xs
xsm
sm
md
lg

“นลินี” ปัดไขก๊อกพ้น ครม. ยันสนิท ปธน.ซิมบับเวในฐานะมิตร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางนลินี ทวีสิน รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 125 และอดีตผู้แทนการค้าไทย แถลงข่าว ซึง เป็นการแถลงเปิดใจครั้งแรกของนางนลินี โดยชี้แจงยืนยันว่าไม่เคยทำธุรกิจเพชรพลอยร่วมกับประธานาธิบดี โรเบิร์ต มูกาเบ้และภริยา และย้ำว่าไม่เคยโดนแบล็กลิสท์จากประเทศสหรัฐอเมริกา แต่อย่างใด
รมต.สำนักนายกฯ ประกาศไม่ไขก๊อกพ้น ครม.ตามข้อเรียกร้อง อ้างวุฒิสภามะกัน ปัดขึ้นแบล็กลิสต์ห้ามเข้าประเทศให้แล้ว ยืนยันรู้จักอดีต ปธน.ซิมบับเวในฐานะมิตร แต่ไม่ใช่เรื่องธุรกิจ


วันนี้ (22 ม.ค.) นางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงตอบโต้กรณีที่ทางการสหรัฐขึ้นบัญชีดำในฐานที่เกี่ยวข้องด้านธุรกิจกับประธานาธิบดีมูกาเบ้แห่งประเทศซิมบับเว ว่า การที่นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งให้เป็นรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เกิดข่าววิจารณ์ในสังคมไทยและมีการโจมตีอย่างมากเพื่อกดดันนายกรัฐมนตรีในกรณีนี้โดยพยามที่จะทำให้ดูเหมือนว่าการแต่งตั้งตนในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าอับอายและจะทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงขอทำการชี้แจงเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นให้สื่อประชาชนได้รับทราบความเป็นไปเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องในสังคมและความเป็นธรรมต่อตัวเอง รวมถึงนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยในประเด็นต่างๆดังต่อไปนี้

นางนลินี กล่าวว่า เมื่อวันที่25พ.ย.2551สำนักงานการควบคุมสินทรัพย์ของต่างประเทศได้ออกประกาศกล่าวหาว่าตนมีส่วนร่วมในการทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และด้านการค้าอัญมณีนามของประธานาธิบดีโรเบิตร์ แห่งซิมบับเว และมาดามเกรซ มูกาเบ้ภริยา และได้ประกาศอายัดทรัพย์สินของตนที่มีอยู่ในพื้นที่ที่ขอบเขตอำนาจกฎหมายของประเทสหรัฐอเมริกา รวมทั้งห้ามตนทำธุรกรรมด้านการเงินและการค้าขายกับคนอเมริกันทั้งนี้ ข้อเท็จจริงนั่นคือปี2545ประธานาธิบดีและภริยาได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตนได้รับการแนะนำให้รู้จักกับทั้งสองคน โดยได้ต้อนรับในฐานะที่เป็นเจ้าบ้านโดยคนไทยยึดมั่นในมิตรภาพ ความเป็นเพื่อนเมื่อเป็นเพื่อนก็ยังเป็นเพื่อนต่อกัน และได้มีความสัมพันธ์ทางสังคมที่ดีต่อกัน แต่มิใช่ทางธุรกิจใดๆ และไม่ได้มีการทำธุรกิจกับภริยาของประธานาธิบดีแต่อย่างใด

คำว่า”Black list” ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างรุนแรง โดยคนจำนวนมากเข้าใจว่าตนถูกห้ามเข้าสหรัฐ โดยสาเหตุเนื่องจากน่าจะเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมายที่ร้ายแรง อาทิ ค้ายาเสพติด การค้าอาวุธ การละเมิดกฎหมายอาญา เหมือนดังหลายกรณีที่ทางการสหรัฐเคยห้ามบุคคลต่างๆเข้าประเทศในหลายๆครั้ง

“ดิฉันไม่ได้อยู่ในบัญชีดำ ถูกห้ามเข้าประเทศหรัฐ ดิฉันยังคงเดินทางเข้าสหรัฐได้ การเผยแพร่คำว่า “Black List”จึงอาจเป็นเสมือนหนึ่งเป็นความจงใจทำให้เกิดความเข้าใจผิด บิดเบือนข้อเท็จจริงโดยผู้ที่มีประสบการณ์และความรู้ด้านภาษาอังกฤษในระดับที่ดีมาก ข้อเท็จจริงที่สำคัญคือ การ”Sanctions”เป็นมาตรการที่ใช้ในทางการเมือง ไม่ใช่สิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับการละเมิดกฎหมาย หรือทำผิดกฎหมายอาญาอย่างรุนแรง”นางนลินี กล่าว

นางนลินี กล่าวอีกว่า ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งที่ตั้งใจเข้ามาทำงาน และต้องพบกบสิ่งที่ไม่คาดคิด ถูกโจมตีอย่างรุนแรง แต่ก็ยังมีกำลังใจ ความเข้มแข็งที่จะทำงานหนัก และขอโอกาสชี้แจงข้อเท็จจิรงผ่านสื่อฯ ผู้มีหลักการและหัวใจที่เที่ยงตรงผ่านต่อไปยังประชาชน ทั้งประเทศในครั้งนี้ว่า การทำงานหนัก การตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวม จะเป็นบทพิสูจน์ตัวเอง และขอให้ตนเป็นเหยื่อทางการเมืองคนสุดท้ายที่จะโดนเล่นงาน ด้วยข้อกล่าวหาและการทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างรุนแรงเช่นนี้ และขอให้พี่น้องสื่อฯกรุณาได้ให้โอกาสทำงานสักระยะหนึ่งก่อน แล้วจะขอพิจารณาตัวเองว่าตัวเองสามารถทำประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติเต็มที่ได้หรือไม่

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยในฐานะเป็นรัฐบาลขอประณามฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงนายกษิต ภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ น่าจะเข้าใจคำว่าแซงชั่น กับแบล๊กลิสต์ แต่ก็จงใจใช้ประเด็นการเมือง ใช้คำว่าแบล๊กลิสตแล้วเปิดเวปไซด์นำมาแถลงข่าวเป็นเจตนาจงใจจะบิดเบือนประเด็นข้อมูลที่ปรากฏเป็นข้อเท็จจริงที่มีลักษณะคล้ายกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจคือการไปนำคลิปจากยูทูปแล้วก็มากล่าวหารัฐบาลซึ่งพรรคเพื่อไทยก็จะพิจารณาต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร วันนี้ขออนุญาตเปลี่ยนคำจากแบล๊กลิสต์เป็นการแซงชั่น ส่วนการแซงชั่นจะแก้ไขปรับปรุงอย่างไรเป็นหน้าที่รมต.ต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น