“ผู้นำฝ่ายค้าน” แนะคณะวิจัยสถาบันพระปกเกล้า หากมีความจริงใจปรองดองต้องถอนรายงานออกไปเพื่อหยุดยั้งกระบวนการใช้เสียงข้างมาก เพราะจะนำไปสู่ความขัดแย้ง เพิ่งตาสว่างเบรกนายกฯ อย่าใช้เวทีสภาออก กม.ปรองดองเพียงฝ่ายเดียว เย้ย “แม้ว” กลับไทยโดยไร้ความผิดไม่เท่ เฉ่ง “ทักษิณ” อ้าง เคลียร์ผู้พิพากษาปล่อยเสื้อแดง หวังแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
คลิกที่นี่ เพื่อฟังเสียง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
วันนี้ (25 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำงานของคณะกรรมาธิการปรองดองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าผิดปกติ เพราะการทำงานของกรรมาธิการฯ ไม่เคยมีการปิดกั้น หรือรวบรัดสรุปรายงานโดยที่กรรมาธิการฯ ไม่ได้พิจารณา มีเพียงไม่กี่คนที่รับทราบเรื่องนี้ คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน กมธ. นายชวลิต วิชยสุทธิ์ เลขานุการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ทั้งนี้หากผู้วิจัยถอนรายงานออกไปก็จะแก้ปัญหาได้ทันที
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าจะกลับประเทศไทยแบบเท่ๆ เกี่ยวข้องกับกระบวนการนิรโทษกรรม ล้มคดี คตส.หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้ามีการล้มคดีก็กลับมาโดยไม่ต้องรับผิด แต่จะเท่หรือไม่ตนไม่ทราบ
“เพราะคนที่ถูกศาลตัดสินว่าทำผิดและยังมีคดีค้างอยู่อีกมาก ไม่ต้องพิสูจน์ว่าตัวเองทำผิดจะเท่ได้อย่างไร”
ในทางตรงกันข้าม ตนคิดว่านี่คือการตอกย้ำให้เห็นว่ามีความพยายามนำคำว่า “ปรองดอง” มาบังหน้า หรือแปรความหมายให้เป็นการแก้ปัญหาให้แก่ผู้ต้องคดีเท่านั้น ไม่ได้ตอบโจทย์ให้สังคม ดังนั้น ถ้าคณะผู้วิจัยจริงใจที่จะให้มีการเดินหน้าการปรองดงอย่างเป็นระบบ ต้องหยุดยั้งกระบวนการนี้ ไม่เช่นนั้นสังคมจะนำไปสู่ความขัดแย้ง สูญเสียโอกาสสำคัญในการสร้างความปรองดอง ทั้งนี้ยังไม่เคยเห็นการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมล้มล้างคำพิพากษามาก่อน แต่ถ้ารัฐบาลทำเช่นนั้นก็เท่ากับว่าคนมีอำนาจคือผู้กำหนดถูกผิดไม่ใช่วิถีประชาธิปไตย เพราะประชาธิปไตยนั้นใช้เสียงข้างมากเพื่อกำหนดทิศทางการบริหารประเทศไม่ใช่ตัดสินถูกผิด
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดถึงกระบวนการยุติธรรมในลักษณะเหมือนถูกแทรกแซงได้ โดยระบุว่ากำลังพูดคุยกับผู้พิพากษาเพื่อให้ปล่อยตัวคนเสื้อแดง แสดงให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการคือ กระบวนการที่ถูกแทรกแซงได้ ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมที่มีความเป็นกลาง ซึ่งต้องถามว่าสังคมไทยต้องการให้เกิดสิ่งเหล่านี้หรือไม่ และสะท้อนว่าการกล่าวหากระบวนการยุติธรรมที่ผ่านมาของ พ.ต.ท.ทักษิณและพวกเป็นเพราะคำตัดสินไม่ถูกใจ หรือไม่สามารถแทรกแซงได้ หากปล่อยให้เดินหน้าเช่นนี้จะเพิ่มความขัดแย้งมากขึ้น และยังทำลายความถูกต่องในสังคม ทั้งการปฏิเสธความรุนแรงให้กระบวนการยุติธรรมมีความเป็นอิสระ ทั้งนี้เห็นว่าฝ่ายตุลาการน่าจะทำความเข้าใจต่อสังคมเกี่ยวกับการทำงานในระบบตุลาการ
นายอภิสิทธิ์ยังไม่เห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรีโยนให้สภาเป็นผู้กำหนดแนวทางปรองดอง เพราะการปรองดองไม่ใช่เรื่องของการออกกฎหมายเพียงอย่างเดียวเพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารด้วย แต่ที่พูดเช่นนี้เพราะต้องการโยนความรับผิดชอบให้พ้นตัวมากกว่า ซึ่งตนคิดว่านายกรัฐมนตรีต้องฟังคณะผู้วิจัยและเดินหน้าตามเจตนารมณ์ดังกล่าว อย่าใช้เสียงข้างมากในสภามาสรุปแนวทางปรองดอง และควรรอผลสรุปของ คอป.ด้วย ไม่ใช่หยิบเฉพาะประเด็นที่ตัวเองได้ประโยขน์กรณีการเยียวยาไปใช้แต่ไม่ได้ตอบโจทย์ปรองดองให้กับส่วนรวม