ASTVผู้จัดการรายวัน-ผู้ตรวจการแผ่นดินก็อยากรู้ "ปู"ไปทำอะไรที่ชั้น 7 โฟร์ซีซั่นส์ จี้ชี้แจงภายใน 30 วัน ปชป.จวกนายกฯ โกหกคำโตอ้างนักข่าวรู้เรื่องไปโรงแรม เชื่อมีผลประโยชน์ทับซ้อนเรื่องที่ดิน เตรียมรวบรวมข้อมูลยื่นถอดถอน พร้อมยื่นตรวจสอบจริยธรรมประธานสภาทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง คอยแต่ปกป้องนายกฯ "ประชา"หน้าจ๋อย โฟร์ซีซั่นส์ ไม่ให้พานักข่าวขึ้นชั้น 7
นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ในที่ประชุมมีการพิจารณาคำร้องของกลุ่มการเมืองสีเขียว หรือกลุ่มกรีน ที่ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินดำเนินการตรวจสอบจริยธรรมของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีที่ไม่เข้าร่วมประชุมสภาฯ แต่กลับไปปฏิบัติภารกิจลับ ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา
"ที่ประชุมเห็นว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรม อยู่ในอำนาจหน้าที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงมีมติให้รับเรื่องไว้พิจารณา และมีหนังสือถึงนายกฯ ขอให้ชี้แจงกลับมาภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ"
นางผาณิตกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับประมวลจริยธรรม 2 ฉบับ คือ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยมาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรมของข้าราชการการเมือง และประมวลจริยธรรมผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง หากนายกฯ ชี้แจงมาแล้ว และทางผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่ามีปัญหาเรื่องจริยธรรม ก็จะส่งเรื่องไปยังประธานสภาฯ เพื่อดำเนินการต่อไป
เมื่อถามว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ระบุว่า ได้อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย จะให้ชี้แจงต่อผู้ตรวจการแผ่นดินด้วยหรือไม่ นางผาณิต กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องชี้แจง เพราะกรณีดังกล่าวเป็นการร้องนายกฯ เพียงผู้เดียว
นางผาณิตล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับหนังสือชี้แจงจากนายกฯ และนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีการแต่งตั้งนางนลินี ทวีสิน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์แล้ว โดยอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ โดยได้รายงานให้ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินทราบว่า ขณะนี้กำลังรอคำชี้แจงของสถานทูตสหรัฐฯ ที่ยังไม่ได้ส่งคำชี้แจงมา คาดว่า หากได้รับข้อมูลทั้งหมดแล้วก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุมของผู้ตรวจการแผ่นดินได้ภายใน 2 สัปดาห์
รายงานข่าวแจ้งว่า นายกฯ ได้มีการชี้แจงในกรณีนี้ว่า การแต่งตั้งบุคคลทั้ง 2 ไม่สามารถนำประมวลจริยธรรมมาบังคับได้ เนื่องจากเกิดขึ้นก่อนการดำรงตำแหน่ง โดยการแต่งตั้ง เป็นการตั้งตามความรู้ความสามารถ
** ปชป.จวก"ปู"โกหกประชาชน
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชี้แจงให้ชัดเจนว่า การไปปฏิบัติภารกิจ ว.5 ชั้น 7 ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์นั้น ไปพบกับใครบ้าง และหารือเรื่องอะไร เพราะการพูดเพียงแค่ว่าไม่มีผลประโยขน์ทับซ้อน แต่หลีกเลี่ยงที่จะพูดในรายละเอียดนั้น ย่อมทำให้ตั้งข้อสงสัยได้ว่า มีพิรุธ และมีวาระซ่อนเร้น เนื่องจากมีความพยายามปกปิดข้อมูลต่อสาธารณะ
"นายกฯ โกหกประชาชนอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคำพูดของคนเป็นผู้นำประเทศ โดยอ้างว่า การเดินทางไปที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เป็นเรื่องเปิดเผย ที่สื่อมวลนรับทราบดี ทั้งที่ความจริงเรื่องนี้มีการกำหนดเป็นภารกิจลับ ไม่ให้สื่อมวลชนติดตามทำข่าว โดยสังคมไทย จะไม่มีโอกาสรับทราบเรื่องดังกล่าวเลย หากไม่เกิดเหตุการณ์ที่ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ถูกทำร้าย และมีการออกมาเปิดเผยว่าพบนายกรัฐมนตรี และนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในสถานที่ดังกล่าว ซึ่งมีการเปิดเผยภายหลังว่า เป็นผู้บริหารของบริษัทแสนสิริ แลนด์แอนด์เฮาส์ และเอสซี แอทเสท จึงอยากให้นายกฯ พูดความจริงกับประชาชน เลิกใช้ความเป็นผู้หญิงมาปกปิดการกระทำความผิด หรือหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ เพราะทำให้เสื่อมเสียเกียรติภูมิของผู้หญิง และผู้นำประเทศ"นายชวนนท์กล่าว
**มีผลประโยชน์ทับซ้อนธุรกิจที่ดิน
นายชวนนท์ยังตั้งคำถามถึงนายกรัฐมนตรีว่า เหตุใดจึงจำเพาะเจาะจง ที่จะหารือกับกลุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นายกฯ มีความสนิทสนมเท่านั้น ทั้งๆ ที่หากไม่มีปัญหาเรื่องผลประโยน์ทับซ้อนหรือการให้ข้อมูลวงใน เพื่อให้พรรคพวกตัวเองแสวงหาประโยชน์ จากการกำหนดนโยบายด้านที่ดินของรัฐบาลแล้ว เหตุใดจึงไม่ประชุมในสถานที่เปิดเผย และเชิญนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด มาร่วมหารือตามวิสัยผู้นำที่ดีพึงกระทำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการเลือกปฏิบัติ และการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ จึงมีสิทธิ์ตั้งข้อสงสัยว่า ภารกิจลับที่โฟร์ซีซั่นส์ อาจมีปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน เกี่ยวกับการประเมินราคาที่ดินใหม่ ที่มีการเลื่อนการประกาศออกไป 6 เดือน จากเดิมที่จะต้องประกาศในวัที่ 1 ม.ค. รวมถึงการเลื่อนการบังคับใช้ผังเมืองใหม่ใน 12 จังหวัดด้วย โดยทางพรรคจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดว่าเหตุใดอธิบดีกรมธนารักษ์ จึงยอมเลื่อนประกาศการประเมินราคาที่ดินใหม่ออกไป ทั้งๆ ที่มีการออกประกาศราคาที่ดินใหม่แล้วในวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา อีกทั้งอำนาจในการประเมินราคาที่ดินตามกฎหมายเป็นของกรมธนารักษ์ แต่การเลื่อนการประกาศครั้งนี้ กลับใช้กฎหมายที่ดินมาเป็นข้ออ้าง ซึ่งได้ให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคไปพิจารณาว่า จะมีปัญหาเรื่องการขัดกันของกฎหมายหรือไม่ พร้อมกับเตือนข้าราชการว่า อย่าสนองนโยบายการเมืองจนทำให้ชาติเสียประโยชน์ เพราะสุดท้ายแล้วผู้ที่ต้องรับผิดชอบ คือ ข้าราชการ ไม่ใช่นักการเมือง
"พฤติกรรมของนายกฯ เข้าข่ายขัดจริยธรรม และส่อว่าจะเกิดปัญหาทุจริตเชิงนโยบาย โดยมีผลประโยชน์ทับซ้อนเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยพรรคจะรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อนำไปสู่การยื่นถอดถอนต่อไป พร้อมกับเตือนให้หยุดใช้ความเป็นผู้หญิง มาเป็นข้ออ้าง หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ เพราะเท่ากับว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ กำลังทำลายภาพลักษณ์ของผู้หญิงทั้งประเทศ"นายชวนนท์กล่าว
** อ้างไม่มีกม.ห้ามส.ส.ออกนอกสภา
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ยังคงเดินหน้ากล่าวหา โจมตี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เรื่องไปปฏิบัติภารกิจลับที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ว่า เรื่องนี้คงยังไม่จบ และพรรคประชาธิปัตย์ มีสิทธิ์ที่จะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการฯ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีไปชี้แจง
"อย่างผมเคยเป็นตำรวจมาก่อน และวันนี้มาเป็นรองนายกฯ ก็มีเพื่อน มีลูกน้องเป็นตำรวจ เวลาประชุมสภา มีเวลาว่าง ก็จะแว่บไปกินข้าวเที่ยง ข้าวเย็น มันมีกฎหมายฉบับไหน บัญญัติว่าเวลามีประชุมสภา แล้ว ห้ามออกนอกสภา หรือออกนอกสภา ไม่ได้ ต้องเอาโซ่ล่ามไว้หรืออย่างไร เลอะเทอะ"ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์โจมตีว่า อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่รับน้ำ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า โครงการต่างๆ ไม่ใช่ว่าจะให้ใครทำได้ง่ายๆ ต้องมีการประสานงาน เปิดประมูลให้ชัดเจน ต้องประกาศให้ทั่วโลกรู้ และการที่นายกฯ ไปพูดคุยเรื่องส่วนตัว คนมีเงินเป็นพันเป็นหมื่นล้าน ก็ต้องไปคุยกับคนที่ทำธุรกิจว่า ขณะนี้สถานการณ์เศรษฐกิจเป็นอย่างไร นักธุรกิจมองการเมืองอย่างไร อย่างตนได้รับมอบหมายให้ปราบปรามยาเสพติด ก็ต้องพูดคุยกับตำรวจ และคิดทำงานต่อ เรื่องอย่างนี้พรรคประชาธิปัตย์ คิดเป็นหรือไม่ แต่เขาไม่มีอาชีพ เพราะเป็นนักการเมืองจริงๆ ทำเรื่องแบบนี้ไร้สาระ และจะแพ้เลือกตั้งมากขึ้น
** ขู่"เอกยุทธ"ไม่หยุดขย่ม ว.5โดนอีก
เมื่อถามว่า สรุปแล้วตัวละครในเรื่องนี้มีมากน้อยแค่ไหน เพราะมีการเปิดตัววันละคนสองคน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไปพูดแทนไม่ได้ เพราะไม่ได้ไปนั่งอยู่ด้วย แต่ยืนยันว่า ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะถ้าจะทำอะไรที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำไมต้องไปทำที่โรงแรม ซึ่งเป็นที่สาธารณะ นายกฯ เดินไปมีคนรู้จัก 500 คน ตนเดินไปมีคนรู้จัก 499 คน ถ้านายเอกยุทธ อัญชันบุตร เดินไป มีคนรู้จัก และเกลียด ประมาณ 50 คน เรื่องนี้คงจะเป็นอย่างไรไปเรื่อยๆ พรรคประชาธิปัตย์กับเพื่อไทย มันไปกันไม่ได้ นายเอกยุทธ ก็เป็นพวกประชาธิปัตย์ และขอเตือนว่า ถ้ายังมีพฤติกรรมอย่างนี้ เดี๋ยวจะโดนอีก รัฐบาลคงไม่ไปทำอะไรตอบโต้กับพรรคประชาธิปัตย์ปล่อยให้เขาหลงทางกลับบ้านไม่ถูกสุดท้ายคงจะต้องให้เข็มทิศกลับไปอยู่ปักษ์ใต้อย่างเดียว ภาคอื่นไปไม่ได้
**"ประชา"หน้าแตกโฟร์ซีซั่นส์ ไม่ให้ขึ้นชั้น 7
เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (21 ก.พ.) นายประชา ประสพดี ส.ส. พรรคเพื่อไทย จ.สมุทรปราการ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย ยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน นำสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบและสังเกตการณ์ พื้นที่ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ หลังพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีประชุมสภา มาเจรจาลับกับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยยืนยันว่า นายกฯ ไม่ได้ใช้ให้มาดำเนินการเรื่องนี้ แต่มาเพราะอยากรู้ว่า ภายในห้องที่เจรจา มีเพียงโซฟา และเตียง ตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่า น่าจะเป็นห้อง business ที่นายกฯ สามารถที่จะใช้เวลาราชการ หารือกับนักธุรกิจได้ และจะเป็นประโยชน์กับรัฐบาลในด้านนโยบายมากกว่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน
อย่างไรก็ตาม ทางโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ไม่อนุญาตให้นายประชา พาสื่อมวลชน ขึ้นไป ตรวจสอบ ถ่ายภาพห้องพัก ของโรงแรมที่ชั้น 7 รวมถึงไม่อนุญาตให้เข้าไปถ่ายภาพภายในบริเวณโรงแรมทุกด้าน โดยให้นายประชา เข้าไปดูห้องพักได้เพียงคนเดียว ขณะที่บรรยากาศบริเวณหน้าโรงแรม เป็นไปด้วยความคึกคัก มีสื่อทุกแขนงให้ความสนใจ รวมทั้งแขกที่มาใช้บริการของโรงแรม ซึ่งผู้บริหารโรงแรมให้เหตุผลว่านายประชา ไม่ได้ประสานมาล่วงหน้า จึงไม่สามารถให้นำสื่อมวลชน เข้าไปบันทึกภาพได้
** จวก"ปู"เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง คำให้สัมภาษณ์ของ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง ที่อ้างว่า เหตุที่ต้องปกปิดการพบปะระหว่างนายกฯ กับนักธุรกิจครั้งนี้ ก็เพราะนักธุรกิจไม่อยากเปิดเผยตัว จึงไม่อยากไปพบที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งแสดงว่า เป็นการพบกันในฐานะส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับราชการ ดังนั้น นายกฯ จะต้องตอบคำถามว่า การที่นายกฯ หนีการประชุมสภา เอาเวลาราชการไปพบนักธุรกิจส่วนตัว มีความเหมาะสมหรือไม่ ขัดต่อจริยธรรมของผู้นำประเทศอย่างไร เพราะนายกฯ เห็นความสำคัญภารกิจของตัวเอง และพวกพ้องนักธุรกิจสำคัญมากกว่าภารกิจของประชาชนคนทั้งประเทศ อย่างนั้นหรือ อยากให้ฝ่ายรัฐบาลออกมาพูดโดยใช้เหตุผล มิฉะนั้นการแก้ไขปัญหานี้ ก็จะเป็นลิงติดแห ที่ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง
** "รังสิมา"ขอถามกระทู้สดอีก
น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยังนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ให้เปิดโอกาสให้ตนได้ตั้งกระทู้ถามน.ส.ยิ่งลักษณ์ เรื่องภาระกิจที่โฟร์ซีซั่นส์อีกครั้ง เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้เริ่มถามไปแล้ว แต่ถูกส.ส. พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วง จนประธานในที่ประชุมได้สั่งปิดประชุมไปก่อน
** ยันกระทู้โฟร์ซีซั่นส์ ยังไม่ตก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวยืนยันว่า กระทู้ถามสดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังไม่ตกไป ซึ่งกรณีที่กระทู้ถามจะตกไปก็ต่อเมื่อ เข้าข้อบังคับข้อ 151 ซึ่งมีอยู่ 4 กรณีเท่านั้น คือ 1.ผู้ที่ถามกระทู้ ไม่อยู่ในที่ประชุม หรือว่าไม่ถาม 2.ส.ส.ที่ตั้งกระทู้ถาม สิ้นสมาชิกภาพ 3.คณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ 4.อายุรัฐสภาสิ้นสุดลง หรือมีการยุบสภา แต่กระทู้ถามของน.ส.รังสิมา ไม่เข้าข่ายทั้ง 4 กรณี และต่อมาก็เกิดประเด็นปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ของประธานสภาฯ จนกระทั่งมีการปิดการประชุมไปก่อน เพราะฉะนั้นถือว่า กระทู้ถามสดของน.ส.รังสิมา ยังค้างอยู่ในสภา ซึ่งในการประชุมวันที่ 1 มี.ค. จะมีการนำกระทู้ถามสดของน.ส.รังสิมา พิจารณา เป็นวาระแรก
**กลุ่มสตรีจี้"ปู"ชี้แจงใน 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ กลุ่มสตรีแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดินประมาณ 20 คน เดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชี้แจง พร้อมหลักฐานกรณีไปปฏิบัติภารกิจลับ ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น ชั้น 7 พร้อมยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อให้นายกฯ ปฏิบัติ คือ 1.หยุดใช้เพศหญิง เป็นข้ออ้าง เป็นเกราะป้องกันตนเองว่าถูกรังแก 2.หยุดทำลายเกียรติยศของสตรีไทย โดยใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มารังแกเพศเดียวกัน และปฏิบัติตามหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และ 3.ขอให้ชี้แจงพร้อมหลักฐานพยาน ประกอบให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริง กรณีเหตุเกิดที่ชั้น7 โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ให้ชัดเจนภายใน 7 วัน หากครบกำหนด ยังไม่ได้รับคำชี้แจงจากนายกฯ กลุ่มสตรีแนวร่วมฯ จะดำเนินการเคลื่อนไหวต่อไป
**โวยกมธ.เอาเรื่อง"ปู"เข้าพิจารณา
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือถึง กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ ให้ตรวจสอบกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปหารือกับนักธุรกิจที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น ว่า เรื่องนี้ นายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธาน กมธ. จะบรรจุวาระเข้าที่ประชุม กมธ.ในวันนี้ (22 ก.พ.) ดูแล้วไม่มีเหตุผลที่จะนำเข้าพิจารณา เพราะเป็นเรื่องการเมือง ที่ฝ่ายค้านเบี่ยงเบนประเด็น หลังจากเปิดประเด็นเรื่องชู้สาว มาเป็นประเด็นนายกฯ ไปพบนักธุรกิจ จึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะหากนายกฯ ไปพูดคุยกับนักธุรกิจ หรือพบใคร ก็ต้องมาชี้แจงกมธ.ทุกครั้ง อย่าใช้ช่องทางกมธ. เป็นเครื่องมือทางการเมือง กมธ.ต้องทำหน้าที่เชิงสร้างสรรค์ ให้คำแนะนำกับรัฐบาล ซึ่งถ้ามีการบรรจุวาระนี้ เข้ามาในที่ประชุม กมธ.ส่วนใหญ่ ก็จะโหวตไม่รับ เข้าบรรจุเป็นวาระ