ซินหัว - กลุ่มนักลงทุนจากสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน เดินทางเยือนกัมพูชาในวันพฤหัสบดี 1 ก.ย.ศกนี้ เพื่อมองหาโอกาสในการลงทุนและส่งเสริมความสัมพันธ์การค้าและการลงทุนระหว่างสหรัฐฯ และประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียน
กลุ่มนักลงทุนที่ประกอบด้วยบริษัทจากสหรัฐฯ จำนวน 11 แห่ง ที่นำโดยนางฟรานเชส ซเวนิก ที่ปรึกษาสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน ได้พบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา ในบ่ายวันเดียวกัน กลุ่มบริษัทของสหรัฐฯ ทั้งหมดมีกิจการอยู่ในแขนงน้ำมันและก๊าซ อุตสหกรรมการผลิต ยานยนต์ อุตสาหกรรมการเงิน เทคโนโลยี โทรคมนาคมสื่อสารและสุขภาพ
"การเดินทางเยือนครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีสำหรับนักลงทุนสหรัฐฯ ที่จะศึกษาเกี่ยวกับศักยภาพของกัมพูชาและจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศสมาชิกอาเซียนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น" นางซเวนิก กล่าว
สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชารายงานว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 โครงการลงทุนของสหรัฐฯ ในกัมพูชามีมูลค่ารวม 142 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 34.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2553 ขณะที่รายงานของกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาระบุว่า การค้าระหว่างสองประเทศมีมูลค่าอยู่ประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 ส่วนใหญ่มาจากการส่งออกเสื้อผ้าและสิ่งทอของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ
ด้านนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา กล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปัจจุบันมาจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ การท่องเที่ยว การเกษตรและอสังหาริมทรัพย์ และรัฐบาลสนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามามีหุ้นส่วนในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ น้ำมันและก๊าซ เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
นายกฯ ฮุนเซน ยังได้เสนอให้นักลงทุนสหรัฐฯ พิจารณาการลงทุนในภาคเกษตรกรรม โดยการจัดตั้งโรงงานแปรรูปข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง และยาง
ในการเดินทางเยือนนาน 2 สัปดาห์ คณะผู้แทนนักลงทุนจากสหรัฐฯ ได้เข้าพบกับนายเกียต ชน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกัมพูชาด้วย ธนาคารเพื่อการส่งออก-นำเข้าสหรัฐ (US Exim Bank) และสภาหอการค้ากัมพูชายังได้ลงนามในข้อตกลงการค้ำประกันสินเชื่อทางการค้าเพื่อกระตุ้นการค้าระหว่างสองประเทศ
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ธนาคารเพื่อการส่งออก-นำเข้า จะให้การค้ำประกันเงินกู้เพื่อทำสัญญาประกันความเสี่ยงในการชำระเงินสินเชื่อระยะกลางและระยะยาวที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ ให้กับชาวกัมพูชาที่ซื้อสินค้าและบริการของสหรัฐ.