xs
xsm
sm
md
lg

สว.มะกันเสียงแปร่ง! "นลินี"ขอวีซ่าได้ แต่ห้ามทำธุรกรรม NGOจี้สอบจริยธรรมครม.ใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน -โปรดเกล้าฯรมต.ใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์จันทร์นี้ “ปู” ปัดตอบเปลี่ยนตัว “นลินี”หรือไม่ สว.สหรัฐฯ ยันแบล็กลิสต์ แต่ยาหอมขอวีซ่าได้ “ปชป.” งัดเว็บไซต์แฉ บริษัท กม.สหรัฐ เตือนนักธุรกิจอเมริกัน ระวังการทำธุรกิจกับรัฐบาลไทย กลุ่มกรีนยื่นผู้ตรวจการฯสอบขัดจริยธรรมนักการเมือง พ่วง “ปู-ดร.กบ” ละเลย

หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งคณะรัฐมตรี(ครม.) เมื่อวันพุธที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา วานนี้ (20 ม.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯโปรดเกล้าให้รัฐมนตรีใหม่ เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก่อนเข้ารับหน้าที่ใหม่ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 14 โรงพยาบาลศิริราช ในวันจันทร์ที่ 23 ม.ค.นี้ เวลา 17.30 น.

**“ปู”ปัดตอบเปลี่ยนตัว“นลินี”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ครม. แต่กลับมีปัญหาเกิดขึ้นเมื่อ นางนลินี ทวีสิน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ถูกทางสหรัฐอเมริกา ยืนยันว่า เป็น 1 ใน 3 นักธุรกิจที่ติดแบล็คลิสต์ของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากให้การสนับสนุนธุรกิจที่ให้การช่วยเหลือการทุจริตของรัฐบาลของนายโรเบิร์ต มูกาเบ อดีตประธานาธิบดีของประเทศซิมบับเว รวมทั้งถูกอายัดทรัพย์สินในฐานะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบ่อนทำลายสถาบันประชาธิปไตยของประเทศซิมบับเว

ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า นายกรัฐมนตรีอาจจะต้องมีการปรับ “ครม. ปู 3” เร็วเกินคาดนั้น โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าจะมีการเปลี่ยนตัวนางนลินีหรือไม่

**สว.มะกันคอนเฟิร์มแต่เข้าUSAได้

ขณะที่ นายจอห์น แมคเคน สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา ประจำมลรัฐแอริโซนา กล่าวภายหลังเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ไม่กระทบต่อการทำงาน และไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศด้วย เพราะเรื่องเหล่านี้บางทีก็เกิดขึ้นบ่อยๆ อย่างไรก็ตามในส่วนของนางนลินี ทวีสิน โดยกฎหมายสหรัฐฯแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับการออกวีซ่า หรือการเดินทางเข้าประเทศ แต่เป็นเรื่องของการห้ามทำธุรกรรมในประเทศสหรัฐฯ

**กต.ยัน"นลินี"ไม่อยู่ในบัญชีห้ามเข้า

นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ไม่ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับนางนลินี แต่เป็นการตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับกรณีนางนลินีว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นข้อมูลสาธารณะที่สามารถตรวจสอบได้ในเว็บไซด์ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และตามรายงานที่ได้รับการมีชื่ออยู่ในบัญชีของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เป็นคนละเรื่องกับบัญชีบุคคลต้องห้ามเข้าสหรัฐฯ และไม่มีชื่อนางนลินีอยู่ในบัญชีดังกล่าว

**ปูสร้างประวัติศาสตร์ตั้งรมต.แบล็กลิสต์

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถือเป็นการตบหน้ารัฐบาลไทยที่เขายืนยันนางนลินีถูกขึ้นแบล็คลิสต์จริง ด้วยข้อหาที่ชัดเจนคือถูกอายัดทรัพย์สินในฐานะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบ่อนทำลายสถาบันประชาธิปไตยของประเทศซิมบับเว ดังนั้นการที่นายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยเรียกร้องประชาธิปไตยแต่กลับไปสนับสนุนผู้ที่สนับสนุนเผด็จการที่ฆ่าประชาชนซึ่งคดีอยู่ในการพิจารณาของศาลอาญาระหว่างประเทศมาอยู่ในคณะรัฐมนตรีได้อย่างไร

“นางนลินี ไม่มีสายสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยมากไปกว่าคอนเนคชั่นธุรกิจทำเหมืองเพชร พลอย ในแอฟริกาที่สอดคล้องกับกรณีหลังการเดินทางออกนอกประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ได้ไปทำธุรกิจเหมืองเพชร พลอย ในแอฟริกาเช่นกัน เช่นนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องสำนึกว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทย ที่นำคนถูกแบล็คลิสต์เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือไม่ ดังนั้นจึงขอให้มีการทบทวน เพราะในอดีตก็เคยมีการยับยั้งรายชื่อบุคคลที่ถูกทางการสหรัฐขึ้นแบล็คลิสต์มาแล้ว"

**งัดเว็บไซต์แฉอย่าทำธุรกิจกับ รบ.ไทย

นายชวนนท์เปิดเผยว่า เว็บไซต์บริษัทกฎหมายชื่อ Clif burns ของสหรัฐ ได้นำเสนอบทความเตือนนักธุรกิจสหรัฐอเมริกาในการทำธุรกิจกับรัฐบาลไทยให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่รัฐบาลได้ตั้งนางนลินี ทวีสิน เป็นรมต.สำนักนายกบนเว็บไซต์www.exportlawblog.com/archives/3779 เมื่อวันที่ 19 ม.ค.

โดยได้เท้าความถึงสาเหตุที่ทำให้กระทรวงการคลังสหรัฐฯ อายัดทรัพย์สิน และห้ามนักธุรกิจสหรัฐฯทำธุรกรรมกับนางนลินี ว่าเกิดจากการที่นางนลินี เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจของภรรยาของประธานาธิบดีซิมบับเว ดังนั้นตามกฎหมายสหรัฐอเมริกา จะต้องพิจารณาว่าการทำธุรกิจกับบุคคลจะกระทบกับการทำธุรกิจกับรัฐบาลด้วยหรือไม่ เพราะโดยหลักการกฎหมายจะไม่ได้แยกแยะเรื่องการทำธุรกิจทั้งส่วนตัวกับบทบาทหน้าที่ทางการ โดยยกตัวอย่างกรณีปาเลสไตน์ ที่สหรัฐได้แซงก์ชั่นบุคคลเพียงคนเดียวก็ไม่สามารถทำธุรกิจกับรัฐบาลในภาพรวมด้วย ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ทราบว่านางนลินี จะได้รับผิดชอบงานด้านใด แต่นักธุรกิจสหรัฐ ที่จะทำธุรกิจกับรัฐบาลไทยต้องมีความแน่ใจว่านางนลินี ไม่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับธุรกรรมทางการเงิน ไม่เช่นนั้นจะเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายของสหรัฐอเมริกา

เมื่อมีคำเตือนในลักษณะนี้สิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศต้องเร่งทำคือต้องชี้แจงความจริงเรื่องข้อกฎหมายระหว่างประเทศให้สังคมเกิดความกระจ่างว่าหากยังยืนยันที่จะให้นางนลินี เป็นรัฐมนตรีต่อไปทั้งที่ถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำ จะมีผลอย่างไรต่อการทำธุรกิจระหว่างรัฐบาลไทยกับนักธุรกิจสหรัฐอเมริกา ซึ่งตนเห็นว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ต้องทบทวน เพราะขณะนี้ไม่เพียงแต่นายกฯ กำลังจะให้บุคคลที่ถูกขึ้นบัญชีดำไปเข้าเฝ้าถวายสัตย์ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยไม่เหมาะสมแล้ว การแต่งตั้งนางนลินี ยังส่งผลกระทบต่อประเทศชาติแล้วด้วย

**“เหลิม”ป้อง“นลินี”ไม่ผิด รธน.ไทย

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ทราบที่มาที่ไปเรื่องนี้ คงแสดงความเห็นไม่ได้ และการตรวจสอบประวัติก็เป็นหน้าที่ของเลขาฯครม. แต่อย่างไรก็ตามโดยหลักของกฎหมายแล้ว คนจะเป็นที่จะเป็นรัฐมนตรีก็ต้องดูกฎหมายของบ้านเราเป็นหลัก ถ้าไปมองกฎหมายประเทศอื่นมาเป็นตัวตั้ง ก็จะถือว่าละเลยกฎหมายบ้านเรา ถ้าคุณสมบัติไม่ผิด ครบก็เป็นได้

ส่วนภาพลักษณ์ของรัฐมนตรีแล้วถือว่าเหมาะสม รองนายกฯ กล่าวว่า ในอดีตก็มีหลายคนที่เป็นรัฐมนตรีแล้วไม่ได้เข้าประเทศสหรัฐ ก็เป็นสิทธิของเขา ตนอย่าไปตระหนกตกใจเรื่องพวกนี้เลย เอาเรื่องในบ้านเราดีกว่า เมื่อถามว่านางนลินี ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการบ่อนทำลายประชาธิปไตยในซิมบับเว ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ทราบให้ความเห็นไม่ได้ จะเป็นการข้ามฝั่งไป คงไม่เหมาะ

**“สุนัย”แขวะสหรัฐสองมาตรฐาน

นายสุนัย จุลพงศธร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ประเทศมหาอำนาจจะดำเนินการกับบุคคลใดก็ได้ที่เห็นว่าดำเนินการธุรกิจกับประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ในทางปฏิบัติขณะนี้พบว่า บริษัท ยูโนแคว ที่ถือสัญชาติอเมริกัน กลับเข้ามาทำธุรกิจพลังงานในประเทศพม่าได้ โดยไม่ถูกขึ้นแบล็กลิสต์ ทั้งที่ประเทศสหรัฐต่อต้านเรื่องเผด็จการมาโดยตลอด

**กลุ่มกรีนยื่นผู้ตรวจการฯสอบขัดจริยธรรม

อีกด้าน นายนัสเซอร์ ยีหมะ พร้อมด้วย นายจาตุรนต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ในฐานตัวแทนกลุ่มกรีน และคณะ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดินผ่านนางณัฎฐา มูนจินดา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรรวจสอบปัญหาทางจริยธรรมนางนลินี กับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายอำพน กิตติอำพล เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

โดยนายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 279 กำหนดให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจในการตรวจสอบจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและข้าราชการประจำ หากพบข้อเท็จจริงก็มีอำนาจในการดำเนินการถอดถอนบุคคลได้ ซึ่งทางกลุ่มกรีนเห็นว่าขณะนี้มีการแต่งตั้งบุคคลที่มีปัญหาในด้านจริยธรรมมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมควรที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง 1 กรณีการแต่งตั้งนางนลินี เป็นรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ยังคงมีชื่อค้างอยู่ในบัญชีดำของสหรัฐอเมริกา และทางการสหรัฐระบุว่าจะดำเนินการยึดทรัพย์สินรวมถึงห้ามพลเมืองอเมริกันร่วมทำธุรกิจด้วย โดยนางนลินีก็ยอมรับว่าตนเองมีชื่อในบัญชีดำดังกล่าวจริง

2 กรณีการแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ซึ่งเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช. ที่มีบทบาทสำคัญในการจัดชุมนุมเมื่อกลางปี 53 ที่ไม่เป็นไปตามครรลองรัฐธรรมนูญ ละเมิดสิทธิเสรีภาพ และสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่น รวมถึงปราศรัยปลุกระดมยั่วยุจนเป็นเหตุให้เกิดการจลาจลและความรุนแรงขึ้นทำให้มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิต และต่อมาถูกตั้งข้อหาร้ายแรงอุกฉรรจ์ โดยเฉพาะข้อหาก่อการร้าย ที่ศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวและจำคุกนานกว่า 9 เดือน ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลยุติธรรม

**พ่วง “ดร.กบ-นายกฯ” ปล่อยปละละเลย

3.กรณีนายอำพน ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรมต. แต่กลับปล่อยปละละเลยและนำรายชื่อบุคคลทั้ง 2 ขึ้นทูลเกล้า ซึ่งเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลละบาท และ 4.น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกฯ ที่อ้างว่าได้เลือกรมต.ด้วยตนเองและได้พิจารณาคุณสมบัติอย่างดีแล้ว ซึ่งในฐานะผู้นำรัฐบาลที่ต้องทำหน้าที่เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ น.ส.ยิ่งกลักษณ์ กลับละเลย ไม่ใส่ใจในการคัดเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ต้องคำนึงถึงประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำ ดังนั้นจึงถือบุคคลทั้ง 4 ได้ฝ่าฝืนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมืองพ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินต้องดำเนินการตรวจสอบเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานทางการเมืองต่อไป

**ผู้ตรวจการฯรับลูกสอบ "นลินี-เต้น"

ด้าน นายประวิช รัตนเพียร ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า กรณีของนางนลินี เลขา ครม.จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญว่ามีคุณสมบัติขัดมาตรา 174 และจะต้องดูว่าขัดกับมาตรา 279 เรื่องจริยธรรมหรือไม่ เมื่อมีผู้มาร้องผู้ตรวจฯก็สามารถไต่สวนได้เลย โดยจะดูว่าเข้าข่ายขัดประมวลจริยธรรมหรือไม่ ทั้งนี้ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีจะต้องไม่มีพฤติกรรมที่นำไปสู่ความเสื่อมเสียเกียรติภูมิของชาติ

นางผานิต นิติทัณฑ์ประภาส เห็นว่าจากที่ติดตามข่าวพบว่านายกฯบอกว่าจะให้นางนลินีชี้แจงเรื่องคุณสมบัติและการถูกขึ้นบัญชีดำของสหรัฐ ทางผู้ตรวจฯจึงจะขอดูท่าทีของนายกรัฐมนตรีก่อน หากนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บริหารและผู้เสนอแต่งตั้งไม่ดำเนินการใดๆ ทางผู้ตรวจก็จะดำเนินการ เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่าจะช้า เพราะเรื่องข้อเท็จจริงที่ชัดเจน

ส่วนนายศรีราชา พานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า กรณีนางนลินี เป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนสนใจ จะดำเนินการเป็นกรณีพิเศษ ที่จะเร่งดำเนินการให้เร็วกว่าปกติ.
กำลังโหลดความคิดเห็น