ASTVผู้จัดการรายวัน- "ปู ว.16-1 (ฟังไม่รู้เรื่อง จับใจความไม่ได้) ยอมเปิดปากเรื่องโฟร์ซีซั่นส์ แต่กลับพูดไม่รู้เรื่อง บอกเป็นเรื่องที่รู้กันทั่วไป ยังมีอย่างอื่นให้ทำ ด้าน ปชป. ชี้ "ว.5" กับกลุ่มนักธุรกิจอสังหาฯ ใบเสร็จมัดทุจริตเชิงนโยบาย พร้อมแฉ กรมธนารักษ์-มท.มีพิรุธ หลังเลื่อนประเมินราคาที่ดินเป็นปี 56 รอรัฐบาลวางฟลัดเวย์-แก้มลิง ด้าน กมธ.พัฒนา ศก. เด้งรับสอบปู ว.5 เตรียมเชิญมาชี้แจงสัปดาห์หน้า
เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเยือนสหพันธรัฐมาเลเซีย อย่างเป็นทางการ ถึง กรณี ไปปฏิบัติภารกิจลับ ( ว.5 ) ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ที่มีการระบุในภายหลังว่า เป็นการหารือกับกลุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 6-7 คน รวมไปถึงนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหารแสนสิริกรุ๊ป ว่า
" ต้องเรียนว่า เรื่องไม่มีอะไร และดิฉันเองก็ไม่เคยบอกว่าเราจะพูดไม่ตรงกัน สำหรับกรณีนี้จริงๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สื่อก็ทราบกันโดยทั่วไปว่า เราก็ไปโดยไปเปิดเผย และยืนยันว่าไม่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ก็อยากขอความร่วมมือ อยากวอนให้ดูว่า จริงๆ แล้วมันก็มีหลายคนที่อยากจะให้ข้อคิดเห็นโดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน และวันนี้เรายังมีภารกิจอย่างอื่นที่จะทำอีกมาก ดิฉันเองก็ไป ทุกคนก็ทราบกันดี ก็ยืนยันเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนไม่มี เรื่องส่วนตัว ก็ไม่มี "
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามจะสอบถามเพิ่มเติม แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้หันหน้าหนีโดยไม่ตอบคำถามใดๆ อีก ก่อนที่จะเดินเข้าไปในตัวอาคารผู้โดยสารขาออกทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ หากเปรียบเป็นภาษาวิทยุสื่อสารแล้วจะตรงกับความหมายประมาณ "ว.16-1" ซึ่งหมายถึง "ฟังไม่รู้เรื่อง จับใจความไม่ได้ หรือไม่มีเสียงพูด"
** ชัดผลประโยชน์ทับซ้อนเรื่องที่ดิน
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทราบดีตั้งแต่แรกว่า ตัวเองไปทำอะไรที่ รร.โฟร์ซีซั่นส์ แต่ได้พยายามใช้ความเป็นลูกผู้หญิงมาบิดเบือนข้อเท็จจริง และกลบเกลื่อน เพื่อหวังว่าจะใช้ ความเป็นเพศแม่ ปกปิดการทำความผิด การละเมิดจริยธรรม คุณธรรมที่ถูกต้องของคนที่เป็นนายกฯ รวมทั้งอาจจะมีการไปตกลงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน
ทั้งนี้ เพราะตั้งแต่วันแรก ที่รู้เรื่องนี้ขึ้นมา จะเห็นว่ามีหลายคนหลายฝ่ายต่างพยายามที่โดดออกมางับ เรื่องที่จะเข้าไปตรวจสอบ มีความพยายามที่จะชี้นำสังคมให้หลงไปในทิศทางนั้น และพยายามจะทำเหมือนกับว่าฝ่ายค้านนั้นพยายามที่จะเหยียบย่ำเกียรติยศศักดิ์ศรี ลูกผู้หญิง แต่การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำเช่นนี้ เป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงมากกว่า
นายชวนนท์ กล่าวว่า ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหารเครือแสนสิริ ออกมาระบุ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ว่า มีผู้เข้าพบนายกฯหลายคน เป็นกลุ่ม 6-7 คน เป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ นโยบายการเงิน ดอกเบี้ย
แต่สำคัญที่สุดที่ต่อเนื่องมาจากรายงานจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ระบุว่า การพบกันนั้น เป็นการนัดหมายกับกลุ่มนักธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีนายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานแลนด์แอนด์เฮาส์ ร่วมคณะ รวมถึงผู้บริหาร เอสซี แอสเสท ของตระกูลชินวัตร และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง และหนึ่งในหัวข้อที่หารือคือ เรื่องการประเมินราคาที่ดินใหม่ในปี 2555 และรวมถึงการประกาศแผนผังเมืองใหม่ ซึ่งตรงนี้ คือใบเสร็จชั้นดีว่า สิ่งที่เขาไปทำกันที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ คือเรื่องอะไร
นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นเรื่องประหลาด เพราะเมื่อปลายปีที่แล้ววันที่ 21 ธ.ค. 54 อธิบดีกรมธนารักษ์ ยืนยันว่า ต้องประกาศใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่ในปี 55 เพราะราคาที่ดินในประเทศสูงขึ้น 20 % แม้นักธุรกิจจะขอให้เลื่อนการประกาศใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่ออกไป โดยขณะนั้นพยายามจะพูดว่า มีพื้นที่จำนวนมากที่ถูกน้ำท่วม ขอให้ชะลอการประเมินราคาที่ดินใหม่
แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.54 มีข่าวว่า กรมธนารักษ์ และกระทรวงมหาดไทย ตัดสินใจให้ใช้ราคาประเมินเดิมออกไปอีก และตัวเลขที่กรมได้ชี้แจงคือรัฐบาลจะเสียโอกาสในการเก็บค่าธรรมเนียมตามการประเมินใหม่กว่า 6 พันล้านบาท อะไรเป็นเหตุผลให้กรมธนารักษ์ ตัดสินใจเลื่อนการประเมินราคาที่ดินรอบใหม่ออกไป มากไปกว่านั้นคือ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ทางรมว.มหาดไทย ให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ผังเมืองรวม 12 แห่งออกไปอีก 1 ปี ในจำนวนนั้นมี กทม. รวมอยู่ด้วย
นายชวนนท์ กล่าวว่า จากการประกาศ ที่ต้องประกาศในวันที่ 15 พ.ค. 55 นั้นเลื่อนไปประกาศเป็นวันที่ 15 พ.ค.56 มองว่าทุกอย่างเป็นจิ๊กซอว์ที่เกือบสมบูรณ์แล้ว และเหตุการณ์ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เกิดอะไรขึ้น มีการไปต่อรองนักธุรกิจรายใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ ให้มีการชะลอการประกาศราคาที่ดินฉบับใหม่ ใช่หรือไม่ และนายกฯมีการไปเปิดเผยความลับในเรื่องฟลัดเวย์ แก้มลิง หรือไม่ เพราะการดำเนินการตามแผนของ กยน. จะกระทบกับการประเมินราคาที่ดินแห่งใหม่ 100 % และผู้ที่สามารถรับจะทราบข้อมูลเบื้องต้น จะสามารถไปซื้อที่ดินดักหน้าก่อน ที่จะมีการปรับราคาใหม่ มีการชะลอการขึ้นราคาขายที่ดิน และมีการคำนวณพื้นที่แต่ละจุดจะรับน้ำ และจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยแค่ไหน ถนนบางสาย อาจมีการปรับราคาสูงขึ้นกว่า 20 % ดังนั้น ผู้ที่ทราบข้อมูลภายในอาจมีการไปดักซื้อไว้ เพื่อเก็งกำไรได้อีก
** อ้างปชป.ไม่เคยคุ้ยเรื่องใต้สะดือ
นายชวนนท์ กล่าวว่า ตรงนี้เป็นการยืนยันว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ ตรวจสอบมาโดยตลอด ไม่ใช่เรื่องชู้สาว และไม่ใช่เรื่องใต้สะตือ ตามที่สารพัดโฆษกของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยคิดต่ำๆ แต่เป็นฝั่งพรรคเพื่อไทย ที่พยายามใช้เรื่องนี้มาเป็นเกราะกำบัง ฝั่งนั้นที่ร้อนรนไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร จึงยกเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งถ้าย้อนไปดูคำพูดของน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะพบว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตื่นเต้นพอสมควรที่ถูกจับได้ ถึงกับพยายามไปเบี่ยงเบนเอาเพศมาเป็นข้ออ้างว่าดิฉันเป็นผู้หญิง ไม่ทำอะไรเสียหาย
ทั้งนี้ ทางพรรคจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาจับตาดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะนี่คือการจับการทุจริตคอร์รัปชันครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง ของประเทศไทย
** กมธ.พัฒนาศก. เด้งรับสอบปู ว.5
นายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ เวลา 13.00 น.ตนได้นัด กมธ.มาประชุม เพื่อบรรจุวาระการประชุมกรณีที่ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษก พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือคำร้องให้ กมธ.ตรวจสอบกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปว 5. ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ และได้มีการพบกับ นายเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหารเครือแสนสิริ ว่าอาจจะมีการไปพูดคุยที่อาจจะทำให้เกิดเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนซึ่งกันและกัน ซึ่งตนยืนยันว่า จะนำเรื่องนี้บรรจุเป็นวาระที่ กมธ.จะรับไปตรวจสอบหาความจริงต่อไป เพราะเป็นอำนาจของประธาน กมธ.
"เมื่อบรรจุเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมในกมธ.แล้ว สัปดาห์หน้า คาดว่าจะเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาชี้แจงกับ กมธ.เป็นคนแรก โดยไม่อยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อ้างว่าติดภารกิจ แล้วไม่สามารถมาชี้แจงกับกมธ. เพราะการมาชี้แจงกับกมธ. จะถือเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจของตนเอง ที่จะมาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง” นายชนินทร์ กล่าว
ส่วนที่เริ่มมีข่าวแพร่ออกมาว่า มีนักธุรกิจอีก 6-7 คนไปพบปะกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วยนั้น ทางกมธ. คงต้องรอฟังข้อมูลจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก่อน จากนั้นสัปดาห์ต่อๆไปก็จะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเช่นกัน
** ท้าพิสูจน์ชั้น 7 โฟร์ซีซันส์ ช้าไปแล้ว
นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีพรรคเพื่อไทย จะไปตรวจสอบชั้น 7 ของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เพื่อพิสูจน์ว่าบริเวณชั้น 7 ไม่มีห้องพัก พร้อมเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ขอขมาที่เปิดประเด็นนี้ว่า หากจะไปพิสูจน์กันตอนนี้ ก็คาดว่า คงช้าไปแล้ว เพราะเรื่องนี้ผ่านมากว่า 10 วันแล้ว และคงเสียเสียเวลาไปเปล่าๆ ทำไมเพิ่งคิดได้
อย่างไรก็ตาม ตนก็ยืนยันเช่นกันว่า จากการตรวจสอบเว็บไซต์ของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ก่อนหน้านี้ ก็พบว่ามีทั้งห้องพักส่วนตัว ห้องประชุม และเอ็กคลูซีฟคลับด้วย ทั้งนี้หากพิสูจน์ได้ว่า ข้อเท็จจริงไม่เป็นอย่างที่พรรคเพื่อไทยพูดจะมาขอโทษตนหรือไม่
** ท้า"ปู"ฟ้อง จะได้เปิดภาพวงจรปิด
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าจะฟ้องตน และรายการสายล่อฟ้านั้น ตนยินดี และอยากให้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอลายเซ็นต์ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โปรดได้ฟ้องตน และรายการสายล่อฟ้าด้วยตัวเอง จะได้ถือเป็นโอกาสดีที่จะใช้สิทธิ์พิสูจน์ภาพวงจรปิด ซีซีทีวี จะได้ทราบว่าข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าภาพวงจรปิด และบันทึกต่างๆ ของโรงแรมจะถูกลบทิ้งไปแล้วหรือไม่ นายศิริโชค กล่าวว่าโดยปกติของโรมแรมบันทึกการเข้าพักห้องของลูกค้า หรือภาพจากกล้องวงจรนั้น เวลามีใครไปขอดูก็ต้องเซ็นต์เอกสารเป็นหลักฐาน ถ้ามีการฟ้องร้องในศาล ก็ต้องนำภาพวงจรปิดตรงนั้นมาดู ซึ่งเชื่อว่าทางโรงแรมน่าจะเก็บบันทึกภาพนั้นไว้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่า รัฐบาลชุดนี้จะใช้อำนาจที่มีไปลบภาพดังกล่าวหรือไม่
** ถ้านายกฯชี้แจงข้อเท็จจริง ปัญหาจบ
นางยุวดี นิ่มสมบุญ ส.ว. สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อย วุฒิสภา กล่าวว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ควรจะออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมคลายความสงสัย เพราะนายกฯ เป็นบุคคลสาธารณะ จะทำอะไร ก็ต้องทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ โดยเฉพาะการเดินทางไปพบบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องน้ำ เขาอาจจะมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถจัดการเรื่องน้ำได้ และที่สำคัญนายกฯ ก็ไม่ได้เดินทางไปคนเดียว อย่างที่นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ออกมาเปิดเผยข้อมูล จึงเป็นเรื่องที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องออกมาชี้แจงความจริง สังคมก็สามารถแยกแยะออกได้.
เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเยือนสหพันธรัฐมาเลเซีย อย่างเป็นทางการ ถึง กรณี ไปปฏิบัติภารกิจลับ ( ว.5 ) ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ที่มีการระบุในภายหลังว่า เป็นการหารือกับกลุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 6-7 คน รวมไปถึงนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหารแสนสิริกรุ๊ป ว่า
" ต้องเรียนว่า เรื่องไม่มีอะไร และดิฉันเองก็ไม่เคยบอกว่าเราจะพูดไม่ตรงกัน สำหรับกรณีนี้จริงๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สื่อก็ทราบกันโดยทั่วไปว่า เราก็ไปโดยไปเปิดเผย และยืนยันว่าไม่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ก็อยากขอความร่วมมือ อยากวอนให้ดูว่า จริงๆ แล้วมันก็มีหลายคนที่อยากจะให้ข้อคิดเห็นโดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน และวันนี้เรายังมีภารกิจอย่างอื่นที่จะทำอีกมาก ดิฉันเองก็ไป ทุกคนก็ทราบกันดี ก็ยืนยันเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนไม่มี เรื่องส่วนตัว ก็ไม่มี "
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามจะสอบถามเพิ่มเติม แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้หันหน้าหนีโดยไม่ตอบคำถามใดๆ อีก ก่อนที่จะเดินเข้าไปในตัวอาคารผู้โดยสารขาออกทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ หากเปรียบเป็นภาษาวิทยุสื่อสารแล้วจะตรงกับความหมายประมาณ "ว.16-1" ซึ่งหมายถึง "ฟังไม่รู้เรื่อง จับใจความไม่ได้ หรือไม่มีเสียงพูด"
** ชัดผลประโยชน์ทับซ้อนเรื่องที่ดิน
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทราบดีตั้งแต่แรกว่า ตัวเองไปทำอะไรที่ รร.โฟร์ซีซั่นส์ แต่ได้พยายามใช้ความเป็นลูกผู้หญิงมาบิดเบือนข้อเท็จจริง และกลบเกลื่อน เพื่อหวังว่าจะใช้ ความเป็นเพศแม่ ปกปิดการทำความผิด การละเมิดจริยธรรม คุณธรรมที่ถูกต้องของคนที่เป็นนายกฯ รวมทั้งอาจจะมีการไปตกลงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน
ทั้งนี้ เพราะตั้งแต่วันแรก ที่รู้เรื่องนี้ขึ้นมา จะเห็นว่ามีหลายคนหลายฝ่ายต่างพยายามที่โดดออกมางับ เรื่องที่จะเข้าไปตรวจสอบ มีความพยายามที่จะชี้นำสังคมให้หลงไปในทิศทางนั้น และพยายามจะทำเหมือนกับว่าฝ่ายค้านนั้นพยายามที่จะเหยียบย่ำเกียรติยศศักดิ์ศรี ลูกผู้หญิง แต่การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำเช่นนี้ เป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงมากกว่า
นายชวนนท์ กล่าวว่า ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหารเครือแสนสิริ ออกมาระบุ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ว่า มีผู้เข้าพบนายกฯหลายคน เป็นกลุ่ม 6-7 คน เป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ นโยบายการเงิน ดอกเบี้ย
แต่สำคัญที่สุดที่ต่อเนื่องมาจากรายงานจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ระบุว่า การพบกันนั้น เป็นการนัดหมายกับกลุ่มนักธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีนายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานแลนด์แอนด์เฮาส์ ร่วมคณะ รวมถึงผู้บริหาร เอสซี แอสเสท ของตระกูลชินวัตร และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง และหนึ่งในหัวข้อที่หารือคือ เรื่องการประเมินราคาที่ดินใหม่ในปี 2555 และรวมถึงการประกาศแผนผังเมืองใหม่ ซึ่งตรงนี้ คือใบเสร็จชั้นดีว่า สิ่งที่เขาไปทำกันที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ คือเรื่องอะไร
นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นเรื่องประหลาด เพราะเมื่อปลายปีที่แล้ววันที่ 21 ธ.ค. 54 อธิบดีกรมธนารักษ์ ยืนยันว่า ต้องประกาศใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่ในปี 55 เพราะราคาที่ดินในประเทศสูงขึ้น 20 % แม้นักธุรกิจจะขอให้เลื่อนการประกาศใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่ออกไป โดยขณะนั้นพยายามจะพูดว่า มีพื้นที่จำนวนมากที่ถูกน้ำท่วม ขอให้ชะลอการประเมินราคาที่ดินใหม่
แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.54 มีข่าวว่า กรมธนารักษ์ และกระทรวงมหาดไทย ตัดสินใจให้ใช้ราคาประเมินเดิมออกไปอีก และตัวเลขที่กรมได้ชี้แจงคือรัฐบาลจะเสียโอกาสในการเก็บค่าธรรมเนียมตามการประเมินใหม่กว่า 6 พันล้านบาท อะไรเป็นเหตุผลให้กรมธนารักษ์ ตัดสินใจเลื่อนการประเมินราคาที่ดินรอบใหม่ออกไป มากไปกว่านั้นคือ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ทางรมว.มหาดไทย ให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ผังเมืองรวม 12 แห่งออกไปอีก 1 ปี ในจำนวนนั้นมี กทม. รวมอยู่ด้วย
นายชวนนท์ กล่าวว่า จากการประกาศ ที่ต้องประกาศในวันที่ 15 พ.ค. 55 นั้นเลื่อนไปประกาศเป็นวันที่ 15 พ.ค.56 มองว่าทุกอย่างเป็นจิ๊กซอว์ที่เกือบสมบูรณ์แล้ว และเหตุการณ์ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เกิดอะไรขึ้น มีการไปต่อรองนักธุรกิจรายใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ ให้มีการชะลอการประกาศราคาที่ดินฉบับใหม่ ใช่หรือไม่ และนายกฯมีการไปเปิดเผยความลับในเรื่องฟลัดเวย์ แก้มลิง หรือไม่ เพราะการดำเนินการตามแผนของ กยน. จะกระทบกับการประเมินราคาที่ดินแห่งใหม่ 100 % และผู้ที่สามารถรับจะทราบข้อมูลเบื้องต้น จะสามารถไปซื้อที่ดินดักหน้าก่อน ที่จะมีการปรับราคาใหม่ มีการชะลอการขึ้นราคาขายที่ดิน และมีการคำนวณพื้นที่แต่ละจุดจะรับน้ำ และจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยแค่ไหน ถนนบางสาย อาจมีการปรับราคาสูงขึ้นกว่า 20 % ดังนั้น ผู้ที่ทราบข้อมูลภายในอาจมีการไปดักซื้อไว้ เพื่อเก็งกำไรได้อีก
** อ้างปชป.ไม่เคยคุ้ยเรื่องใต้สะดือ
นายชวนนท์ กล่าวว่า ตรงนี้เป็นการยืนยันว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ ตรวจสอบมาโดยตลอด ไม่ใช่เรื่องชู้สาว และไม่ใช่เรื่องใต้สะตือ ตามที่สารพัดโฆษกของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยคิดต่ำๆ แต่เป็นฝั่งพรรคเพื่อไทย ที่พยายามใช้เรื่องนี้มาเป็นเกราะกำบัง ฝั่งนั้นที่ร้อนรนไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร จึงยกเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งถ้าย้อนไปดูคำพูดของน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะพบว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตื่นเต้นพอสมควรที่ถูกจับได้ ถึงกับพยายามไปเบี่ยงเบนเอาเพศมาเป็นข้ออ้างว่าดิฉันเป็นผู้หญิง ไม่ทำอะไรเสียหาย
ทั้งนี้ ทางพรรคจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาจับตาดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะนี่คือการจับการทุจริตคอร์รัปชันครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง ของประเทศไทย
** กมธ.พัฒนาศก. เด้งรับสอบปู ว.5
นายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ เวลา 13.00 น.ตนได้นัด กมธ.มาประชุม เพื่อบรรจุวาระการประชุมกรณีที่ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษก พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือคำร้องให้ กมธ.ตรวจสอบกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปว 5. ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ และได้มีการพบกับ นายเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหารเครือแสนสิริ ว่าอาจจะมีการไปพูดคุยที่อาจจะทำให้เกิดเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนซึ่งกันและกัน ซึ่งตนยืนยันว่า จะนำเรื่องนี้บรรจุเป็นวาระที่ กมธ.จะรับไปตรวจสอบหาความจริงต่อไป เพราะเป็นอำนาจของประธาน กมธ.
"เมื่อบรรจุเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมในกมธ.แล้ว สัปดาห์หน้า คาดว่าจะเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาชี้แจงกับ กมธ.เป็นคนแรก โดยไม่อยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อ้างว่าติดภารกิจ แล้วไม่สามารถมาชี้แจงกับกมธ. เพราะการมาชี้แจงกับกมธ. จะถือเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจของตนเอง ที่จะมาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง” นายชนินทร์ กล่าว
ส่วนที่เริ่มมีข่าวแพร่ออกมาว่า มีนักธุรกิจอีก 6-7 คนไปพบปะกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วยนั้น ทางกมธ. คงต้องรอฟังข้อมูลจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก่อน จากนั้นสัปดาห์ต่อๆไปก็จะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเช่นกัน
** ท้าพิสูจน์ชั้น 7 โฟร์ซีซันส์ ช้าไปแล้ว
นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีพรรคเพื่อไทย จะไปตรวจสอบชั้น 7 ของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เพื่อพิสูจน์ว่าบริเวณชั้น 7 ไม่มีห้องพัก พร้อมเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ขอขมาที่เปิดประเด็นนี้ว่า หากจะไปพิสูจน์กันตอนนี้ ก็คาดว่า คงช้าไปแล้ว เพราะเรื่องนี้ผ่านมากว่า 10 วันแล้ว และคงเสียเสียเวลาไปเปล่าๆ ทำไมเพิ่งคิดได้
อย่างไรก็ตาม ตนก็ยืนยันเช่นกันว่า จากการตรวจสอบเว็บไซต์ของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ก่อนหน้านี้ ก็พบว่ามีทั้งห้องพักส่วนตัว ห้องประชุม และเอ็กคลูซีฟคลับด้วย ทั้งนี้หากพิสูจน์ได้ว่า ข้อเท็จจริงไม่เป็นอย่างที่พรรคเพื่อไทยพูดจะมาขอโทษตนหรือไม่
** ท้า"ปู"ฟ้อง จะได้เปิดภาพวงจรปิด
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าจะฟ้องตน และรายการสายล่อฟ้านั้น ตนยินดี และอยากให้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอลายเซ็นต์ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โปรดได้ฟ้องตน และรายการสายล่อฟ้าด้วยตัวเอง จะได้ถือเป็นโอกาสดีที่จะใช้สิทธิ์พิสูจน์ภาพวงจรปิด ซีซีทีวี จะได้ทราบว่าข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าภาพวงจรปิด และบันทึกต่างๆ ของโรงแรมจะถูกลบทิ้งไปแล้วหรือไม่ นายศิริโชค กล่าวว่าโดยปกติของโรมแรมบันทึกการเข้าพักห้องของลูกค้า หรือภาพจากกล้องวงจรนั้น เวลามีใครไปขอดูก็ต้องเซ็นต์เอกสารเป็นหลักฐาน ถ้ามีการฟ้องร้องในศาล ก็ต้องนำภาพวงจรปิดตรงนั้นมาดู ซึ่งเชื่อว่าทางโรงแรมน่าจะเก็บบันทึกภาพนั้นไว้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่า รัฐบาลชุดนี้จะใช้อำนาจที่มีไปลบภาพดังกล่าวหรือไม่
** ถ้านายกฯชี้แจงข้อเท็จจริง ปัญหาจบ
นางยุวดี นิ่มสมบุญ ส.ว. สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อย วุฒิสภา กล่าวว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ควรจะออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมคลายความสงสัย เพราะนายกฯ เป็นบุคคลสาธารณะ จะทำอะไร ก็ต้องทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ โดยเฉพาะการเดินทางไปพบบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องน้ำ เขาอาจจะมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถจัดการเรื่องน้ำได้ และที่สำคัญนายกฯ ก็ไม่ได้เดินทางไปคนเดียว อย่างที่นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ออกมาเปิดเผยข้อมูล จึงเป็นเรื่องที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องออกมาชี้แจงความจริง สังคมก็สามารถแยกแยะออกได้.