เชียงราย - รองอธิบดีกรมกงสุล สป.จีน ขอบคุณไทยคลี่คลายคดีฆ่าหมู่ลูกเรือจีนกลางน้ำโขงตายยกลำ จนเริ่มดำเนินคดีทหาร 9 นายได้ เตรียมฌาปนกิจศพทั้งหมดต่อ พร้อมจี้ไทยชดใช้ความสูญเสียที่เกิดขึ้น เชื่อญาติผู้ตายฟ้องแน่ ด้าน “เหลิม” ยันหลักฐานมัดแน่น ส่ง รอง ผบ.ตร.-ว่าที่ ผบช.ภ.5 แจงจีนแล้ว
วันนี้ (29 ต.ค.54) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปติดตามคดีฆ่าหมู่กัปตันและลูกเรือในแม่น้ำโขงสัญชาติจีน 2 ลำ จนลูกเรือจีนเสียชีวิต 12 ศพ และกองกำลังติดอาวุธอีก 1 ศพ รวมเป็น 13 ศพ เหตุเกิดกลางแม่น้ำโขง บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ พรมแดนพม่า-ลาว เมื่อ 5 ต.ค.54 โดยได้เดินทางไปยังชายแดนแม่น้ำโขงด้าน อ.เชียงแสน ก่อนเข้าร่วมประชุมลับกับตำรวจ สภ.แม่สาย อีกร่วม 30 นาที รวมทั้งได้เข้าพบกับนายโกว เส้า ชวน รองอธิบดีกรมกงสุล กระทรวงการต่างประเทศของจีน ณ โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท เชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย ที่เดินทางไปติดตามความคืบหน้าในคดีเช่นกัน
นายโกว เส้า ชวน แจ้งว่า ต้องขอขอบคุณประเทศไทยที่ได้ช่วยติดตามคดีและสามารถคลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็วมีความกระจ่างชัด ดังนั้น ต่อจากนี้ก็จะเป็นกระบวนการจัดการกับศพผู้ตายที่ยังเก็บเอาไว้ที่ จ.เชียงราย หลังการชันสูตรพลิกศพไปแล้วซึ่งจะมีการฌาปนกิจด้วยการเผาในประเทศไทยต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายโกว เส้า ชวน กล่าวว่า นับจากนี้ทางการจีนยังจะติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดต่อไป
ในส่วนของผู้ที่เสียชีวิตนั้นทางการไทยควรจะมีการเตรียมตัว เรื่องการเยียวยาต่อญาติผู้ตายด้วย เพราะเชื่อว่าทางญาติผู้ตายจะต้องออกมาเรียกร้องค่าเสียหายอย่างแน่นอนเมื่อคดีมีความกระจ่างชัดมากขึ้น
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ปัจจุบันตนได้แต่งตั้งให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะชุดคลี่คลายคดีนี้ และมอบหมายให้ พล.ต.อ.ภาณุพงษ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร.(ปป.3) เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวน ,พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัตร รอง ผบ.ตร.(ปป.1) เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อให้เข้ามาเร่งรัดคดีนี้ อันจะเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นกับทุกฝ่ายว่ารัฐบาลไทยได้ให้ความสนใจและให้ความร่วมมือกับทางการจีนอย่างจริงใจ
"เนื่องจากเป็นคดีใหญ่ ดังไปทั่วโลก ทางการจีนจึงได้ส่งทีมงานใหญ่ลงพื้นที่ อ.เชียงแสน เพื่อร่วมคลี่คลายคดีนี้ด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบร่วมกันพบประวัติคนตายทั้ง 13 ศพ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเมื่อตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานจากหลายภาคส่วน และมีผู้พบเห็นว่า ได้มีการยิงอาวุธปืนจากฝั่งของไทยด้าน อ.เชียงแสน เข้าไปที่เรือสินค้าของจีน ซึ่งหลักฐานมีความชัดเจนว่า วิถีกระสุนยิงขึ้นไปบนเรือ จึงมีการออกหมายเรียก 2 นายทหารสัญญาบัตร ระดับ พ.ต.และ ร.ท. และทหารชั้นประทวนอีก 7 นาย รวมทั้งหมด 9 นาย มารับทราบข้อกล่าวหา ปัจจุบันได้ส่งตัวให้กับนายทหารพระธรรมนูญรับตัวไปดำเนินการแล้ว" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม บอกอีกว่า ตามทางตำรวจมีพยานและหลักฐานที่มัดแน่นในการจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด จึงได้ออกหมายเรียกตัวทหารทั้ง 9 นายมารับทราบข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ถือเป็นการกระทำของส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับสถาบันทหาร ซึ่งคนทำผิดก็ต้องรับโทษ
ส่วนด้านประเทศจีนนั้นก็ได้ให้ทาง พล.ต.อ.ภาณุพงษ์ และ พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และว่าที่ ผบช.ภาค 5 คนใหม่ เดินทางไปรายงานเรื่องดังกล่าวที่ประเทศจีนแล้ว
สำหรับคดีฆ่าหมู่กัปตันและลูกเรือในแม่น้ำโขงสัญชาติจีน 2 ลำดังกล่าว คือเรือบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง Hua Ping และเรือขนกระเทียมและแอปเปิ้ล Yu Xing 8 รวมทั้งสิ้น 13 ศพเมื่อวันที่ 5 ต.ค.54 เกิดขึ้นบริเวณสามเหลี่ยมทองคำชายแดนไทย-พม่า-สปป.ลาว ซึ่งต่อมาหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ภายใต้ปฏิบัติการของกองกำลังผาเมือง เข้าควบคุมเรือขณะแล่นเข้าฝั่งไทยบริเวณเขตหมู่บ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน และค้นบนเรือพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ 920,000 เม็ด
อย่างไรก็ตาม ต่อมาเรื่องบานปลายขึ้น เมื่อทางการจีนเร่งให้ทางการไทยคลี่คลายคดีและเรียกเรือสินค้าแม่น้ำโขงกลับประเทศทั้งหมด จนประเทศไทยต้องตั้งคณะทำงานคลี่คลายคดีจากกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยตรง
กระทั่งวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการออกหมายเรียกให้ทหารไทยจากกองกำลังผาเมืองระดับ พ.ต.1 นาย ร.ท.1 นาย และชั้นประทวนอีก 7 นาย รวมทั้งหมด 9 นาย เข้ามอบตัวกับชุดคลี่คลายคดี ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและยักย้ายทำลายศพ