่า รายชื่อนักธุรกิจที่ร่วมพบหารือ ว.5 ชั้น 7 นั้นมีใครบ้าง 1 คนหรือ 9 คน ใครบ้าง ทุกอย่างจะได้ไม่อึมครึม รวมทั้งขอชี้แนะว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่รู้หรือว่า สภาคือสถานที่ให้คำปรึกษา ให้ความคิดเห็น ให้เสียงสะท้อนต่อรัฐบาล ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และเรื่องน้ำท่วม แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เห็นความสำคัญ แล้วใครคือนักธุรกิจคนสำคัญ เหนือสภาผู้แทนฯที่ถึงขนาดต้องทิ้งสภาไปทำเรื่อง ว.5 หรือเรื่องลับ

** แม้วเชื่อมั่น "ปู" ไม่มีเรื่องเสียหาย

ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึง กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกฝ่ายค้านโจมตีเรื่องเดินทางไปโรงแรมโฟร์ซีซันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ทราบเรื่องนี้ แต่มองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เนื่องจากรู้จักน้องสาวดีว่ามีความระมัดระวังตัว จะไม่ทำอะไรให้เสียหายแก่ตนเองและหมู่คณะ โดยเห็นว่าการชี้แจงของนายกฯ และพรรคเพื่อไทย ต่อเรื่องนี้ชัดเจนดีแล้ว แต่ก็บอกว่าการเมืองไทยควรสร้างสรรค์ อย่ามุ่งทำร้ายกันทั้งที่ไม่มีความจริง แต่ก็เชื่อมั่นในความอดทนและเข้มแข็งของ น.ส.ยิ่งลักษณ์

**จวกกลุ่มกรีนเจตนาไม่บริสุทธิ์

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี กลุ่มกรีน ยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของ นายกรัฐมนตรี ว่า ความเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าว น่าจะเป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เพราะที่ผ่านมา สมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยออกมาตรวจสอบอะไรเลย จึงเห็นภาพความเป็น 2 มาตรฐานชัดเจน และการเคลื่อนไหวของกลุ่มกรีน ก็ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ทำแต่เรื่องที่ไม่เป็นสาระ จึงขอเรียกร้องให้ทบทวนบทบาทและจุดยืน อย่าตกเป็นเครื่องมือของใคร และอยากให้ประชาชนรวมทั้งองค์กรต่างๆ ร่วมตรวจสอบด้วย ว่ากลุ่มกรีน มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร.
กำลังโหลดความคิดเห็น