xs
xsm
sm
md
lg

ปธ.วิปยันรับทุกร่างแก้ไข รธน.ของพรรคร่วมฯ ฉะ ปชป.เบี่ยงเบนประเด็น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อุดมเดช รัตนเสถียร (แฟ้มภาพ)
ประธานวิปรัฐบาลเผยรับร่างแก้ไข รธน.ของพรรคร่วมฯ ทุกฉบับ ก่อนพิจารณาว่าจะเอาร่างใดเป็นหลัก ฉะ ปชป.เบี่ยงเบนประเด็นแก้ รธน. อ้างสถาบัน-สังคมขัดแย้ง เพื่อหาแนวร่วม

นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงความคืบหน้าในการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้ร่างที่เสนอต่อประธานรัฐสภาแล้วกำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องทั้งหมด ส่วนร่างของรัฐบาลเมื่อผ่านความเห็นของคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะส่งไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาทำการตรวจสอบ โดยหากการตรวจสอบเสร็จสิ้นจะสามารถเสนอต่อประธานรัฐสภาเพื่อบรรจุเข้าสู่การพิจารณา อย่างไรก็ดี มีความเป็นห่วงร่างที่เสนอโดยภาคประชาชน 2 ร่างที่จะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือนเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของผู้ลงลายมือชื่อสนับสนุนที่มีกว่า 5-6หมื่นชื่อ

นายอุดมเดชกล่าวอีกว่า ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคชาติไทยพัฒนาได้ส่งร่างมาให้ดูแล้วโดยเป็นร่างที่มีความแตกต่างกันเล็กน้อยในส่วนของกระบวนการทำประชามติ โดยพรรคเพื่อไทยมีมติที่จะลงชื่อสนับสนุนให้ครบ 1 ใน 5 ตามหลักเกณฑ์เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ พรรคเห็นด้วยกับการมีร่างของพรรคชาติไทยพัฒนาเพราะเป็นผู้ที่เคยเป็นหลักในการจัดทำรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 โดยแนวทางของพรรคชาติไทยพัฒนาตรงกันในการให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และต้องการมีส่วนร่วมในการเสนอร่างในครั้งนี้ วิปเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องรักษาแนวร่วมที่เห็นตรงกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ เชื่อว่ากรอบเวลาที่จะพิจารณาวาระแรกน่าจะทันในสมัยประชุมนี้ และมีความเป็นไปได้ที่ประธานรัฐสภาอาจบรรจุร่างของ ส.ส.และรัฐบาลเข้าสู่การพิจารณาก่อน เพราะร่างของ ส.ส และภาคประชาชนมีความเห็นสอดคล้องกันในการแก้ไขมาตรา 291 ให้มี ส.ส.ร. จึงอาจจะมีการพูดคุยทำความเข้าใจว่าหากรอร่างของภาคประชาชนจะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือน อย่างไรก็ดี เมื่อกระบวนการแก้ไขดำเนินไปและร่างของภาคประชาชนตรวจสอบความถูกต้องเสร็จแล้วน่าจะมีการพูดคุยกันว่าจะแก้ไขสิ่งใดเพิ่มเติมได้

ส่วนท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลในการพิจารณาร่างแก้ไขที่เสนอเข้ามาในขณะนี้ ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า เบื้องต้นคงรับหลักการของทุกร่างฯ ไว้ทั้งหมดโดยเฉพาะร่างฯ ที่เห็นตรงกันและผ่านการตรวจสอบความถูกต้องแล้ว ส่วนจะใช้ร่างใดเป็นหลักในการพิจารณาคงจะมีการหารือกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตนห่วงร่างที่เสนอโดยภาคประชาชนที่มีการเสนอรายชื่อ 5-6 หมื่นคน เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่แล้วคงต้องใช้เวลาไม่ต้องกว่า 3 เดือน หากจะให้ร่างของประชาชนจะเข้าพร้อมกับร่างของส.ส.คงต้องเร่งการตรวจสอบรายชื่อ

ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่ามีการแก้ไขเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายอุดมเดชกล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นความพยายามเบี่ยงประเด็น โดยเป็นเรื่องปกติของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะมียุทธศาสตร์ในการคัดค้าน ก่อนหน้านี้เคยมีการโยงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าจะกระทบต่อสถาบัน ต่อมาเมื่อมีความชัดเจนของรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลว่าไม่มีการแก้ไขที่เกี่ยวข้องด้วยจึงมีการเบี่ยงประเด็นมาที่เรื่องนี้ เพื่อสร้างแนวร่วมในการคัดค้าน พรรคร่วมรัฐบาลเองก็ต้องรักษาแนวร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้เหมือนกัน

นายอุดมเดชกล่าวว่า ตนเห็นว่าขณะนี้สังคมมีความเห็นแตกต่างกันเป็นเรื่องปกติ โดยคนที่มีความเห็นว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญมีความเห็นว่าต้องแก้ตั้งแต่ขั้นตอนทำประชามติรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ที่เคยมีคนบอกว่าให้รับร่างไปก่อน หากเห็นไม่ตรงกันค่อยมีการแก้ไข ความเห็นเรื่องแก้หรือไม่แก้จึงมีอยู่นานแล้ว แต่หากไม่มีการแก้ไขคงเกิดวิกฤตแน่เพราะมีคนรออยู่ หากมีการให้เห็นผลที่เข้าใจได้ว่าควรแก้หรือไม่ แก้เพราะเหตุผลอะไร และรับฟังได้ ความเห็นคัดค้านน่าจะลดกระแสลง การที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้มีการแก้รัฐธรรมนูญถือเป็นโอกาสดีที่จะทบทวนแต่ละมาตราให้เพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจกัน

“ถ้าอ้างว่าไม่แก้แล้วจะขัดแย้ง ผมว่ามันขัดแย้งตั้งแต่วันนี้แล้วเพราะคนที่อยากให้แก้ก็รออยู่ ถ้าแก้ไม่ได้เขาจะว่าตกลงหลอกกันมาตั้งแต่ต้นแล้วใช่ไหมที่ให้รับรัฐธรรมนูญไปก่อน สังคมต้องตอบโจทย์เก่าๆ นี้ให้ได้”
กำลังโหลดความคิดเห็น