โฆษกเพื่อไทย ดี๊ด๊า พ.ร.ก.กู้ 2 ฉบับผ่านศาลรัฐธรรมนูญ ขอบคุณตัดสินเป็นธรรม ได้ทีจี้ประชาธิปัตย์รับผิดชอบขอโทษประชาชน - ซัด 50 ส.ว.เดิมเครื่องป้องรัฐธรรมนูญรัฐประหาร ยังจะอ้างเพื่อไทยไม่เกี่ยวแก้แต่ฝีมือ ส.ส.ร.เลือกตั้งยกร่าง ฉะไม่เคารพเสียงประชาชน
วันนี้ (22 ก.พ.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 15.00 น.นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ พ.ร.ก.2 ฉบับ คือ พ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท เพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 และ พ.ร.ก.ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ.2555 ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ว่า เรื่องนี้เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ว่า รัฐบาลมีเครื่องมือในการแก้ปัญหาและวางโครงสร้างจัดการน้ำอย่างครบวงจร ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีการตัดสินอย่างเป็นธรรม ซึ่งตนคิดว่าประชาชนรอคอยการแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ การที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้เรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบนั้น ตนขอเรียกร้องกลับไปยังพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.ของพรรคที่ร่วมลงชื่อในการยื่นเรื่องต่อค้านคัด พ.ร.ก.2 ฉบับ ให้ออกมารับผิดชอบ เพราะคำวินิจฉัยของศาลถือเป็นเรื่องสิ้นสุดแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา ตนเห็นว่า ฝ่ายค้านมีการทำหน้าที่ที่ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ตนจึงอยากให้ทั้ง นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาขอโทษประชาชนในเรื่องที่เกิดขึ้น และควรจะเป็นฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและมีมาตรฐานในการทำงานให้มากกว่านี้
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่ม ส.ว.นำโดย นายสุรจิต ชิรเวทย์ ส.ว.สมุทรสงคราม คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ว่า การที่ออกมาแถลงเช่นนี้มีลักษณะของการเริ่มเดินเครื่องเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญปี 50 ที่มาจากกระบวนการรัฐประหาร ทั้งนี้ หากดูจากรายชื่อ ส.ว.ส่วนใหญ่ก็มีความใกล้ชิดกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เดิม และน่าจะมาการที่ชื่นชอบรัฐธรรมนูญปี 50 ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้ประชาชนสับสนและออกมาคัดค้านในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้น ก็มีความชัดเจนแล้วว่า การแก้รัฐธรรมนูญจะมีการแก้ในมาตรา 291 เพื่อให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อเข้ามายกร่างโดยที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีการแก้ แต่ ส.ส.ร.จะเป็นผู้ยกร่าง ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถล้างบาง หรือรวบอำนาจองค์กรอิสระได้อย่างไร กลุ่ม ส.ว.ที่ออกมาพูดคล้ายพวกอำนาจเผด็จการ ซึ่งขณะนี้สอดคล้องกับที่มีการเคลื่อนไหวปลุกระดมมวลชนในภาคใต้ เช่น จังหวัดพังงา และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มเดียวกันหรือไม่ที่จะมาขัดขว้างการอภิปรายเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 23 ก.พ.เพราะกลัวว่าจะมีการแก้ไขหมวดสถาบัน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ดังนั้น การออกมาแถลงข่าวของ ส.ว.จึงเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบไม่เคารพเสียงของประชาชนกลับออกมาช้ำ ทำให้ประชาชนสับสนเกิดความวุ่นวายจนเป็นการปลุกระดมม็อบ ทั้งนี้ ยืนยันว่า ทางพรรคเพื่อไทยจะไม่แตะต้องหมวดมาตรา 291/11 อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้กลุ่ม ส.ว.ให้ทบทวนบทบาทตนเอง และใช้เวทีสภาแสดงความเห็นร่วมกันจะดีกว่า อย่าไปคิดแทนประชาชนจนสร้างความขัดแย้ง
