สะเก็ดไฟ
การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาในวาระแรก ยังไม่ได้เริ่มตะลุยในเนื้อหา ก็โหมโรงฟาดฟันกันทะลักจุดเดือดแล้ว
การสุมหัวหารือในชั้นกรรมาธิการ เบื้องต้นได้แค่คัดเลิือกตัวประธาน ซึ่งก็คือ สามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ตามคาด แต่ยังไม่มีการพิจารณารายละเอียด หรือวางเงื่อนไขใดๆ
ฉับพลันทันที พรรคประชาธิปัตย์ได้ออกมาจี้ให้คณะกรรมาธิการกำหนดเงื่อนไข 3-4 ข้อ ก่อนที่จะส่งกระบวนการต่อไปยัง ส.ส.ร.ที่จะเลือกตั้ง ลากตั้งกันเข้ามา เช่นว่า ห้ามแตะต้องแก้ไขหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามยกเลิกองค์กรอิสระ เป็นต้น
กระนั้นคนในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยก็ออกลีลาพลิ้วเรื่อยมา และในชั้นกรรมาธิการเองก็แน่นอนว่าจะไม่มีการวางเงื่อนไขอะไรมาก โดยอ้างย้ำคำเดิมว่าเป็นหน้าที่ของส.ส.ร.ที่จะไปทำ พวกข้าไม่เกี่ยว
จะมีก็เพียงเสียงกระแอมนิดหน่อยรับหลักการในเรื่องของการไม่แตะต้องสถาบัน แต่เรื่องอื่นไม่รับประกัน!!
หลายสิ่งหลายอย่างที่อยู่ในรัฐธรรมนูญ 2550 แม้แต่เด็กอมมือยังรู้ว่า เครือข่ายลิ่วล้อคนรักแม้ว รื้อแน่ๆ เพียงแต่จะใช้วิธีการอย่างไรให้แนบเนียนมากที่สุด ไอ้ครั้นจะลงไปรื้อไปแก้ด้วยตัวเองไม่ทำแน่ ขืนทำมีหวังโดนด่าเปิดเปิง 7 วันไม่จบ
ฉะนั้นแนวทางยืมมือคนอื่นเหมาะที่สุด การเลือกตั้ง ส.ส.ร.ที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงน่าสนใจและจับตาอย่างยิ่งว่า พลพรรคคนรักแม้วจะสอดไส้แฝงเล่ห์ดันคนของตัวเองเข้ามาอย่างไร
ไม่ต้องอื่นไกลดูในชั้นคณะกรรมาธิการนี่แหละ การกำหนดที่มาของ ส.ส.ร.วางสเปกอย่างไร เลือกตั้งกันกี่คน คุณสมบัติอย่างไร แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยต้องพยายามเขียนล็อกไว้ให้เข้าทางคนที่ตัวเองเตรียมไว้มากที่สุด
สุดท้ายเมื่อเห็นหน้าค่าตาของ ส.ส.ร.ทั้งหมดแล้ว ก็หลับตานึกภาพได้ทันทีว่า การยกร่างจะออกมาอย่างไร จะเป็นประชาธิปไตยที่ปรับปรุงดีขึ้น หรือเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแดงเผาเมือง ล้างบางองค์กรอิสระ ศาลสถิตยุติธรรม
วันนี้พลพรรคคนรักแม้ว คนเสื้อแดง เริ่มขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ลงพื้นที่รณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญกันอย่างเป็นขบวนการ พร้อมๆ ไปกับการปลุกระดม แข่งกับฝ่ายต่อต้าน!!
ประคองกระแส สร้างภาพการสนับสนุน ถ้าเมื่อไหร่แผ่ว สมาชิกไม่อุ่นหนาฝาคั่งเท่าฝ่ายต่อต้าน เมื่อนั้นก็อันตราย
เรื่องรัฐธรรมนูญแก้เมื่อไหร่ แขกเยอะทุกครั้ง โดยไม่ต้องเรียนเชิญ ยิ่งตอนนี้มีหลายประเด็นสุ่มเสี่ยง เรื่องสถาบันก็ยังแหลมคม ง่ายต่อการจุดกระแส ถ้าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าเมื่อไหร่มีหวังหนาวแน่ ฉะนั้นต้องปลุกระดมฝ่ายหนุนสร้างขวัญกำลังใจให้ตัวเองไว้ก่อน
อย่างไรก็ดี ประเด็นที่ดูเหมือนฝ่ายต้านจะทัดทานไม่ไหว พรรคการเมืองเห็นพ้องต้องกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ คือมาตรา 237 เกี่ยวกับการยุบพรรค เมื่อกรรมการบริหารพรรคกระทำผิด
พรรคการเมืองเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องโดนหางเลขไปด้วย และวันนี้ก็ปรากฏชัดว่าคนที่ถูกตัดสิทธิก็ไม่ได้หนีหายไปไหน ยังส่งนอมินีเข้ามา แล้วตัวเองก็นั่งบงการอยู่ฉากหลัง ทำอะไรสะดวกกว่าเดิม ไม่ต้องเอาตัวเข้าไปพันหลัก นอมินีทำผิดกฎหมายก็ปล่อยให้ตายไป แล้วเอาคนใหม่เข้ามาแทน โดยที่ตัวเองนั่งกระดิกตีนสบายๆ เหมือนเดิม
แต่ประเด็นนี้น่าคิด จริงอยู่หลักการที่ว่าใครไม่ทำผิดไม่จำเป็นต้องได้รับโทษ ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่คนที่ทำผิดน่าจะหามาตรการลงโทษจริงจังกว่านี้ ตัดสิทธิ์ 5 ปี ยังน้อยไป น่าจะให้เลิกเล่นการเมืองไปตลอดชีวิต ป้องปรามกันด้วยมาตรการเด็ดขาด
ประเทศไทยจะได้เจริญๆ เสียที..
การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาในวาระแรก ยังไม่ได้เริ่มตะลุยในเนื้อหา ก็โหมโรงฟาดฟันกันทะลักจุดเดือดแล้ว
การสุมหัวหารือในชั้นกรรมาธิการ เบื้องต้นได้แค่คัดเลิือกตัวประธาน ซึ่งก็คือ สามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ตามคาด แต่ยังไม่มีการพิจารณารายละเอียด หรือวางเงื่อนไขใดๆ
ฉับพลันทันที พรรคประชาธิปัตย์ได้ออกมาจี้ให้คณะกรรมาธิการกำหนดเงื่อนไข 3-4 ข้อ ก่อนที่จะส่งกระบวนการต่อไปยัง ส.ส.ร.ที่จะเลือกตั้ง ลากตั้งกันเข้ามา เช่นว่า ห้ามแตะต้องแก้ไขหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามยกเลิกองค์กรอิสระ เป็นต้น
กระนั้นคนในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยก็ออกลีลาพลิ้วเรื่อยมา และในชั้นกรรมาธิการเองก็แน่นอนว่าจะไม่มีการวางเงื่อนไขอะไรมาก โดยอ้างย้ำคำเดิมว่าเป็นหน้าที่ของส.ส.ร.ที่จะไปทำ พวกข้าไม่เกี่ยว
จะมีก็เพียงเสียงกระแอมนิดหน่อยรับหลักการในเรื่องของการไม่แตะต้องสถาบัน แต่เรื่องอื่นไม่รับประกัน!!
หลายสิ่งหลายอย่างที่อยู่ในรัฐธรรมนูญ 2550 แม้แต่เด็กอมมือยังรู้ว่า เครือข่ายลิ่วล้อคนรักแม้ว รื้อแน่ๆ เพียงแต่จะใช้วิธีการอย่างไรให้แนบเนียนมากที่สุด ไอ้ครั้นจะลงไปรื้อไปแก้ด้วยตัวเองไม่ทำแน่ ขืนทำมีหวังโดนด่าเปิดเปิง 7 วันไม่จบ
ฉะนั้นแนวทางยืมมือคนอื่นเหมาะที่สุด การเลือกตั้ง ส.ส.ร.ที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงน่าสนใจและจับตาอย่างยิ่งว่า พลพรรคคนรักแม้วจะสอดไส้แฝงเล่ห์ดันคนของตัวเองเข้ามาอย่างไร
ไม่ต้องอื่นไกลดูในชั้นคณะกรรมาธิการนี่แหละ การกำหนดที่มาของ ส.ส.ร.วางสเปกอย่างไร เลือกตั้งกันกี่คน คุณสมบัติอย่างไร แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยต้องพยายามเขียนล็อกไว้ให้เข้าทางคนที่ตัวเองเตรียมไว้มากที่สุด
สุดท้ายเมื่อเห็นหน้าค่าตาของ ส.ส.ร.ทั้งหมดแล้ว ก็หลับตานึกภาพได้ทันทีว่า การยกร่างจะออกมาอย่างไร จะเป็นประชาธิปไตยที่ปรับปรุงดีขึ้น หรือเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแดงเผาเมือง ล้างบางองค์กรอิสระ ศาลสถิตยุติธรรม
วันนี้พลพรรคคนรักแม้ว คนเสื้อแดง เริ่มขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ลงพื้นที่รณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญกันอย่างเป็นขบวนการ พร้อมๆ ไปกับการปลุกระดม แข่งกับฝ่ายต่อต้าน!!
ประคองกระแส สร้างภาพการสนับสนุน ถ้าเมื่อไหร่แผ่ว สมาชิกไม่อุ่นหนาฝาคั่งเท่าฝ่ายต่อต้าน เมื่อนั้นก็อันตราย
เรื่องรัฐธรรมนูญแก้เมื่อไหร่ แขกเยอะทุกครั้ง โดยไม่ต้องเรียนเชิญ ยิ่งตอนนี้มีหลายประเด็นสุ่มเสี่ยง เรื่องสถาบันก็ยังแหลมคม ง่ายต่อการจุดกระแส ถ้าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าเมื่อไหร่มีหวังหนาวแน่ ฉะนั้นต้องปลุกระดมฝ่ายหนุนสร้างขวัญกำลังใจให้ตัวเองไว้ก่อน
อย่างไรก็ดี ประเด็นที่ดูเหมือนฝ่ายต้านจะทัดทานไม่ไหว พรรคการเมืองเห็นพ้องต้องกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ คือมาตรา 237 เกี่ยวกับการยุบพรรค เมื่อกรรมการบริหารพรรคกระทำผิด
พรรคการเมืองเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องโดนหางเลขไปด้วย และวันนี้ก็ปรากฏชัดว่าคนที่ถูกตัดสิทธิก็ไม่ได้หนีหายไปไหน ยังส่งนอมินีเข้ามา แล้วตัวเองก็นั่งบงการอยู่ฉากหลัง ทำอะไรสะดวกกว่าเดิม ไม่ต้องเอาตัวเข้าไปพันหลัก นอมินีทำผิดกฎหมายก็ปล่อยให้ตายไป แล้วเอาคนใหม่เข้ามาแทน โดยที่ตัวเองนั่งกระดิกตีนสบายๆ เหมือนเดิม
แต่ประเด็นนี้น่าคิด จริงอยู่หลักการที่ว่าใครไม่ทำผิดไม่จำเป็นต้องได้รับโทษ ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่คนที่ทำผิดน่าจะหามาตรการลงโทษจริงจังกว่านี้ ตัดสิทธิ์ 5 ปี ยังน้อยไป น่าจะให้เลิกเล่นการเมืองไปตลอดชีวิต ป้องปรามกันด้วยมาตรการเด็ดขาด
ประเทศไทยจะได้เจริญๆ เสียที..