xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.จิก “ปู” ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ เบี่ยงประเด็น เอื้อประโยชน์พื้นที่ฟลัดเวย์ 2 ล้านไร่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวตอบโต้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย
ปชป.ตามจิก “ยิ่งลักษณ์” ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ ซัดเบี่ยงประเด็นเรื่องม่านรูดเอง สงสัยเอื้อประโยชน์พื้นที่ฟลัดเวย์ 2 ล้านไร่ ชี้ ทัวร์นกแก้ว นำความทุกข์สู่ประชา โต้ พท.ยันจัดงานร้องเพลงชาติคุ้มค่ากว่างานฉลอง ศปภ.ซัด “เด็จพี่” ดีแต่แหล จี้ พท.ตอบให้ชัดแก้ รธน.ไม่แตะ ม.309-102(7) ล้างปฏิวัติ เปิดทาง “ทักษิณ” กลับวงการเมือง แฉเตรียมล็อกสเปก ส.ส.ร.เอื้อนายใหญ่

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับภารกิจ ว.5 ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เพราะขณะนี้สังคมเกิดความสับสน เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคนในรัฐบาลพูดไม่ตรงกัน โดยเฉพาะคำพูดของ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่พูดบานปลายทำให้คนคิดถึงม่านรูด นายกฯต้องตบปากคนเหล่านี้ เพราะยิ่งพูดยิ่งทำให้เสีย ทำให้ข้อมูลหลุดออกมา

นอกจากนี้ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังอ้างว่า นายกฯอาจเจรจาเรื่องธุรกิจ เพราะมีประสบการณ์ธุรกิจมา 20 ปี ซึ่งเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และบังเอิญวันนั้นก็มีคนพบนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อยู่ที่นั่น และจากนั้นบังเอิญมีการพูดถึงพื้นที่ 2 ล้านไร่ เพื่อทำเป็นพื้นที่รับน้ำและฟลัดเวย์ โดยรัฐบาลตั้งงบไว้ 6 หมื่นล้านบาท จึงสงสัยว่าเหตุใดเพิ่งมีความชัดเจนในเรื่องงบประมาณหลังจากนายกฯไป ว.5 ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์

“หากไม่มีการทุจริต หรือเอื้อประโยชน์ เหตุใดจึงไม่ออกมาชี้แจง และการบอกว่าเข้าพบนักธุรกิจเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น ทำไมจึงไม่ให้มีการประชุม กรอ.ที่เป็นช่องทางเปิดเผยครอบคลุมธุรกิจหลายสาขา ทำไมจึงต้องแยกไปประชุมที่อื่น เรื่องนี้ประชาชนไม่ขำ และไม่ตลกด้วย เพราะเป็นการชี้ว่ามีการไปแอบสมคบคิดเพื่อวางแผนเอื้อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หรือไม่”

นายชวนนท์ กล่าวว่า วันนี้นายกฯถูกผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบ เรื่องการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท เอสซี แอสเสท ในโครงการบ้านหลักแรก และที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ตัดถนนผ่านที่ดินแปลงงามผ่าน บริษัท เอสซี แอสเสท มาแล้ว ถ้าพฤติกรรมเหล่านี้ยังคงอยู่ในความคิดรัฐบาลและคนแวดล้อมตระกูลนี้ แล้วไปทำอะไรก็สามารถทำให้ที่ดินราคา 10 บาท ขึ้นไปถึงหลักแสนบาทได้ ขณะนี้สังคมต้องการความจริงจากปาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถ้าไม่มีอะไรทับซ้อน ก็ตอบมาจะได้จบ แต่นายกฯกลับเลี่ยงตอบเบี่ยงไปในเรื่องจริยธรรม ทั้งที่ไม่มีคนถามว่าไปนอนกับใครมา แต่กลับตอบเองว่า เป็นผู้หญิง ไม่ทำอะไรให้เสียหาย

นายชวนนท์ กล่าวถึงการที่นายกฯลงพื้นที่ดูการเตรียมการป้องกันน้ำท่วม ในชื่อ ทัวร์สร้างความสุข สร้างความหวัง แต่คนในหลายพื้นที่กลับคิดว่าเป็นทัวร์สร้างความทุกข์ หมดความหวัง เพราะนายกฯมีแผนฮุบที่ดิน 2 ล้านไร่ ทำให้ประชาชนนอนไม่หลับ เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีการไปจิ้มบ้านเขาหรือไม่ โดยเฉพาะในพื้นที่บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ ที่ต้องการให้เป็นที่รับน้ำ น้ำจะท่วมตลอดปี แสดงว่า นายกฯลงพื้นที่พร้อมแผนงาน เงาดำ สร้างอ่างเก็บน้ำอย่างนี้จะเรียกว่าสร้างความสุขได้อย่างไร

นายชวนนท์ กล่าวถึงกรณี นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ใช้งบ 60 ล้านบาท จัดร้องเพลงชาติในตอนเย็น ขณะที่งานรักประเทศไทยใช้งบเพียง 10 ล้านบาทว่า ขอยืนยันว่า การจัดงานร้องเพลงชาติ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ใช้งบประมาณเพียง 13.5 ล้านบาท จัดร้องเพลงชาติทุกจังหวัด 77 วัน โดยวันสุดท้ายจัดที่สนามศุภชลาศรัย มีคนร่วมงานถึง 7 หมื่นคน ใช้งบในวันนั้นเพียง 5 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วใช้งบประมาณหัวละ 13 บาท ขณะที่การัดงานรักประเทศไทยของรัฐบาลนี้ใช้งบประมาณวันเดียว 3 ชั่วโมง 10 ล้านบาท มีคนร่วมงาน 500 คน เฉลี่ยหัวละ 2 หมื่นบาท

“จึงอยากถามว่างานไหนคุ้มค่ากว่ากัน ไม่ใช่ออกมาพูดโดยไม่มี่ข้อมูล เอาแต่ว่าคนอื่น ดีแต่แหล ดีแต่มั่ว ควรเอาความจริงมาพูด” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

นายชวนนท์ กล่าวถึง นายพร้อมพงศ์ ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ขัดแข้งขาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า อยากถามว่ารัฐธรรมนูญปี 50 ที่ผ่านการทำประชามติจากประชาชน ไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหน และดูจากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอกันมา พบว่า กระบวนการตั้ง ส.ส.ร.จะมีการล็อกสเปก ถูกครอบงำจากพรรคการเมืองใหญ่ และยังมีการระบุว่าหากไม่ผ่านการทำประชามติก็สามารถนำเข้ามาพิจารณาใหม่ได้ แสดงว่า มีการดึงดัน ตั้งธงที่จะแก้ไขให้สำเร็จหรือไม่ และมั่นใจได้อย่างไรว่า จะไม่มีการลดทอนอำนาจองค์อิสระในการตรวจสอบหรือไม่ และยืนยันได้หรือไม่ว่าจะไม่แก้ไข มาตรา 237 เรื่องยุบพรรค มาตรา 309 การล้มล้างผลปฏิวัติ หรือมาตรา 102(7) เรื่องลักษณะต้องห้ามของผู้ที่เข้าดำรงตำแหน่งนายกฯ ครม. และ ส.ส.ว่า ต้องไม่เป็นบุคคลที่เคยถูกยึดทรัพย์ เพื่อเปิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาสู่การเมืองอีกหรือไม่ และจะแก้เรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชน ในเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อปูทางการทำธุรกิจหรือไม่ รวมถึงมาตรา 190 การทำสนธิสัญญากับต่างชาติด้วยหรือไม่ ดังนั้น ขอให้กลับไปคิดใหม่ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยมีผลประโยชน์แอบแฝงจะเป็นจุดเริ่มต้นในความขัดแย้งครั้งใหม่แน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น