xs
xsm
sm
md
lg

"นลินี"ตะแบงสู้! ผู้นำซิมบับเว่แค่เพื่อน ครม.ถวายสัตย์ฯวันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน -"นลินี" แถลงขอโอกาสทำงาน ลั่นไม่ไขก๊อก ดิ้นแจงผู้นำซิมบับเว่แค่เพื่อน ไม่มีการทำธุรกิจกับผู้นำซิมบับเว ยันไม่ได้ถูกสหรัฐฯขึ้น "แบล็กลิสต์" แค่ถูก"แซงชั่น" เท่านั้น ด้าน ปชป.แฉ "แม้ว" มีธุรกิจในแอฟริกา หวังใช้ "นลินี" เป็นตัวประสานงาน "ยิ่งลักษณ์" นำ ครม.ใหม่เข้าถวายสัตย์ฯวันนี้

วานนี้ (22 ม.ค.) นางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงตอบโต้ กรณีทางการสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำตนเอง ฐานที่ไปเกี่ยวข้องด้านธุรกิจ กับประธานาธิบดี มูกาเบ้ แห่งประเทศซิมบับเว ว่า การที่นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งให้ตนเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เกิดข่าววิจารณ์ในสังคมไทย และมีการโจมตีอย่างมาก เพื่อกดดันนายกรัฐมนตรีในกรณีนี้ โดยพยามที่จะทำให้ดูเหมือนว่า การแต่งตั้งตนให้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่น่าอับอาย และจะทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างยิ่ง

ดังนั้นตนจึงขอชี้แจงเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น ให้สื่อ และประชาชนได้รับทราบความเป็นไป เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง และความเป็นธรรมต่อตนเอง รวมถึงนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย ในประเด็นต่างๆ

นางนลินี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 51 สำนักงานการควบคุมสินทรัพย์ของต่างประเทศ ได้ออกประกาศกล่าวหาว่า ตนมีส่วนร่วมในการทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และด้านการค้าอัญมณี ในนามของประธานาธิบดี โรเบิร์ต มูกาเบ้ แห่งซิมบับเว และมาดามเกรซ มูกาเบ้ ภริยา และได้ประกาศอายัดทรัพย์สินของตน ที่มีอยู่ในพื้นที่ที่ขอบเขตอำนาจกฎหมายของประเทสหรัฐอเมริกา รวมทั้งห้ามตนทำธุรกรรมด้านการเงิน และการค้าขายกับคนอเมริกัน

ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ คือเมื่อปี 2545 ประธานาธิบดีมูกาเบ้ และภริยา ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตนได้รับการแนะนำให้รู้จักกับทั้งสองคน โดยได้ต้อนรับ ในฐานะที่เป็นเจ้าบ้าน โดยคนไทยยึดมั่นในมิตรภาพ ความเป็นเพื่อน เมื่อเป็นเพื่อนก็ยังเป็นเพื่อนต่อกัน และได้มีความสัมพันธ์ทางสังคมที่ดีต่อกัน แต่มิใช่ทางธุรกิจใดๆ และไม่ได้มีการทำธุรกิจกับภริยาของประธานาธิบดี แต่อย่างใด

** ไม่ถูก"แบล็กลิสต์"แค่"แซงชั่น"

คำว่า "Black list" ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างรุนแรง โดยคนจำนวนมาก เข้าใจว่าตนถูกห้ามเข้าสหรัฐฯ โดยสาเหตุเนื่องจากน่าจะเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมายที่ร้ายแรง อาทิ ค้ายาเสพติด ค้าอาวุธ การละเมิดกฎหมายอาญา เหมือนดังหลายกรณีที่ทางการสหรัฐฯ เคยห้ามบุคคลต่างๆ เข้าประเทศในหลายๆ ครั้ง

" ดิฉันไม่ได้อยู่ในบัญชีดำถูกห้ามเข้าประเทศสหรัฐฯ ดิฉันยังคงเดินทางเข้าสหรัฐฯได้ การเผยแพร่คำว่า “Black List” จึงอาจเป็นเสมือนหนึ่งเป็นความจงใจ ทำให้เกิดความเข้าใจผิด บิดเบือนข้อเท็จจริง โดยผู้ที่มีประสบการณ์ และความรู้ด้านภาษาอังกฤษในระดับที่ดีมาก ข้อเท็จจริงที่สำคัญคือ การ ”Sanctions” เป็นมาตรการที่ใช้ในทางการเมืองไม่ใช่สิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับการละเมิดกฎหมาย หรือทำผิดกฎหมายอาญา อย่างรุนแรง " นางนลินี กล่าว

นางนลินี กล่าวอีกว่า ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ตั้งใจเข้ามาทำงาน และต้องพบกับสิ่งที่ไม่คาดคิด ถูกโจมตีอย่างรุนแรง แต่ก็ยังมีกำลังใจ ความเข้มแข็งที่จะทำงานหนัก และขอโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านสื่อฯ ผ่านต่อไปยังประชาชนทั้งประเทศ ว่า การทำงานหนัก การตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวม จะเป็นบทพิสูจน์ตัวเอง และขอให้ตนเป็นเหยื่อทางการเมืองคนสุดท้าย ที่จะโดนเล่นงาน ด้วยข้อกล่าวหาและการทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างรุนแรงเช่นนี้ และขอให้พี่น้องสื่อฯ กรุณาได้ให้โอกาสทำงานสักระยะหนึ่งก่อน แล้วจะขอพิจารณาตัวเองว่า ตัวเองสามารถทำประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติเต็มที่ได้หรือไม่

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยในฐานะเป็นรัฐบาล ขอประณามฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึง นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ น่าจะเข้าใจคำว่า แซงชั่น กับ แบล็กลิสต์ แต่ก็จงใจใช้ประเด็นการเมือง ใช้คำว่าแบล็กลิสต์ แล้วเปิดเว็บไซต์ นำมาแถลงข่าว เป็นเจตนาจงใจจะบิดเบือนประเด็นข้อมูลที่ปรากฏเป็นข้อเท็จจริง ที่มีลักษณะคล้ายกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือการไปนำคลิปจากยูทูป แล้วก็มากล่าวหารัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็จะพิจารณาต่อไปว่า จะดำเนินการอย่างไร วันนี้ขออนุญาตเปลี่ยนคำจาก"แบล็กลิสต์" เป็นการ"แซงชั่น ส่วนการแซงชั่น จะแก้ไขปรับปรุงอย่างไร เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรี ต่อไป

** ขอ"นลินี"ลองทำงานดูก่อน

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อว่า แกนนำพรรคเพื่อไทย กดดันนางนลินี ให้ลาออกก่อนการถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งนั้น ขอยืนยันว่า พรรคไม่ได้มีการกดดันใดๆ ซึ่งจากข่าวมีความคลาดเคลื่อน ทางพรรคเพื่อไทย ได้เปิดโอกาสให้นางนลินี ชี้แจงกรณีที่สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ เพื่อให้สังคมมีความเข้าใจ ตนไม่อยากให้ทางพรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาวิจารณ์อย่างไม่สร้างสรรค์ ในเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรี เหมือน ดิสเครดิตรัฐบาล และพุ่งเป้าไปยังนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ รัฐบาลอยากให้นางนลินี ทำงานไปก่อน 3 เดือน 6 เดือนจากนั้น ค่อยมาตรวจสอบตามกระบวนการของรัฐสภา ไม่ใช่มาโจมตีรายวัน หรือกดดันให้ลาออก ซึ่งการกรทำของฝ่ายค้านเช่นนี้ ถือเป็นการจ้องล้มรัฐบาล อีกประเด็นหนึ่ง

นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า จะมีการยึดโควตาตำแหน่งเลขานุการ และ ที่ปรึกษารัฐมนตรี ของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ขอเรียนว่า เป็นการเสนอข่าวที่คลาดเคลื่อน ทั้งนี้ หากจะมีการปรับ ก็ปรับเพื่อความเหมาะสม ซึ่งตำแหน่งเลขานุการ และที่ปรึกษา ก็ยังอยู่ ถ้าหากปรับจริง ก็คงเป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน ซึ่งจะมีการหารือกันในที่ประชุมพรรค ในวันที่ 24 ม.ค.นี้ ในส่วนตำแหน่งเลขานุการ ที่ปรึกษารัฐมนตรี ตามโควต้าที่มีการปรับ

** "แม้ว"หวังใช้"นลินี"สานธุรกิจ

ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคได้รับข้อมูลถึงความสัมพันธ์ และแผนการลงทุนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในประเทศแถบแอฟริกาใต้ จากสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ในซิมบับเว ที่มีการเปิดเผยเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นเรื่องของบริษัทเหมืองแร่แห่งหนึ่ง ในประเทศแถบแอฟริกา ที่บริษัทนี้มีนักลงทุนกลุ่มหนึ่งเข้ามาซื้อหุ้นเพื่อเทกโอเวอร์ บริษัท มิรันด้า โดยมีการสัญญาว่า จะมีเงิน 108.6 ล้านรัน (rand) เพื่อทำกิจการเหมืองแร่

นายชวนนท์ กล่าวว่า ช่วงที่กลุ่มนี้เข้ามาซื้อหุ้น ทำให้ราคาหุ้นดีดขึ้นไปพอสมควร และระหว่างการดำเนินกิจการ ได้มีการตรวจสอบพบว่า กลุ่มนี้มีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ และมีการแอบอ้างการได้สัมปทานเหมืองเพชร พลอย ในพื้นที่ต่างๆของประเทศแอฟริกาใต้ ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทนี้สูงขึ้น แต่ทางตลาดหลักทรัพย์ ของแอฟริกาใต้ ตรวจสอบพบว่าข้อมูลต่างๆ เป็นเท็จ

ทั้งนี้ คือไม่มีการนำเงินมาลงทุนจริง ไม่มีการไปรับสัมปทานอย่างที่มีการกล่าวอ้าง บริษัทที่เข้ามาทำสัญญาก็คือ บริษัทของพ.ต.ท.ทักษิณ ชื่อ โกลเบิ้ล พีเอส เทเลคอม อินเวสเมนต์ แต่ปัจจุบันหุ้นบริษัทนี้ ถูกห้ามซื้อขาย เพราะอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน จากหน่วยงานแอฟริกา และหุ้นตกพรวดลงมาจาก 70 เซนต์ เหลือ 19 เซนต์ และถูกยับยั้งการซื้อขายหุ้น คำถามคือ นี่เป็นเหตุผลที่ต้องใช้นางนลินี ที่มีสัมพันธ์อันดีกับผู้นำประเทศในแถบนี้ ใช่หรือไม่

" อยากให้ประชาชนพิจารณาหลักฐานชิ้นนี้ว่า เกี่ยวโยงเส้นทางการทำธุรกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะฉะนั้นจะไปว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ เพราะตอบไม่ได้จริงๆว่าจะปลดหรือไม่ปลดนางนลินี ออก เพราะไม่มีอำนาจและสิทธิตัดสินใจ ไม่ได้อยู่วงในธุรกิจเชื่อมโยง ซึ่งพรรคจะนำข้อมูลต่างๆ มาเสนอเพิ่มเติมต่อไป เพราะการทำธุรกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในแอฟริกา ค่อนข้างฉาวโฉ่ และไม่โปร่งใสในหลายประเด็น คำถามที่ต้องถามนายกฯ ก็คือ สิ่งที่สถานทูตสหรัฐฯ ใช้คำว่า นางนลินี มีส่วนในการทำลายระบอบประชาธิปไตยในประเทศซิมบับเวนั้น เป็นพฤติกรรมที่คนในรัฐบาลชื่นชอบหรือไม่ ถ้าไม่ชื่นชมพฤติกรรมอย่างนี้ ก็ควรจะจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จก่อนที่จะมีการถวายสัตย์ปฏิญาณตน" โฆษกปชป. กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายมีชัย ฤชุพันธ์ อดีตประธานวุฒิสภา ระบุว่า การแต่งตั้งนางนลินี เป็นไปตามรัฐธรรมนูญไทย โดยไม่ต้องไปฟังเสียงคัดค้านของสหรัฐฯ นายชวนนท์ กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกให้ไปฟัง ซึ่งการแต่งตั้งโดยยึดรัฐธรรมนูญไทย เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่กรณีผลกระทบจะเกิดขึ้นกับสังคม และประเทศโดยรวม เนื่องจากนักลงทุนไม่กล้ามาลงทุนในประเทศไทย เพราะกลัวเข้าไปอยู่ในแบล็กลิสต์ เราไม่ได้ไปบอกให้เกรงกลัวกฎหมายสหรัฐฯ แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มของประเทศ

ต่อข้อถามว่า บริษัทดังกล่าว นางนลินี เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร นายชวนนท์ ตอบว่า แม้ไม่มีชื่อนางนลินี แต่มีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ มีอำนาจลงนาม ซึ่งเราต้องการชี้ให้เห็นว่า ได้มีความต้องการจากพ.ต.ท.ทักษิณ ในประเทศแถบแอฟริกาจริง และนางนลินี มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องเพชรพลอยในประเทศแถบนั้น จึงมีคำถามว่า เป็นเหตุนี้หรือไม่ที่นางนลินี จึงได้โอกาสเป็นรัฐมนตรี โดยเอาประเทศทั้งประเทศ เข้าไปเสี่ยง

** เสี่ยงต่อการถูกแซงชั่นจากสหรัฐฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ มองว่าการแต่งตั้งนางนลินี จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยมาก หากไม่ลาออกจะทำอย่างไร นายชวนนท์ กล่าวว่า นักธุรกิจสหรัฐฯได้มีการแจ้งเตือนต่อๆ กันมากมาย ก็จะกระทบต่อประเทศไทย

ต่อข้อถามว่า นางนลินี ไม่ได้มีตำแหน่งรัฐมนตรีประจำกระทรวงค้าขาย ส่งออก จะกระทบได้อย่างไร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถ้ามีโครงการที่จะต้องเข้ามาขออนุมัติจากครม. เช่น การขอการส่งเสริมการลงทุน จากบีโอไอ หากนางนลินี นั่งอยู่ในที่ประชุมครม. ทางสหรัฐฯ ก็ต้องเอาไปตีความ เพราะปาเลสไตน์ เคยเกิดเหตุมาแล้ว จึงไม่แน่ใจว่า ข้อกฎหมายของสหรัฐฯ ไปถึงไหน แต่ถามว่ามันคุ้มหรือไม่ ที่เอาคนๆเดียว เข้าไป แล้วสร้างความเสี่ยงให้คนทั้งประเทศ และจะคุ้มหรือไม่ ถ้าสหรัฐฯ ประกาศแบนสินค้าไทย และเชื่อว่านักลงทุนสหรัฐฯ จะไม่มา เนื่องจากไม่มีใครต้องการแบกภาระความเสี่ยง

ส่วนการที่พรรคเพื่อไทย พยายามเปรียบเทียบการแต่งตั้ง นายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.ต่างประเทศ กับนางนลินีนั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า ก็ต้องบอกว่า เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่ใช้ตรรกะ หรือความรู้ เพราะเปรียบเทียบกันไม่ได้ เนื่องจากนางนลินี ถูกขึ้นบัญชีดำ ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในขณะที่ตอนนายกษิตได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ยังไม่ได้ถูกตั้งข้อกล่าวหา และหากจะเปรียบเทียบการก่อการร้าย ก็ต้องเปรียบกับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ แต่นายกษิต ก็ไม่ได้ไปปลุกระดม ให้คนเผาบ้านเผาเมือง แต่ไปเป็นเพียงวิทยากรเท่านั้น ซึ่งอัยการ ก็ไม่สั่งฟ้อง แต่นายณัฐวุฒิ นั้น ดีเอสไอ ส่งอัยการในข้อหาก่อการร้าย โดยอัยการ ก็สั่งฟ้องศาล หากพรรคเพื่อไทยจะเปรียบเทียบอะไรขอให้ใช้สติปัญญาในการหาความรู้ หาข้อเท็จจริง

** นายกฯนำครม.ถวายสัตย์ฯวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) บรรยากาศบริเวณหน้าบ้านพักของน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายในซอยโยธินพัฒนา 3 เป็นไปด้วยความเงียบเหงา โดยนายกฯ ใช้โอกาสวันหยุดสุดสัปดาห์ ประกอบกับเป็นเทศกาลตรุษจีน จึงพักผ่อนอยู่กับครอบครัวภายในบ้านพัก มีเพียงทีมรักษาความปลอดภัย และบรรดาสื่อมวลชนที่ปักหลักเพื่อติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวอยู่บริเวณโดยรอบบ้านพักเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีว่า มีภารกิจใดๆ หรือไม่ ซึ่งคนใกล้ชิดนายกฯ กล่าวเพียงสั้นๆว่า นายกฯไม่มีภารกิจที่ใด และวันนี้ขอหยุดอยู่กับครอบครัว

สำหรับภารกิจนายกรัฐมนตรี ในนี้ ( 23 ธ.ค. ) เวลา 08.30 น. นายกรัฐมนตรี จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไป จ.ลพบุรี เพื่อเยี่ยมชมการแสดงการสาธิตการใช้กำลังทางอากาศ ณ สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ก่อนที่ในช่วงเย็น เวลา 17.30 น. นายกรัฐมนตรี จะนำคณะรัฐมนตรีที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 18 ม.ค.55 ที่ผ่านมา เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ ที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 14 โรงพยาบาลศิริราช.
กำลังโหลดความคิดเห็น