เชียงราย -กรรมาธิการการต่างประเทศ ยกทีมลงพื้นที่เมืองพ่อขุนฯ ตามคดีฆ่าหมู่ลูกเรือจีนกลางแม่น้ำโขง รวม 13 ศพ ด้านรอง ผบก.ภ.เชียงราย รับวันเกิดเหตุมีเรือปริศนา 4 ลำประกบ 2 เรือจีนเข้ามาด้วย ขณะที่ปลอกกระสุนทหารไทยบนเรือต้องรอผลพิสูจน์ก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ นายสุนัย จุลพงศธร ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะได้เดินทางไปรับทราบข้อมูลเพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีปล้นเรือจีนแม่น้ำโขงจำนวน 2 ลำ เป็นเหตุให้กัปตันและลูกเรือชาวจีนเสียชีวิตจำนวน 13 ศพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา และพบเรือทั้ง 2 ลำติดริมตลิ่งใกล้ถนนสายเชียงแสน-แม่สาย ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน บนเรือพบยาบ้าจำนวน 920,000 เม็ด โดยมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
นายสุนัยระบุว่า จากการรับทราบข้อมูลพบว่าคดีนี้ได้สร้างผลกระทบต่อการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทยและจีนอย่างมาก เพราะทางการจีนได้ระงับการเดินเรือสินค้าที่ขนส่งสินค้าระหว่างเมืองเชียงรุ่งหรือจิ่งหง เขตปกครองสิบสองปันนา มาที่ท่าเรือเชียงแสน 1 อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มาเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือนแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถขนส่งสินค้าไป-มา ได้ ในส่วนของคดีก็ทราบว่าได้มีทหารจากกองกำลังผาเมือง 9 นาย เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาตามกระบวนการยุติธรรม ทำให้ประเทศจีนมีความพอใจที่ทางการไทยให้ความสำคัญในคดีนี้
“ที่ผ่านมาก็มีการประชุมร่วมกันหลายครั้งทั้งที่ประเทศจีนและในประเทศไทย ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อมาหาข้อมูลเพิ่มเติมทั้งจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ และตรวจที่เกิดเหตุ พบปะพูดคุยกับชาวบ้านหรือผู้ประกอบการในพื้นที่ นำข้อมูลไปประกอบการพิจารณาในคณะกรรมาธิการ เพื่อร่วมกันคลี่คลายปัญหานี้ร่วมกันต่อไป” นายสุนัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในที่ประชุม พ.ต.อ.ทวีชัย ประทีปอุษานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนในระดับจังหวัด กล่าวยอมรับว่า แนวทางสืบสวนสอบสวนมีเสียงปืนยิงบริเวณที่เกิดเหตุ และมีเรือกองกำลังไม่ทราบฝ่ายจำนวน 4 ลำบังคับเรือสินค้าจีนทั้ง 2 ลำ ล้ำเข้ามายังเขตแดนไทย แต่ไม่แน่ชัดว่าขณะนั้นมีผู้เสียชีวิตแล้วหรือไม่ แต่มีศพอยู่ในห้องบังคับเรือ 1 ศพ ส่วนอีก 12 ศพที่ลอยมาเกยตื้นริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขต อ.เชียงแสน ก็อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีการยิงกันมาก่อนแล้วหรือไม่
ด้านการสอบสวนนายทหารทั้ง 9 นายซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เบื้องต้นให้การยืนยันว่า ปลอกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเรือเป็นเพียงการยิงขู่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ได้นำอาวุธปืน ปลอกกระสุนและหัวกระสุนในที่เกิดเหตุส่งให้หน่วยพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่าเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่ ซึ่งกำลังรอการตรวจพิสูจน์อยู่
ขณะที่ พ.อ.ถนัดพล โกศัยเสวี ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ยืนยันว่า นายทหารทั้ง 9 นายที่ถูกตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเป็นชุดปฏิบัติงานที่มาเสริมในพื้นที่ เพื่อดูแลสถานการณ์ด้านความมั่นคงและสกัดกั้นยาเสพติด เนื่องจากระยะหลังตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. เป็นต้นมา มีเหตุปล้นสะดมเรือสินค้าในแม่น้ำโขง เกิดการปะทะกันจนมีข่าวการแก้แค้นและพยายามลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในเขตไทยบ่อยครั้ง ซึ่งมีบันทึกหลักฐานจาก ป.ป.ส.ให้เฝ้าระวัง ส่วนการยิงปะทะกันนั้นไม่ทราบแน่ชัด ซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ไม่เกี่ยวกับกองทัพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ นายสุนัย จุลพงศธร ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะได้เดินทางไปรับทราบข้อมูลเพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีปล้นเรือจีนแม่น้ำโขงจำนวน 2 ลำ เป็นเหตุให้กัปตันและลูกเรือชาวจีนเสียชีวิตจำนวน 13 ศพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา และพบเรือทั้ง 2 ลำติดริมตลิ่งใกล้ถนนสายเชียงแสน-แม่สาย ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน บนเรือพบยาบ้าจำนวน 920,000 เม็ด โดยมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
นายสุนัยระบุว่า จากการรับทราบข้อมูลพบว่าคดีนี้ได้สร้างผลกระทบต่อการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทยและจีนอย่างมาก เพราะทางการจีนได้ระงับการเดินเรือสินค้าที่ขนส่งสินค้าระหว่างเมืองเชียงรุ่งหรือจิ่งหง เขตปกครองสิบสองปันนา มาที่ท่าเรือเชียงแสน 1 อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มาเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือนแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถขนส่งสินค้าไป-มา ได้ ในส่วนของคดีก็ทราบว่าได้มีทหารจากกองกำลังผาเมือง 9 นาย เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาตามกระบวนการยุติธรรม ทำให้ประเทศจีนมีความพอใจที่ทางการไทยให้ความสำคัญในคดีนี้
“ที่ผ่านมาก็มีการประชุมร่วมกันหลายครั้งทั้งที่ประเทศจีนและในประเทศไทย ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อมาหาข้อมูลเพิ่มเติมทั้งจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ และตรวจที่เกิดเหตุ พบปะพูดคุยกับชาวบ้านหรือผู้ประกอบการในพื้นที่ นำข้อมูลไปประกอบการพิจารณาในคณะกรรมาธิการ เพื่อร่วมกันคลี่คลายปัญหานี้ร่วมกันต่อไป” นายสุนัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในที่ประชุม พ.ต.อ.ทวีชัย ประทีปอุษานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนในระดับจังหวัด กล่าวยอมรับว่า แนวทางสืบสวนสอบสวนมีเสียงปืนยิงบริเวณที่เกิดเหตุ และมีเรือกองกำลังไม่ทราบฝ่ายจำนวน 4 ลำบังคับเรือสินค้าจีนทั้ง 2 ลำ ล้ำเข้ามายังเขตแดนไทย แต่ไม่แน่ชัดว่าขณะนั้นมีผู้เสียชีวิตแล้วหรือไม่ แต่มีศพอยู่ในห้องบังคับเรือ 1 ศพ ส่วนอีก 12 ศพที่ลอยมาเกยตื้นริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขต อ.เชียงแสน ก็อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีการยิงกันมาก่อนแล้วหรือไม่
ด้านการสอบสวนนายทหารทั้ง 9 นายซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เบื้องต้นให้การยืนยันว่า ปลอกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเรือเป็นเพียงการยิงขู่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ได้นำอาวุธปืน ปลอกกระสุนและหัวกระสุนในที่เกิดเหตุส่งให้หน่วยพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่าเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่ ซึ่งกำลังรอการตรวจพิสูจน์อยู่
ขณะที่ พ.อ.ถนัดพล โกศัยเสวี ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ยืนยันว่า นายทหารทั้ง 9 นายที่ถูกตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเป็นชุดปฏิบัติงานที่มาเสริมในพื้นที่ เพื่อดูแลสถานการณ์ด้านความมั่นคงและสกัดกั้นยาเสพติด เนื่องจากระยะหลังตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. เป็นต้นมา มีเหตุปล้นสะดมเรือสินค้าในแม่น้ำโขง เกิดการปะทะกันจนมีข่าวการแก้แค้นและพยายามลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในเขตไทยบ่อยครั้ง ซึ่งมีบันทึกหลักฐานจาก ป.ป.ส.ให้เฝ้าระวัง ส่วนการยิงปะทะกันนั้นไม่ทราบแน่ชัด ซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ไม่เกี่ยวกับกองทัพ