xs
xsm
sm
md
lg

ปริศนายาบ้า-เงิน-คน หาย!หลังคดีฆ่าลูกเรือจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เวลานี้ แม้ปัญหาการสังหารหมู่ลูกเรือจีนในแม่น้ำโขง จะคลี่คลายไประดับหนึ่ง แต่พบว่า ยังมีข้อแคลงใจหลายประเด็นที่ทางการจีนยังรอคำตอบอยู่
จากวันที่ 5 ตุลาคม 2554 วันเกิดเหตุฆ่าหมู่ลูกเรือจีน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ที่ถูกเรียกเป็น “สลัดน้ำจืด” ของ “หน่อคำ” ตายคาเรือสัญชาติจีน กลางแม่น้ำโขง บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ตายยกลำ รวม 13 ศพ

จนถึงขณะนี้ ความคืบหน้าที่ปรากฏ ดูเหมือนจะมีเพียงการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเจตนาฆ่า - ปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพ ของ 9 ทหารกองกำลังผาเมืองของไทย และข้อตกลงร่วมระหว่างไทย พม่า ลาว จีน เรื่องการลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยในแม่น้ำโขงตอนบนตลอดแนวเท่านั้น

ล่าสุดต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการจีนได้ส่งเรือเร็วพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ติดอาวุธ 2 ลำล่องมาจากเมืองเชียงรุ่ง เขตปกครองตนเองชนชาติไตสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน สป.จีน จนถึง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยในลำน้ำโขงตอนบน ก่อนที่จะพิจารณาอนุญาตให้เรือสินค้าจีนกลับมาวิ่งในลำน้ำโขงอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ยังคงมีประเด็นปัญหาที่ทางการจีนถามผ่าน พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อคราวเดินทางไปร่วมประชุมที่ สป.จีน เกี่ยวกับกรณีนี้ แต่ยังไม่มีการชี้แจงอย่างชัดเจนด้วยว่า “ใคร สั่งฆ่าลูกเรือจีน”

ขณะเดียวกัน ยังมีประเด็นปัญหาที่ดูเหมือนจะไร้คำตอบที่ชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกหลายปมเงื่อนสำคัญ ท่ามกลางกระแสข่าวที่แพร่สะพัดในพื้นที่ ถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุโศกนาฏกรรมลูกเรือจีนตายยกลำดังกล่าว

เริ่มตั้งแต่ประเด็นยอดยาบ้า ที่ยึดได้จากเรือจีนที่เกิดเหตุ ที่ต่อมามีการแถลงข่าวยืนยันว่า พบยาบ้าบนเรือสัญชาติจีนครั้งนี้ 920,000 เม็ด

แต่หน่วยงานด้านการข่าวในพื้นที่ กลับอ้างว่า ยาบ้าล็อตนี้ อาจจะมีมากกว่า 3-4 ล้านเม็ดเลยทีเดียว โดยมีบางส่วนประมาณ 8 หมื่นเม็ด ถูกจัดแบ่งไปยัง “คนที่เกี่ยวข้อง” กับการจัดการเรื่องดังกล่าวบริเวณชายแดน ส่วนที่เหลืออีกไม่น้อยกว่า 2-3 ล้านเม็ดถูกลำเลียงเข้าไทยอีกทางหนึ่งแล้ว

ประเด็นที่ 2 มีรายงานว่า โศกนาฏกรรมฆ่าลูกเรือจีนยกลำครั้งนี้ ไม่ได้มีเพียง ศพลูกเรือจีน - ยาบ้า 920,000 เม็ดบนเรือเท่านั้น แต่มีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่า บนเรือดังกล่าวยังมี “เงินสด” นับสิบ ๆ ล้านถูกขนมาพร้อมกันด้วย

นอกจากนี้ยังมี “จิ๊กซอว์” ตัวสำคัญที่หายตัวไปจากพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย หลังวันเกิดเหตุได้ไม่กี่วัน อย่างน้อย 2 คนด้วยกัน โดยคนแรกถือเป็นผู้ที่มีหน้าตาทางสังคมของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่เคยออกงานร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของอำเภอชายแดนแห่งนี้มาอย่างต่อเนื่อง รู้จักกันดีในชื่อ “ลุง น.” อีกคนชื่อ “นาย ส.” ที่เป็นญาติกับ “ลุง น.” และเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ในพื้นที่แม่สายด้วยเช่นกัน
หลังเกิดเหตุจีนได้ส่งกองกำลังลาดตระเวนเพื่อดูแลความปลอดภัยการเดินเรือในแม่น้ำโขง
ทั้งนี้มีรายงานอีกว่า ลุง น.และเครือข่าย ได้ชื่อว่าเป็นมือประสาน รับงานในการประงานกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ “หน่อคำ” เพื่อ “จัดงาน” ครั้งนี้ขึ้น ก่อนที่จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ไทยเข้าไปตรวจสอบ ยึดเรือและของกลางยาบ้า “920,000 เม็ด” ดังกล่าว

กองกำลังติดอาวุธ “หน่อคำ” กลุ่มนี้ ก็มีการปล่อยข่าวแพร่สะพัดในพื้นที่ด้วยว่า เป็นกองกำลังที่ถูกจัดตั้งขึ้นอย่างมีเป้าหมาย และมีการตั้งข้อสงสัยด้วยว่า มี จนท.ไทยพัวพันด้วย

อย่างไรก็ตาม “งาน” ดังกล่าวกลับลุกลามเกินควบคุม เมื่อกองกำลังติดอาวุธ “หน่อคำ” ที่เข้าปล้นเรือตั้งแต่ 4 ตุลาคม 2554 ก่อนนำเรือพร้อมยาบ้า 920,000 เม็ด และลูกเรือจีน ล่องมาตามลำน้ำโขงเพื่อเข้าเทียบท่าที่ฝั่ง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย หญิงสาวที่อยู่บนเรือจีนได้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โทร.ออกมาจากเรือติดต่อกับคนรู้จักที่เชียงแสน จนเป็นเหตุให้ถูก “ตัดลิ้น” และฆ่าทิ้งกลางน้ำโขง ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายจนกลายเป็นการฆ่าหมู่ลูกเรือจีนยกลำ

ขณะที่กองกำลังติดอาวุธกลุ่ม “หน่อคำ” ที่นั่งมากับเรือ กลับสามารถกระโดดลงเรือเกาะขอบเรือเร็ว แล่นกลับขึ้นไปทางเหนือสามเหลี่ยมทองคำได้เกือบทั้งหมด ทิ้งไว้แต่เพียงศพคนในกลุ่ม 1 ศพบนดาดฟ้าเรือ ที่ถูกยิงหัว กับปืนอาร์ก้า ที่ไม่มีร่องรอยการใช้ยิงมาก่อน 1 กระบอกเท่านั้น

ทั้งนี้เหตุดังกล่าวนี้ สื่อมวลชนไทยหลายสำนักได้รายงานเหตุการณ์ไว้ว่า เกิดขึ้นราว 11.00 น.วันที่ 5 ตุลาคม 54 มีผู้ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นบริเวณริมฝั่งและลำน้ำโขง แถบสามเหลี่ยมทองคำ รอยต่อไทย พม่า ลาว ขณะที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขงเขตเชียงราย (นรข.) และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำลังผาเมือง กองทัพภาคที่ 3 เข้าไปใกล้เรือสินค้าสัญชาติจีนชื่อ “หยู่ ซิง 8” บรรทุกกระเทียม แอปเปิล กับเรือบรรทุกน้ำมันชื่อ “หัว ปิง” ซึ่งเข้ามาในน่านน้ำไทยที่ด้านบ้านสบรวก อ.เชียงแสน

หลังเสียงปืนสงบขึ้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบนเรือพบศพผู้เสียชีวิต 1 คน พร้อมอาวุธปืนอาร์ก้า (ak 47) บนเรือบรรทุกน้ำมัน และพบยาบ้าบนเรือทั้ง 2 ลำ รวม 920,000 เม็ด

6 ตุลาคม 54 ที่กองบังคับการ นรข. เขตเชียงราย พล.ต.ปราการ ชลยุทธ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 และ พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการ ป.ป.ส.ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดที่ลักลอบมากับเรือทั้ง 2 ลำ โดยระบุรายละเอียดไว้ว่า

เวลาประมาณ 06.00 น.วันเกิดเหตุ กองกำลังผาเมืองได้รับรายงานว่ามีเรือสินค้าสัญชาติจีน 2 ลำ ถูกกองกำลังไม่ทราบฝ่ายปล้นและพยายามควบคุมเรือในแม่น้ำโขง บริเวณระหว่างเขตบ้านสามพู จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า กับบ้านหลวงสินใจ สปป.ลาว ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำไปทางทิศเหนือประมาณ 25 กิโลเมตร จึงสั่งการให้ นรข.เขตเชียงราย พร้อมกำลังเตรียมให้การช่วยเหลือ

เวลาประมาณ 10.30 น.ได้พบเรือดังกล่าวแล่นเข้ามาในบริเวณเกาะดอนซาว ในเขตประเทศลาว และถูกกองกำลังไม่ทราบฝ่ายใช้อาวุธยิงเรือทั้ง 2 ลำ ทำให้เรือเลื่อนไหลเข้ามาในน่านน้ำไทย กองกำลังไม่ทราบฝ่ายหนีลงเรือเร็วหลบหนีขึ้นไปทางทิศเหนือของสามเหลี่ยมทองคำ

ต่อมาหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำลังผาเมืองเข้าช่วยเหลือ พบศพผู้เสียชีวิตบนเรือ 1 คนพร้อมปืนอาร์ก้า และยาบ้าในเรือบรรทุกกระเทียม 520,000 เม็ด กับยาบ้า 4 แสนเม็ดในเรือบรรทุกน้ำมัน

พล.ต.ปราการ และเจ้าหน้าที่ที่กี่ยวข้องแถลงว่า เหตุดังกล่าวเกิดจากกองกำลังติดอาวุธ คาดว่าเป็นกลุ่มนายจายหน่อคำ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “หน่อคำ” ได้ปล้นเรือสินค้าแล้วนำยาเสพติดมากับเรือที่จะนำเข้าไทย จนเจ้าหน้าที่ไทยรู้เรื่องจึงเข้าควบคุมเรือ พบผู้เสียชีวิตและยาบ้าซุกซ่อนในเรือดังกล่าว

แต่หลังจากนั้นจึงได้มีผู้พบศพลูกเรือจีนทยอยโผล่ขึ้นมาในแม่น้ำโขง และเข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นำมาซึ่งคำถามที่ดูเหมือนจะไร้คำตอบจนถึงทุกวันนี้ว่า ใครสั่งฆ่า !?
กำลังโหลดความคิดเห็น