xs
xsm
sm
md
lg

ปูทางทักษิณยึดประเทศไทย เขียนรธน.ใหม่ "ฉบับยาพิษ"

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง


การแก้ไขชำเรารัฐธรรมนูญ 2550 เดินหน้าไม่มียั้ง ตามปฏิทินการเมืองที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและรัฐบาลพรรคเพื่อไทยวางไว้ คือทุกอย่างห้ามรอช้า ให้รีบเร่งดำเนินการ เพื่อให้เป็นไปตามแผนการเมืองที่วางไว้

นั่นคือ การออกกติกาภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มากขึ้น- ปิดกั้นระบบตรวจสอบและกลไกที่จะมาทำลายล้างอำนาจรัฐบาลได้จากฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรอิสระ-ศาล

ขณะเดียวกันก็ต้องทำให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นอาวุธในการทำลายความเข้มแข็งของฝ่ายปฏิปักษ์ที่จ้องเล่นงานรัฐบาลได้ทุกเมื่อ เช่นการยุบหรือรอนอำนาจของ ป.ป.ช.-วุฒิสภา-ศาลรัฐธรรมนูญ-ศาลปกครอง

ส่วนประเด็นซ่อนเร้น ที่จะอยู่ในรัฐธรรมนูญ เพื่อช่วยทักษิณ ชินวัตร ให้กลับประเทศไทยและพ้นผิดทุกคดีความ รวมถึงล้างผิดคนในเครือข่ายสายรัฐบาลและเพื่อไทย อาทิแกนนำเสื้อแดง-แกนนำเพื่อไทย ที่มีปัญหาการเมืองค้างคาอยู่เช่นคดีความต่างๆ ทั้งคดีอาญาและคดีการเมืองก็ต้องเขียนไว้ในรธน.ฉบับใหม่แบบให้เนียนมากที่สุด เพื่อป้องกันแรงต่อต้านในการจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ

“ทีมข่าวการเมืองASTVผู้จัดการ”ของชี้ว่า นับจากนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นโหมดสำคัญการเมืองตลอดทั้งปี 2555 ที่เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งทุกฝ่ายต้องจับตามองและให้ความสำคัญอย่างแท้จริง
“เรา-ทีมข่าวการเมือง”ขอเรียกร้องให้ประชาชนทุกภาคส่วนช่วยกันติดตามสอดส่อง กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนับจากนี้โดยพร้อมเพรียง อย่าได้ละวางเรื่องนี้เป็นอันขาด เพราะรัฐธรรมนูญคือกติกาสูงสุดทางการเมือง ที่หากนักการเมือง-พรรคการเมือง คิดจะวางฐานอำนาจเพื่อแสวงหาประโยชน์แบบไม่รู้จักอิ่ม ให้ตรวจสอบไม่ได้ หรือเอาผิดได้ยาก และอยู่ในตำแหน่งได้ยาวนาน

สิ่งสำคัญที่นักการเมือง-พรรคการเมืองจะทำก็คือ ต้องทำให้รัฐธรรมนูญออกมาแล้วฝ่ายตัวเองได้เปรียบมากที่สุด ด้วยเหตุนี้ “เรา-ทีมข่าวการเมือง”ถึงได้บอกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญคือวาระแห่งชาติที่ทุกคนต้องร่วมกันติดตามกระบวนการนี้ทุกแง่มุม และหากสุดท้ายเมื่อถึงจุดที่เราเห็นว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นรัฐธรรมนูญที่ออกมาเพื่อประโยชน์ของคนๆเดียวอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร”หรือเพื่อพรรคการเมืองบางพรรคเช่น พรรคเพื่อไทย

ถึงตอนนั้น ประชาชนทุกคนก็ต้องออกมาแสดงพลังในการคัดค้าน ต่อต้านไม่ให้รัฐธรรมนูญที่จะออกมาแล้ว ทำให้ประเทศถอยหลังลงคลองมีผลบังคับใช้ได้

เพราะตอนนี้ถือว่าก้าวแรกของการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านไปแล้ว หลังรัฐสภาได้มีการพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ. 2550 ในมาตรา 291 ระหว่างการประชุมรัฐสภาเมื่อ 23-24 กุมภาพันธ์ 2555

หากทุกอย่างเดินไปตามที่ฝ่ายรัฐบาลวางไว้ ปลายปี 2555 ก็อาจได้เห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ออกมาจากสภาเพื่อไทย ภายใต้เงากำกับจากชายที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร

ที่ทั้งเพื่อไทยและทักษิณจะคอยกำกับฉากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกือบทุกขั้นตอน แม้กระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นอำนาจของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อดูจากฐานเสียง-คะแนนเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาทั่วประเทศ ทั้งระบบเขตและระบบปาร์ตี้ลิสต์ -การเริ่มเตรียมคนลงสมัครเป็นส.ส.ร.จังหวัดของเครือข่ายเพื่อไทยและคนเสื้อแดงทั่วประเทศ จึงเชื่อได้ว่าส.ส.ร.จังหวัดจะมีคนในสายเพื่อไทย-พรรคร่วมรัฐบาลอยู่มากที่สุดในจำนวน 77 คน

นอกจากนี้ ด้วยจำนวนเสียงของส.ส.รัฐบาลบวกกับสมาชิกวุฒิสภาที่เห็นด้วยกับรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รวมกันแล้วมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนเสียงสมาชิกรัฐสภา ก็ทำให้ฝ่ายรัฐบาลกุมความได้เปรียบในการจะเลือกส.ส.ร.สายผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 22 คน ตามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งของรัฐบาลและเพื่อไทยที่จะเป็นร่างหลักในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

แม้รายชื่อเบื้องต้นของโผส.ส.ร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 22 คนจะมาจากสถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งส่งชื่อไปให้รัฐสภาพิจารณาคัดเลือก แต่ฝ่ายรัฐบาลที่มีเสียงส.ว.อยู่ในมือด้วยจนเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา ก็ต้องมี “โผส.ส.ร.”ชี้นำกำกับออกมาอยู่แล้ว ก่อนเลือกว่าจะเอาใครมามาเป็นส.ส.ร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 22 คน ที่ส่วนใหญ่ส.ส.ร.กลุ่มนี้ก็จะเข้าไปเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญตัวหลัก การเลือกส.ส.ร.ผู้ทรงคุณวุฒิ โผส่วนใหญ่ก็จะมาจากสายรัฐบาลเป็นส่วนมาก ดังนั้น

เมื่อเป็นดังนี้ ก็ทำให้ฝ่ายรัฐบาลคุมเสียงส่วนใหญ่ในสภาร่างรัฐธรรมนูญ 99 คน ที่จะสั่งการให้ยกร่างรัฐธรรมนูญออกมาอย่างที่ฝ่ายตัวเองต้องการ อย่างไรก็ได้

ด้วยเหตุนี้ ที่หลายฝายทั้งฝ่ายค้าน-สว.-นักวิชาการ-นักกฎหมาย-กลุ่งองค์กรเคลื่อนไหวการเมืองภาคประชาชนนอกรัฐสภาที่ทรงพลังอย่าง “กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” เห็นตรงกันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้ มีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีเพียงคนกลุ่มเดียวได้ประโยชน์คือนักการเมือง ไม่ใช่ประชาชน ไม่ใช่ประเทศชาติ เพราะนักการเมืองจะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อทำให้ตัวเองมีอำนาจมากขึ้น ถูกตรวจสอบลำบากขึ้น ลงจากอำนาจได้ยากขึ้น จึงย่อมเป็นเรื่องจริงแน่นอน

เข้าข่ายภาษิตกฎหมายที่ว่า ชนชั้นใดยกร่างออกกฎหมาย กฎหมายที่จะออกมาก็เพื่อประโยชน์ของชนชั้นนั้น

การแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้ “เรา-ทีมข่าวการเมือง”จึงเห็นว่า นักการเมือง-พรรคการเมืองไหน ยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือแก้ไขกฎหมาย โดยแอบอ้างประชาชน -ประชาธิปไตย แต่จริงๆแล้ว ก็เป็นการทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก

เรื่องนี้จึงต้องจับตาดูกันให้ดี ว่าการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะเกิดขึ้น จะมีการกระทำการใดๆ เพื่อหาทางเปิดช่องช่วยเหลือทักษิณ ชินวัตร ผ่านรัฐธรรมนูญหรือไม่

เช่น ปัจจุบันรัฐธรรมนูญปี 2550 มีบทบัญญัติมาตรา 102 เรื่องบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร โดยมีการระบุไว้ใน 102(7) ว่าให้รวมถึงผู้เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ หากส.ส.ร.หรือกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เขียนรัฐธรรมนูญโดยลดสเปกของผู้มีสิทธิลงเลือกตั้งดังกล่าว เพียงแค่ไม่มีข้อห้ามนี้เอาไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยที่คนติดตามกันไม่ทันเพราะเป็นรายละเอียดปลีกย่อย

แค่นี้ ก็เปิดประตูให้ทักษิณสามารถกลับมาลงสมัครส.ส.ได้แล้วในอนาคต เพราะหากยังคงคุณสมบัติต้องห้ามนี้อยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทักษิณก็ลงสมัครส.ส.เพื่อกลับมาเล่นการเมืองมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือมาเป็นส.ส.ในสภาคุมลูกพรรคเพื่อไทยเต็มตัวไม่ได้ เพราะมีชนักติดหลังคดียึดทรัพย์อยู่

หรือจะเขียนบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มาตราใดมาตราหนึ่ง ด้วยข้อความสั้นๆ แต่เปิดช่องให้นำไปใช้ประโยชน์ทางการเมืองกับทักษิณหรือคนในเครือข่าย อาทิเช่นบัญญัติให้คดีความการเมืองที่เกิดขึ้นก่อนการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือก่อนมีรัฐธรรมนูญปี 2550 เป็นโมฆะ ถูกล้มล้างไปทั้งหมดเสมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ตามข้อเสนอของคณะนิติราษฏร์

แค่นี้ ทักษิณก็ได้กลับประเทศไทยแล้วเพราะคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ที่ทักษิณถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯตัดสินจำคุกสองปี แม้จะสิ้นสุดแล้วและเป็นคดีอาญาเช่นเดียวกับคดีอีกหลายคดีของทักษิณที่ค้างคาอยู่ในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ -ศาลอาญา แต่ก็สามารถเล่นแง่ให้คดีเหล่านั้นถือเป็นคดีการเมืองได้ไม่ยาก เพราะต้นกำเนิดมาจากการสอบสวนดำเนินคดีหลังการทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

ด้วยเหตุนี้ “เรา-ทีมข่าวการเมือง”ถึงบอกว่าต้องติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้ให้ดีว่ามีอะไรหมกเม็ดซ่อนเร้นทางการเมืองจริงไหม จะเป็นอย่างที่พันธมิตรฯบอกไว้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้แท้ที่จริงก็คือนิติกรรมอำพรางเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญยึดอำนาจประเทศไทยหรือไม่ ที่สำคัญอย่าคิดว่าทักษิณจะไม่หาประโยชน์จากการแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้เด็ดขาด

กระแสคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้ ต้องยอมรับว่ายังอ่อนแรงอยู่ ขณะนี้มีที่ประกาศตัวยืนหยัดคัดค้านและจับตามองการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างจริงจังก็แค่ไม่กี่กลุ่ม แต่ก็ยังดีกว่าที่จะไม่มีใครคิดทำอะไร และควรต้องให้กำลังใจกันไป

ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักวิชาการอย่าง “สยามประชาภิวัฒน์”ที่มีจุดยืนชัดเจนคือมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้จะเกิดขึ้นเพื่อตอบแทนนักการเมืองและกลุ่มทุนผลประโยชน์การเมืองเท่านั้น ไม่ใช่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อปฏิรูปการเมืองให้ดีขึ้น

หรือกลุ่มภาคประชาชน “กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย”ที่ประกาศจุดยืนชัดแจ้งว่ารู้เท่าทันการแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้ว่าทำเพื่อใคร และใครจะได้ประโยชน์ โดยพร้อมจะออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทุกเมื่อในอนาคตเมื่อเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นรัฐธรรมนูญ “ฉบับยาพิษ”ที่จะทำร้ายประเทศไทย

หากวันนั้นมาถึง เมื่อถึงเวลา ก็ขอให้ประชาชนอย่าได้รอช้าในการออกมาแสดงพลังเพื่อบอกไปยังนักการเมือง-พรรคการเมือง-สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญว่า พวกเรารู้ทัน และเราจะไม่ยอมให้รัฐธรรมนูญถูกทำคลอดออกมาเพื่อประโยชน์ของคนไม่กี่คนอย่างที่พวกนักการเมืองกำลังวางแผนกันตอนนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น