ผ่าประเด็นร้อน
ความเคลื่อนไหวของนักวิชาการกลุ่มหนึ่งที่ริเริ่มโดย ณรงค์ เพชรประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ขอความร่วมมือจากสภาทนายความเพื่อรวบรวมประเด็นหาช่องทางฟ้องร้องเอาผิดและค่าเสียหายจากรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐ ฐานทำให้เกิดความเสียหายพินาศย่อยยับจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น โดยพวกเขามองว่านี่ไม่ใช่เหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ผิดวิสัย แต่เกิดจากการบริหารจัดการที่ห่วยแตก ขาดความรับผิดชอบ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
เมื่อเป็นแบบนี้ก็ต้องฟ้องร้อง เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบ และมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่าใคร และหน่วยงานใดกันแน่ที่เป็นต้นตอทำให้เกิดความเสียหายจนพินาศย่อยยับ โดยจะมีการเริ่มประชุมหารือและรวบรวมประเด็นฟ้องร้องกันในวันจันทร์ที่ 14 พฤศิจกายนนี้
อย่างไรก็ดีกลายเป็นว่าความเคลื่อนไหวและการริเริ่มของนักวิชาการดังกล่าวกลับทำให้มีประชาชนจำนวนมีความสนใจและเห็นด้วยที่จะมีการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานรัฐ ตั้งแต่ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรลงมา ทำให้การฟ้องร้องที่กำลังจะเกิดขึ้นกลายเป็น “ประเด็นสาธารณะ” ขึ้นมาทันที มีการคาดหมายกันว่าน่าจะมีคนเข้าร่วมลงชื่อฟ้องนับหมื่นคนเลยทีเดียว
สำหรับบุคคลและหน่วยงานที่คาดหมายว่าจะต้องถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย นอกเหนือจาก นายกฯยิ่งลักษณ์ แล้ว มี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธีระ วงศ์สมุทร กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสพอุทกภัย (ศปภ.) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นต้น
แม้ว่าอาจเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ไปจนกระทั่งรู้ผลมีคำพิพากษาออกมาต้องใช้เวลานาน รวมไปถึงความเป็นไปได้สำหรับการชนะคดีก็ตาม แต่ความหมายก็คือ มันเป็นการประจานรัฐบาล เป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ และคนในรัฐบาลที่เกี่ยวข้องมัน “ห่วย” อย่างไร และหากมีชาวบ้านลงชื่อท้ายคำฟ้องเป็นจำนวนมาก มันก็ยิ่งเป็นการทำลายเครดิตมากยิ่งไปอีก
ที่ต้องบอกว่าความเคลื่อนไหวที่กำลังเกิดขึ้นรับรองว่าสร้างแรงสั่นสะเทือนกับรัฐบาล เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความไม่เอาไหนของผู้นำที่เวลานี้มีการสรุปแทบจะทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า ไม่มีสติปัญญา ไม่มีความพร้อม ไม่มีแท้กระทั่งความรู้รอบตัวในเรื่องง่ายๆ ไม่เหมาะที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้เลย
แน่นอนว่าเมื่อมีความรู้สึกดังกล่าวเกิดขึ้น มันก็ย่อมกระทบไปถึง “การใหญ่” ในวันข้างหน้าของคนที่บงการ ชักใยอยู่ข้างหลังนั่นคือ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นพี่ชาย เพราะการเกิดขึ้นของรัฐบาลและจำนวน ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยล้วนมาจากเขาทั้งสิ้น เมื่อน้องสาวของเขาทำผลงานแบบ “ไร้มาตรฐาน” มันก็สะท้อนกลับไปถึงตัวเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ระยะเวลาเพียงแค่สองสามเดือนเท่านั้นยังทำลายเครดิต ทำลายความเชื่อมั่นของ นายกฯยิ่งลักษณ์ ลงแทบไม่เห็นเค้าลางเดิม ผิดเพี้ยนไปจากเมื่อตอนที่ชนะเลือกตั้งและรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใหม่ๆ แม้ว่าหากพิจารณากันตามความเป็นจริงก็ต้องยอมรับว่าความนิยมชมชอบในตัวเธอก็ยังมีสูงไม่น้อย ซึ่งเป็นความชอบแบบหลง จากภาพภายนอก จากข้อมูลกรอกหูด้านเดียว แต่เมื่อเทียบกันแล้วตั้งแต่ต้นรับรองว่าลดลงอย่างฮวบฮาบ มีทั้งผิดหวัง ตาสว่าง หลากหลายอารมณ์ระคนกันไป
เพราะจากการบริหารจัดการที่ไม่เอาไหน จนเกิดความสับสนอลหม่าน ทำให้ย่อมมองเห็นอนาคตที่จะต้องเกิดขึ้นว่าจะหนักหนาสาหัสกว่านี้หลายเท่า เช่น ตกงาน ข้าวของแพง การปล้นสะดมภ์ มองไม่เห็นอนาคต มันก็ย่อมเกิดความเครียด และส่งผลกระทบทางการเมือง โดยเฉพาะกระทบต่อคนที่อยู่ข้างหลัง ก็คือ ทักษิณ ชินวัตร
การที่ ยิ่งลักษณ์ น้องสาวทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง ไม่มีความรู้ในการบริหาร มันก็ย่อมส่งผลกลายเป็นแรงกระแทกย้อนกลับไปหา ทักษิณ ที่เป็นต้นเหตุ เนื่องจากต้องรับผิดชอบเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวนายกรัฐมนตรีลงมาจนถึงรัฐมนตรีที่สังคมรับรู้ว่าเขาเป็นคนคัดเลือก หรือเห็นชอบทุกคน ทำให้เครดิตติดลบตามไปด้วย เพราะการบริหารของน้องสาวและพรรคพรรคเพื่อไทยไม่สามารถสร้างความสุขให้กับคนไทยได้ตามที่คุยโม้เอาไว้ ทำเพื่อส่วนรวมไม่ได้ ก็ย่อมส่งผลต่อภารกิจซ่อนเร้นส่วนตัวทำได้ยาก เพราะจะถูกจับจ้อง ต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่เป็นปรอทวัดให้เห็นอีกอย่างหนึ่งว่า ความเชื่อมั่นต่อ ยิ่งลักษณ์ ลดลงฮวบฮาบได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ การออกมาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการเรียกร้องให้ เธอ ลาออกในตอนนี้ของ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งหากมองในทางการเมืองไม่ใช่เป็นเพราะเห็นอกเห็นใจแต่อย่างใดไม่ แต่ประเมินแล้วมองทะลุว่าต้องปล่อยให้ ประจานตัวเองไปเรื่อยๆ เหมือนกับ “นวดให้น่วม” จนหมดสภาพเสียก่อน แล้วค่อยมาแข่งขันกันในสนามเลือกตั้งกันใหม่ เพราะถึงเวลานั้น “ทักษิณ คิดเพื่อไทยทำ” จะไร้ความหมาย
แต่หากพิจารณาในเรื่องเฉพาะหน้าการเคลื่อนไหวรุมฟ้องของภาคประชาชน และนักวิชาการที่พุ่งเป้าไปที่ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่กำลังจะเกิดขึ้น มันจะส่งผลสะเทือนไปไกลอย่างแน่นอน !!
