โฆษก ปชป.ใช้ข้อมูลสื่อเทศแฉเงื่อนงำ “ปู” รับใบสั่งพี่ตั้ง “นลินี” นั่ง รมต.หวังให้ดูแลธุรกิจเหมืองแร่ของ “แม้ว” ในแอฟริกาใต้ จี้เร่งจัดการก่อนถวายสัตย์ ยันไม่ได้เอาใจมะกัน แต่ไม่คุ้มกับผลกระทบต่อประเทศ
วันนี้ (22 ม.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคได้รับข้อมูลถึงความสัมพันธ์และแผนการลงทุนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในประเทศแถบแอฟริกาใต้ จากสำนักข่าวแห่งหนึ่งในซิมบับเว ที่มีการเปิดเผยเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นเรื่องของบริษัทเหมืองแร่แห่งหนึ่งในประเทศแถบแอฟริกาที่บริษัทนี้มีนักลงทุนกลุ่มหนึ่งเข้ามาซื้อหุ้นเพื่อเทกโอเวอร์บริษัท มิรันดา โดยมีการสัญญาว่าจะมีเงิน 108.6 ล้านแรนด์ (rand) เพื่อทำกิจการเหมืองแร่
นายชวนนท์กล่าวว่า ช่วงที่กลุ่มนี้เข้ามาซื้อหุ้นทำให้ราคาหุ้นดีดขึ้นไปพอสมควรและระหว่างการดำเนินกิจการได้มีการตรวจสอบพบว่ากลุ่มนี้มีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ และมีการแอบอ้างการได้สัมปทานเหมืองเพชรพลอยในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศแอฟริกาใต้ ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทนี้สูงขึ้น แต่ทางตลาดหลักทรัพย์ของแอฟริกาใต้ตรวจสอบพบว่า ข้อมูลต่างๆ เป็นเท็จ ทั้งนี้คือไม่มีการนำเงินมาลงทุนจริง ไม่มีการไปรับสัมปทานอย่างที่มีการกล่าวอ้าง บริษัทที่เข้ามาทำสัญญาก็คือบริษัทของ พ.ต.ท.ทักษิณชื่อโกลเบิล พีเอส เทเลคอมอินเวสเมนต์ แต่ปัจจุบันหุ้นบริษัทนี้ถูกห้ามซื้อขายเพราะอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนจากหน่วยงานแอฟริกาและหุ้นตกพรวดลงมาจาก 70 เซ็นต์ เหลือ 19 เซ็นต์ และถูกยับยั้งการซื้อขายหุ้น คำถามคือนี่เป็นเหตุผลที่ต้องใช้นางนลินีที่มีสัมพันธ์อันดีกับผู้นำประเทศในแถบนี้
“อยากให้ประชาชนพิจารณาหลักฐานชิ้นนี้ว่าเกี่ยวโยงเส้นทางการทำธุรกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะฉะนั้นจะไปว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้เพราะตอบไม่ได้จริงๆ ว่าจะปลดหรือไม่ปลดนางนลินีออก เพราะไม่มีอำนาจและสิทธิ์ตัดสินใจ ไม่ได้อยู่วงในธุรกิจเชื่อมโยง ซึ่งพรรคจะนำข้อมูลต่างๆ มาเสนอเพิ่มเติมต่อไปเพราะการทำธุรกิจของพ.ต.ท.ทักษิณในแอฟริกาค่อนข้างฉาวโฉ่และไม่โปร่งใสในหลายประเด็น คำถามที่ต้องถามนายกฯก็คือสิ่งที่สถานฑูตสหรัฐฯใช้คำว่านางนลินีมีส่วนในการทำลายระบอบประชาธิปไตยในประเทศซิมบับเวนั้นเป็นพฤติกรรมที่คนในรัฐบาลชื่นชอบหรือไม่ ถ้าไม่ชื่นชมพฤติกรรมอย่างนี้ก็ควรจะจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จก่อนจะมีการถวายสัตย์ปฏิญาณตน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา ระบุว่าการแต่งตั้งนางนลินีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญไทย โดยไม่ต้องไปฟังเสียงคัดค้านของสหรัฐฯ นายชวนนท์กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกให้ไปฟัง ซึ่งการแต่งตั้งโดยยึดรัฐธรรมนูญไทยเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่กรณีผลกระทบจะเกิดขึ้นกับสังคมและประเทศโดยรวมเนื่องจากนักลงทุนไม่กล้ามาลงทุนในประเทศไทยเพราะกลัวเข้าไปอยู่ในแบล็กลิสต์ เราไม่ได้ไปบอกให้เกรงกลัวกฎหมายสหรัฐฯ แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มของประเทศ
ต่อข้อถามบริษัทดังกล่าวนางนลินีเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร นายชวนนท์ตอบว่า แม้ไม่มีชื่อนางนลินี แต่มีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณมีอำนาจลงนาม ซึ่งเราต้องการชี้ให้เห็นว่าได้มีความต้องการจาก พ.ต.ท.ทักษิณในประเทศแถบแอฟริกาจริงและนางนลินีมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องเพชรพลอยในประเทศแถบนั้น จึงมีคำถามว่าเป็นเหตุนี้หรือไม่ที่นางนลินีจึงได้โอกาสเป็นรัฐมนตรีโดยมีเอาประเทศทั้งประเทศเข้าไปเสี่ยง
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์มองว่าการแต่งตั้งนางนลินีจะสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทยมากหากไม่ลาออกจะทำอย่างไร นายชวนนท์กล่าวว่า นักธุรกิจสหรัฐฯ ได้มีการแจ้งเตือนต่อๆ กันมากมายก็จะกระทบต่อประเทศไทย ต่อข้อถามว่า นางนลินีไม่ได้มีตำแหน่งรัฐมนตรีประจำกระทรวงค้าขายส่งออกจะกระทบได้อย่างไร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ถ้ามีโครงการที่จะต้องเข้ามาขออนุมัติจาก ครม. เช่น การขอการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ หากนางนลินีนั่งอยู่ในที่ประชุม ครม. ทางสหรัฐฯ ก็ต้องเอาไปตีความเพราะปาเลสไตน์เคยเกิดเหตุมาแล้ว จึงไม่แน่ใจว่าข้อกฎหมายของสหรัฐฯ ไปถึงไหน แต่ถามว่ามันคุ้มหรือไม่ที่เอาคนๆเดียวเข้าไปแล้วสร้างความเสี่ยงให้คนทั้งประเทศและจะคุ้มหรือไม่ถ้าสหรัฐฯ ประกาศแบนสินค้าไทยและเชื่อว่านักลงทุนสหรัฐฯ จะไม่มา เนื่องจากไม่มีใครต้องการแบกภาระความเสี่ยง
ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยพยายามเปรียบเทียบการแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศกับนางนลินีนั้น นายชวนนท์กล่าวว่า ก็ต้องบอกว่าเป็นการเปรียบเทียบที่ไม่ใช้ตรรกะหรือความรู้ เพราะเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะกรณีนางนลินีถูกขี้นบัญชีดำของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในขณะที่ตอนนายกษิตได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรียังไม่ได้ถูกตั้งข้อกล่าวหาและหากจะเปรียบเทียบการก่อการร้ายก็ต้องเปรียบกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.มหาดไทย แต่นายกษิตก็ไม่ได้ไปปลุกระดมให้คนเผาบ้านเผาเมือง แต่ไปเป็นเพียงวิทยากรเท่านั้น ซึ่งอัยการก็ไม่สั่งฟ้อง แต่นายณัฐวุฒินั้นดีเอสไอส่งอัยการในข้อหาก่อการร้ายโดยอัยการก็สั่งฟ้องศาล หากพรรคเพื่อไทยจะเปรียบเทียบอะไรขอให้ใช้สติปัญญาในการหาความรู้หาข้อเท็จจริง