xs
xsm
sm
md
lg

“พิภพ” มึน “พล.อ.สนธิ” หนุนโละคดี คตส. แนะเลิกเล่นการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พิภพ” ถาม “พล.อ.สนธิ” เอาอย่างไรกันแน่ มึนตอนรัฐประหารอ้างเหตุต่างๆ นานาแต่วันนี้กลับหนุนล้มคดี คตส. แนะไม่ควรเล่นการเมือง รีบวางมือจะสง่างามกว่า ด้าน “สุรชัย” ชี้พอยอมรับได้ ถ้าถอนคดีของ คตส.แล้วเอาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมปกติ โดยนับอายุความใหม่


วันที่ 6 มี.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา และอดีต ส.ส.ร.ปี 2550 ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว” ดำเนินรายการโดยนายเติมศักดิ์ จารุปราณ

ผู้ดำเนินรายการกล่าวเปิดประเด็นถึงเรื่องรายงานการวิจัยของสถาบันพระปกเกล้า เรื่องสร้างความปรองดองแห่งชาติ ที่ยื่นต่อคอป.กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ (กมธ.ปรองดอง) สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธาน โดยประเด็นที่น่าจะสร้างความขัดแย้ง คือ เรื่องการนิรโทษกรรมคดีชุมนุมทางการเมือง และการเพิกถอนคดีของ คตส.ซึ่งมีทางเลือก 3 ทางเลือก คือมีทั้งรวมและไม่รวมคดีที่สิ้นสุดไปแล้ว และบางทางเลือกให้เพิกถอนผลการดำเนินคดีของคตส.ทั้งหมด แล้วไม่ต้องกลับมาเข้าสู่กระบวนการตามปกติ

โดย นายพิภพกล่าวว่า ตนในฐานะหนึ่งในคนที่สถาบันพระปกเกล้ามาสัมภาษณ์ในการทำรายงาน ยืนยันได้ว่าตนเสมอต้นเสมอปลายในการให้สัมภาษณ์ เรื่องการปรองดองชัดเจนต้องใช้แบบแอฟริกาใต้ คือต้องออกเป็นพรบ.ค้นหาความจริง กับการสมานฉันท์ พ.ร.บ.อันนั้นต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อหาความจริง แล้วต้องยอมรับผิดด้วย แต่ข้อเสนอของพระปกเกล้าไม่ได้เขียนอันนี้ แล้วบอกว่าให้ คปอ. (คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ) ทำให้แล้วเสร็จใน 6 ดือน คอป.ไม่มีอำนาจ ทำได้อย่างไร เพราะรัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่ได้ออกเป็น พ.ร.บ. ถามว่าทำความจริงให้ปรากฎได้อย่างไร อันนี้ไม่ตรงกับที่ตนให้สัมภาษณ์แน่นอน

มาที่ คตส. (คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ) ชัดเจนเหมือนเป็นคณะกรรมการสอบสวนพิเศษ ไม่มีอำนาจตัดสินคดี แค่เอาข้อมูลหลักฐานมาส่งให้อัยการหรือปปช.ไปดำเนินการ แต่มีอยู่ 1-2 คดี ที่บอกให้ คตส.ไปฟ้องศาลได้เองเลยกรณีที่ทั้งสองฝ่ายปฎิเสธ เป็นเหมือนพนักงานสอบสวนหรืออัยการเบื้องต้นเท่านั้นเอง ไม่มีอำนาจทำอะไรได้

วันนี้ถ้าบอกว่าให้ผลพิจารณาของ คตส.สิ้นสุดลง หมายความว่าอย่างไร เพราะตอนนี้ คตส.สิ้นสุดแล้ว ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.กับอัยการแล้ว ประเด็นนี้ต้องทำให้ชัดเจนว่าการดำเนินการผลการสอบสวนของ คตส. ขอให้ดำเนินไปตามปกติเพราะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ถ้าตรงนี้ตนเห็นด้วย

หรือถ้าจะให้ ป.ป.ช.หรืออัยการพิจารณาคดีใหม่ ทำไมไม่ให้พัฒนาจากสำนวนของ คตส. อะไรที่สงสัยอยู่ก็เรียกสอบสวนเพิ่มเติม จะไปทิ้งทำไม จุดประสงค์ต้องการรื้อเลย สุดท้ายก็ไปยกเลิกคดีความทั้งหมด เพราะอันนี้เป็นที่รู้กันว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมรับผิด

นายพิภพกล่าวอีกว่า สงสัยว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จะเอาอย่างไรกันแน่ ตอนทำรัฐประหารก็อ้างโน่นอ้างนี้ ตอนนี้ต้องการให้ยกเลิกคดีทั้งหมด แล้วที่ไปกล่าวหาเขาทุจริต - ใช้อำนาจเกินเลยจะว่าอย่างไร สงสารก็สงสาร สมเพชก็สมเพช หัวหน้ารัฐประหารมาทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่ควรเป็นนักการเมืองอีกแล้ว ควรออกจากการเมืองจะสวยงามกว่า

นายสุรชัยกล่าวว่า ข้อเสนอเรื่องค้นหาความจริง ต้องเป็นความจริงทั้งสองฝ่าย ทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่นั่นมันเป็นปลายเหตุ สิ่งที่ต้องค้นหาคือ ทำไมคนถึงออกมาชุมนุมกัน ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ก่อน 19 กันยายน 2549 ที่เป็นเหตุรัฐประหาร อะไรคือสาเหตุที่คนออกมาชุมนุม สาเหตุมีจริงหรือไม่ ตัวละครที่เกี่ยวกับเหตุต้องยอมรับความจริง นักการเมืองไม่จำเป็นต้องมุ่งที่ผิดกฎหมาย เพราะจริยธรรมของนักการเมืองมันมีความสำคัญมากกว่าถูกหรือผิดด้วยตัวบทกฎหมาย

ถ้าสอบสวนความจริง จะนำไปสู่การปรองดองได้ คือต้องสอบทุกเหตุการณ์ รวมทั้งเรื่องจริยธรรมด้วย แล้วต้องยอมรับผิด ถ้าผลที่ออกมาชี้ว่าผิด

นายสุรชัยกล่าวต่อว่า เรื่องให้ผลคตส.สิ้นสุดลง มีรายละเอียดที่ต้องคุยเยอะ สิ้นสุดเฉพาะผลของ คตส. แต่การกระทำที่คตส.ตรวจสอบสิ้นสุดด้วยหรือเปล่า หรือถือว่าไม่มีการกระทำนั้นเกิดขึ้น ถ้าเป็นเช่นนั้นสังคมยอมรับไม่ได้ เพราะหลายประเด็นสังคมคลางแคลงใจมาก

ถ้าบอกว่าสิ้นสุดลง แต่ไม่ตัดอำนาจให้ตรวจสอบการกระทำที่เคยถูกตรวจสอบไว้ด้วย โดยมีบทบัญญัติให้คดีความนั้นไม่ขาดอายุความ ให้ถือว่าระหว่างนั้นอายุความสะดุดทั้งหมด แล้วเริ่มต้นนับอายุความใหม่ เพื่อไม่เปิดช่องโหว่ให้คนที่เคยถูกกล่าวหา อาศัยช่องโหว่เรื่องอายุความ เพราะมันใกล้หมด 10 ปี ถ้าออกมาแนวนี้พอรับได้

จุดที่ คตส.ถูกกล่าวหามากคือมาจากรัฐประหาร ตรงนี้อาจถอยได้ ต้องถอยคนละก้าว ไม่เช่นนั้นปรองดองเกิดไม่ได้ แต่ทุกการกระทำต้องเข้าสู่กระบวนการยุติใหม่ทั้งหมด ไม่ถือว่าขาดอายุความด้วย เริ่มต้นใหม่ อีกฝ่ายยอมรับได้หรือไม่ ต้องยอมรับกติการ่วมกัน ในขณะที่คนถูกกล่าวหา ได้เข้ามากุมอำนาจรัฐด้วยซ้ำไป กติกาแบบนี้ ข้อเสนอของพระปกเกล้าพอรับฟังได้




กำลังโหลดความคิดเห็น