“เทพไท” ไม่แปลกใจ “แม้ว” ตั้งคนที่ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันนั่ง รมต. เชื่อปรับ ครม.ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมกลบเกลื่อนทุจริต ด้าน “ชวนนท์” เผยเว็บไซต์บริษัทกฎหมายสหรัฐฯ เตือนนักธุรกิจอเมริการะวังการทำธุรกิจกับรัฐบาลไทย หลังตั้ง “นลินี” นั่ง รมต.สำนักนายกฯ จี้นายกฯ ทบทวน หวั่นสร้างความเสียหายให้ประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเทพไท เสนพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเงา กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ออกมายืนยันว่าตนเองเป็นผู้รับผิดชอบในการปรับเปลี่ยนแต่เพียงผู้เดียวว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกมายอมรับในเรื่องนี้ การแต่งตั้งนางนลินี ซึ่งเป็นผู้อยู่ในแบล็กลิสต์ของสหรัฐอเมริกา น.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องแสดงความรับผิดชอบในความผิดพลาดที่กระทำการที่มิบังควรเสนอชื่อผู้ไม่เหมาะสมขึ้นทูลเกล้าให้มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่ แต่หากการปรับครม.ครั้งนี้อยู่ภายใต้การชี้นำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ไม่แปลกใจว่าทำไม่จึงกล้าที่จะเสนอคนที่ติดแบล็กลิสต์ของสหรัฐอเมริกา เพราะตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณเองก็เป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าประเทศในหลายๆ ประเทศด้วยจึงไม่สนใจความชอบธรรมและไม่แคร์กระแสสังคม เพราะตนเองก็ตกอยู่ในชะตามกรรมเดียวกัน
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ออกมาบอกว่ารัฐบาลชุดนี้หลังจากปรับ ครม.แล้วอาจจะอยู่ครบวาระและต่ออายุไปอีกสี่ปีถ้าไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งตนอยากจะเรียนว่า การปรับครม.ครั้งนี้ก็เป็นเหุผลหนึ่งที่ต้องการกลบเกลื่อนและหลีกหนีการทุจริตในกระทรวงต่างๆรมว.หลายคนถูกยื่นถอดถอนและบางคนก็มีกลิ่นทุจรติคอรัปชั่นโครงการต่างๆโชยออกมาให้สังคมได้เห็น นายกฯ จึงเร่งรีบตัดไฟแต่ต้นลม
ทางด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เว็บไซต์บริษัทกฎหมายชื่อ Clif burns ของสหรัฐ ได้นำเสนอบทความเตือนนักธุรกิจสหรัฐอเมริกาในการทำธุรกิจกับรัฐบาลไทยให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่รัฐบาลได้ตั้งนางนลินี ทวีสิน เป็น รมต.สำนักนายกฯ บนเว็บไซต์ www.exportlawblog.com/archives/3779 เมื่อวันที่ 19 ม.ค. โดยได้เท้าความถึงสาเหตุที่ทำให้กระทรวงการคลังสหรัฐฯ อายัดทรัพย์สิน และห้ามนักธุรกิจสหรัฐฯ ทำธุรกรรมกับนางนลินีว่าเกิดจากการที่นางนลินี เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจของภรรยาของประธานาธิบดีซิมบับเวย์ ดังนั้น ตามกฎหมายสหรัฐอเมริกาจะต้องพิจารณาว่าการทำธุรกิจกับบุคคลจะกระทบกับการทำธุรกิจกับรัฐบาลด้วยหรือไม่ เพราะโดยหลักการกฎหมายจะไม่ได้แยกแยะเรื่องการทำธุรกิจทั้งส่วนตัวกับบทบาทหน้าที่ทางการ โดยยกตัวอย่างกรณีปาเลสไตน์ ที่สหรัฐฯ ได้แซงก์ชันบุคคลเพียงคนเดียวก็ไม่สามารถทำธุรกิจกับรัฐบาลในภาพรวมด้วย ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ทราบว่านางนลินีจะได้รับผิดชอบงานด้านใด แต่นักธุรกิจสหรัฐฯ ที่จะทำธุรกิจกับรัฐบาลไทยต้องมีความแน่ใจว่านางนลินีไม่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับธุรกรรมทางการเงิน ไม่เช่นนั้นจะเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายของสหรัฐอเมริกา
นายชวนนท์กล่าวว่า เมื่อมีคำเตือนในลักษณะนี้สิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศต้องเร่งทำ คือ ต้องชี้แจงความจริงเรื่องข้อกฎหมายระหว่างประเทศให้สังคมเกิดความกระจ่างว่าหากยังยืนยันที่จะให้นางนลินีเป็นรัฐมนตรีต่อไปทั้งที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ จะมีผลอย่างไรต่อการทำธุรกิจระหว่างรัฐบาลไทยกับนักธุรกิจสหรัฐอเมริกา ซึ่งตนเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ต้องทบทวน เพราะขณะนี้ไม่เพียงแต่นายกฯ กำลังจะให้บุคคลที่ถูกขึ้นบัญชีดำไปเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยไม่เหมาะสมแล้ว การแต่งตั้งนางนลินียังส่งผลกระทบต่อประเทศชาติแล้วด้วย