xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ “สนธิ ลิ้มทองกุล” เปิดใจ หลังศาลสั่งจำคุกกรณีผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ASTVผู้จัดการ - “สนธิ ลิ้มทองกุล” เปิดใจเคารพศาลและกระบวนการยุติธรรม ยอมรับความผิดหลังศาลสั่งจำคุกกรณีทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ยืนยันไม่เคยหนีแม้จะมีคำสั่งจำคุก 20 ปี เผยอุทธรณ์ขอความเมตตาต่อศาลต่อไป เพราะไม่ได้ “ค้ายา-ปล้นสะดม-เผาเมือง” ชี้ถ้าคนไทยไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมประเทศชาติไปไม่รอด

จากกรณีที่วานนี้ (28 ก.พ.) ศาลอาญารัชดา พิพากษาจำคุก 20 ปี นายสนธิ ลิ้มทองกุล ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ จากกรณีการกระทำเมื่อครั้งเป็นกรรมการบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในปี 2539 หลังศาลมีคำสั่งให้ประกันตัวเมื่อช่วงเย็นวานนี้ นายสนธิได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยมีรายละเอียดดังนี้


 คลิกที่นี่ เพื่อฟังคลิปเสียง "คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เปิดใจเรื่องคดีความ" 

“คดีความนี้เป็นคดีความที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2538 เป็นคดีความเรื่องของผิด พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ เป็นเรื่องของการเอาบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ไปค้ำประกันอีกบริษัทหนึ่ง คดีนี้ได้มีการดำเนินคดีมาสืบเนื่องกันมาตั้งแต่ปี 2539 จนกระทั่งถึงวันนี้ ในการต่อสู้คดีนั้นผมปฏิเสธที่จะต่อสู้คดี ผมยอมรับผิด ผมจะไม่พูดเบื้องหลังว่าใครเป็นคนทำก็แล้วกัน เอาเป็นว่าผมยอมรับในกระบวนการยุติธรรมของไทย วันนี้เป็นวันที่พิสูจน์ชัดเจน ว่าผมพร้อมจะเดินเข้าศาล

ผมโดนลงโทษทั้งหมดเบ็ดเสร็จ 84 ปี (หัวเราะ) 84 ปี (ปานเทพ : 85 ปี) 85 ปี แล้วในที่สุดก็ลดเหลือ 20 ปี ก็เพราะว่าในกฎหมายไม่ให้เกิน 20 ปี ผมใช้สิทธิของผมในการอุทธรณ์เพื่อขอความเมตตาต่อศาลว่า คดีความผมไม่ใช่คดีความค้ายาเสพติดหรือไม่ใช่คดีความของการปล้นสะดม ฆ่าผู้คน เป็นคดีที่ผิดพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์ แล้วก็ไม่มีโจทก์ร่วม ประเด็นสำคัญสำหรับผมก็คือว่า ผมได้พิสูจน์ให้สังคมไทยเห็นว่า ผมยอมรับกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน

ระหว่างที่ผมฟังคำพิพากษานั้น ผมอดไม่ได้ที่จะขำ ผมขำตรงที่ว่าโดนตรงโน้น โดนตรงนี้ ผมนึกในใจว่า เอ๊ะ! เอาให้ถึงร้อยปีเลยดีไหม ผมเป็นเพียงแต่ขำอย่างเดียวเท่านั้นเอง ว่าผมผิด พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ ผมโดนไป 80 ปี ทั้งๆ ที่ผมไม่ใช่คนที่ค้ายาเสพติด หรือไม่ได้ไปเผาบ้านเผาเมืองใคร แต่ไม่เป็นไร ในฐานะที่ผมรับสารภาพก่อนการสืบคดีสิ้นสุด ศาลสถิตยุติธรรมมีมติที่จะพิพากษาผมอย่างไร ผมก็ยอมรับในคำพิพากษานั้น ไม่ตัดพ้อต่อว่า เพราะผมต้องการทำให้ผมเป็นตัวอย่างให้เห็น ว่าเมื่อผิดต้องยอมรับผิด

และเมื่อต้องคดี ศาลพิพากษามาจะอย่างไรก็ตามที่ศาลพิพากษามา จะยอมรับหมดทุกเรื่อง ไม่มีข้อแม้ ไม่เคยที่จะต้องมาประท้วงศาลว่าศาลไทยไม่ยุติธรรม ไม่เคยที่จะมาตั้งกลุ่มชุมนุมติดป้ายด่าศาล ผมเป็นคนที่เคารพศาลไทยมาตั้งแต่ต้น มาศาลผมก็มา ผมไม่เคยหนีศาล ไม่เคยเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะผมต้องการทำตัวอย่างหลักนิติรัฐให้คนเห็น ว่าถ้าคนยอมรับหลักนิติรัฐแล้วทุกอย่างแก้ปัญหาได้ เพราะว่าคดีผมยังมีอุทธรณ์และฎีกาต่อ และผมก็เชื่อว่าในการอุทธรณ์ของผมนั้นจะมีผลที่ดีขึ้น หรือเลวลง หรือเท่าเดิม ผมก็ยอมรับ

ถ้าผมไม่พอใจผลของศาลอุทธรณ์ ผมก็จะฎีกาต่อไป ในที่สุดศาลฎีกามีผลอย่างไรก็ตาม ผมจะยืดตัวเชิดหน้ายอมรับคำพิพากษาของศาลอย่างไม่ยี่หระ และยอมรับไปทุกกรณี วันนี้ผมออกมาแถลงข่าวเพื่อให้ทราบว่า ผมเคารพในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ผมไม่เคยตีโพยตีพาย ไม่ว่าผมจะโดนคดีกี่คดี โดนสั่งจำคุกมาแล้วกี่คดี ผมไม่เคยตีโพยตีพาย ผมถือว่านี่คือที่พึ่งสุดท้ายของประเทศ

แล้วถ้ากระบวนการยุติธรรมซึ่งคนไทยจะต้องพึ่ง แล้วคนไทยไม่เคารพในกระบวนการยุติธรรม ประเทศชาติไปไหนไม่รอด ในขณะเดียวกันกระบวนการยุติธรรมก็ต้องมีคนในกระบวนการยุติธรรมที่ต้องพร้อมที่จะให้ความยุติธรรมอย่างยุติธรรมจริงๆ ด้วยความเมตตาธรรมนะครับ ผมมีเพียงแค่นี่ล่ะครับ ขอบคุณมากครับ”


กำลังโหลดความคิดเห็น