xs
xsm
sm
md
lg

“เอาแน่” ชำเรารัฐธรรมนูญ หาช่องช่วยทักษิณ ตั้งส.ส.ร.ร่างทรง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
เป็นที่ชัดเจนระดับหนึ่งแล้วว่า เอาแน่กับการเดินหน้าชำเรารัฐธรรมนูญ 2550 ของรัฐบาลเพื่อไทย

กรอบเบื้องต้นประกาศออกมาแล้วว่า จะทำให้เสร็จในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยประชุมนี้ที่เพิ่งเปิดสภาฯไปเมื่อ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา และกว่าจะปิดสภาฯก็ 18 เมษายน 2555

แม้รูปแบบการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่ได้ข้อยุติ จะดำเนินการแบบไหน จะแก้ไข “ทั้งฉบับ”ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญไปยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ

หรือแก้ไขเพียง “บางมาตรา”ที่เห็นว่าทำให้นักการเมือง-พรรคการเมือง-รัฐบาลเพื่อไทย ไม่สามารถใช้อำนาจได้อย่างเต็มที่ ถูกตรวจสอบได้ง่าย ซึ่งเป็นวิธีการที่รวดเร็วกว่าการจะไปใช้วิธีสรรหาและคัดเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือสสร.3

อย่างไรก็ตาม เสียงส่วนใหญ่ในพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ระดับรัฐมนตรีจนถึงส.ส. พบว่า หนุนแนวทางให้แก้ 291 มากกว่า และมีแนวโน้มจะออกมาแนวทางนี้แน่นอนแล้ว

โดยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว จะมีทั้งร่างของรัฐบาลและร่างของส.ส.พรรคเพื่อไทยที่จะเป็นผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าไปประกบในรัฐสภาพร้อมกัน

แม้จะมีส.ส.เพื่อไทยบางส่วนจะไม่เห็นด้วยเช่นส.ส.เสื้อแดงบางคน เพราะมองว่าใช้เวลานานเกินไป แต่ดูเหมือนเสียงไม่เห็นด้วยจะดังน้อยกว่าเสียงเห็นด้วย เห็นได้จากมติวิปรัฐบาลที่ไม่ใช่แค่คนจากพรรคเพื่อไทย แต่เป็นวิปของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างชาติไทยพัฒนา-ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน-พลังชล ต่างก็เห็นด้วยว่า หากจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ควรต้องแก้ไขมาตรา 291 เพื่อให้มีส.ร.ร. 3

เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านการทะลวงม. 291 จะมีโอกาสสำเร็จมากกว่า เป็นกระบวนการที่เพื่อไทยมองว่าได้แรงหนุนมาก เป็นการดึงประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมด้วยในการแก้รัฐธรรมนูญผ่านการคัดเลือกสสร.จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงการทำประชามติหลังมีการยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว

จึงเป็นการลดแรงต้านจากกลุ่มต่างๆ ที่จะออกมาคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยจะโยนเรื่องนี้ออกไปจากตัวได้ว่าเป็นการแก้ไขรธน.ที่ทุกขั้นตอนยึดโยงกับอำนาจของประชาชน

หากกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญหรือสภาร่างรัฐธรรมนูญจะเขียนรัฐธรรมนูญที่เข้าทางที่พรรคเพื่อไทยต้องการซึ่งประกาศมาตลอด เช่นลดอำนาจองค์กรอิสระ-เพิ่มอำนาจฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ เพื่อให้นักการเมืองถูกตรวจสอบถอดถอนได้ยากมากขึ้น -แก้รัฐธรรมนูญโดยตัดเรื่องการยุบพรรคการเมืองและตัดสิทธิการเมืองห้าปีกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคออกไป หรือการยกเลิกมาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญปี 50 แล้วเขียนบทเฉพาะกาลใหม่เพื่อเปิดช่องล้างผิดนิรโทษกรรมให้ทักษิณ ชินวัตร

เป้าของนักการเมือง-พรรคการเมือง ต่างหวังจะให้เขียนออกมาในโทนนี้ หากอนาคตเมื่อมีการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญออกมาในโมเดลนี้ รัฐบาลเพื่อไทย ก็จะอ้างได้ว่าไม่รู้ไม่เห็น ทั้งหมดเป็นเรื่องของส.ส.ร.และสภาร่างรัฐธรรมนูญเป็นคนทำทั้งหมด

เมื่อได้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจากร่างทรงส.ส.ร.ออกมา เพื่อไทยจะยืนกระต่ายขาเดียวบอกว่า หากไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญที่จะออกมาแล้วเอื้อประโยชน์ให้รัฐบาลและทักษิณ เวลาจะทำประชามติก็ให้โหวตคว่ำไป แต่หากเสียงส่วนใหญ่เอาด้วย ก็ต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่ เมื่อผลออกมาแล้ว ก็ต้องยอมรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้น

ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนข้างต้น แรงต้านก็จะมีน้อย

พวกเพื่อไทยที่หนุนแนวทางส.ส.ร. 3 จึงเห็นว่าควรใช้รูปแบบนี้ดีกว่าที่จะไปแก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ที่แม้มีข้อดีคือใช้เวลาไม่นานและตรงจุดไปเลยว่าต้องการแก้มาตราไหน

แต่ข้อเสียคือ คนจะมองว่ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่คิดจะทำอะไรนอกจากจะแก้รัฐธรรมนูญและหาช่องทางช่วยทักษิณ รวมถึงแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองอย่างเดียว ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร

ทำให้เสียงส่วนใหญ่ในเพื่อไทยหนุนการชำเรารัฐธรรมนูญทั้งฉบับผ่านมาตรา 291 มากกว่า

ทั้งที่โดยข้อเท็จจริงก็รู้กันดีอยู่ว่า แม้ต่อให้ส.ส.ร.และกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญมีที่มาโดยให้ปลอดจากพรรคการเมืองและนักการเมือง แต่คนที่จะเข้าไปเป็นส.ส.ร.หรือกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญได้ก็ต้องมีที่มาที่ไปทั้งสิ้น

เช่นหากจะเขียนให้ที่มาของส.ส.ร.จังหวัด มาจากการให้ผู้สนใจอยากเป็นส.ส.ร.จังหวัดไปสมัครแล้วคัดเลือกกันเอง ถ้าใช้โมเดลนี้ก็มีโอกาส “ไม่น้อย”ที่จะมีกระบวนการฮั้วหรือล็อบบี้กันในจังหวัดเพื่อเลือกส.ส.ร. โดยมีนักการเมืองในพื้นที่เข้าไปเกี่ยวข้องเกิดขึ้น

ในความเป็นจริง ส.ส.ร.จังหวัดแม้จะออกแบบให้พยายามปลอดจากการเมือง แต่ในทางปฏิบัติก็ทำได้ยาก

อีกทั้งยากที่จะไม่มีการล็อบบี้กันเกิดขึ้นเพื่อให้ยกร่างรัฐธรรมนูญออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ดูอย่างรัฐธรรมนูญปี 50 ก็เห็นกันอยู่ว่าบางมาตรา

เช่น มาตรา 309 ก็เป็นการยกร่างขึ้นมาเพื่อไม่ให้มีการเช็คบิลย้อนหลังกลุ่มคมช.ที่ทำรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 โดยทั้งกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญและสภาร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกทำคลอดโดยคมช.ก็เขียนมาตรานี้ออกมาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้คมช.

แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่า หากมีการตั้งส.ส.ร.3 แล้ว จะไม่มีการซิกแซ็กลักไก่ช่วยเหลือทักษิณ ชินวัตร เกิดขึ้น โดยที่รัฐบาลเพื่อไทย ก็จะต้องลอยตัวอ้างว่าไม่เกี่ยวข้อง

เพราะเรื่องหลอกให้งง ปล่อยให้ตายใจ แล้วลักไก่หาประโยชน์การเมือง เป็นเรื่องที่ทักษิณ ชินวัตรและพวกเพื่อไทยดูจะถนัดอยู่แล้ว การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็มีโอกาสสูงยิ่งจะเกิดการลักไก่ช่วยนายใหญ่ขึ้นได้

ดูได้จากพฤติกรรมอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ของพวกส.ส.เพื่อไทยอย่าง นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ แกนนำนปช.ปากน้ำ ที่บอกหลังการประชุมส.ส.เพื่อไทยเมื่อ 20 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ต้องแก้รัฐธรรมนูญให้เสร็จโดยเร็วเพื่อจะได้เป็นการช่วยเหลือทักษิณอีกทางหนึ่ง

“ท่านทักษิณไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ทุจริตคอรัปชั่นไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย แล้วทำไมจะหาช่องทางนิรโทษให้ท่านกลับมาไม่ได้ แต่ต้องเข้าใจว่าวันนี้ส.ส.ส่วนใหญ่ในพรรคมองกันว่าการออกกฎหมายนิรโทษกรรมทำได้ยาก หากจะทำให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม มีการปรองดอง ก็ควรมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญดีกว่าแม้จะใช้เวลานาน อาจต้องใช้เงินจำนวนมากในการทำประชาพิจารณ์ แต่การแก้รัฐธรรมนูญเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองก็ดีกว่าจะไปออกกฎหมายนิรโทษกรรม

ถ้าจะทำก็ต้องรีบทำแล้ว ช้าไม่ได้ เพราะเป็นนโยบายที่พรรคหาเสียงไว้ในการเลือกตั้งแล้วประชาชนก็เลือกเรามาด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่งอีกทั้งตอนแถลงนโยบายรัฐบาลก็มีการเขียนเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเอาไว้ว่าจะทำภายในหนึ่งปี ไม่ต้องไปสนใจหรอกแรงต้าน พวกจะออกมาก่อม็อบคัดค้าน ไปกลัวอะไร คนเขาเลือกเพื่อไทยกันมาสิบกว่าล้านคนก็แสดงว่าที่พรรคบอกไว้ตั้งแต่สมัยเป็นฝายค้านกับตอนหาเสียงคนเขาเห็นด้วย

เราบอกมาตลอดเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนหาเสียง วันนี้ส.ส.เพื่อไทยลงพื้นที่ไปไหน ประชาชนก็ถามแต่ว่าทำไมที่หาเสียงไว้เรื่องแก้รัฐธรรมนูญไม่ทำสักที หากไม่รีบทำช้าไปจะไม่ทันเหมือนกับสมัยท่านสมัคร สุนทรเวช ท่านสมชาย วงศ์สวัสดิ์ที่กว่าจะตั้งหลักได้ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญก็สายไปแล้ว “

อาการชักเขาชักออก กลับไปกลับมาของพรรคเพื่อไทยในเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเดี๋ยวก็บอกพักไว้ก่อนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ-ออกกฎหมายนิรโทษกรรม ต่อมาอีกแค่สัปดาห์เดียว บอกว่าจะเดินหน้าทำแน่นอน แต่ยังไม่รู้จะทำเมื่อไหร่ ข้ามมาอีกวันบอกต้องนำร่องยื่นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จภายในสมัยประชุมสภาฯรอบนี้

อย่างไรก็ตาม ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ ไม่แน่ว่าสัปดาห์หน้าอาจจะเปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่ง แล้วอ้างว่าพรรคยังไม่ตกผลึก คุยกันยังไม่ได้ข้อยุติเป็นมติพรรค ยังไม่มีการโหวต ที่บอกว่าควรให้แก้รัฐธรรมนูญอย่างวิปรัฐบาลเป็นเรื่องความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรคและรัฐบาล แล้วก็ชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไป

อาการเอาแน่เอานอนไม่ได้ทั้งหลายทั้งปวงนี้ “ทีมข่าวการเมืองASTVผู้จัดการ”เห็นว่ามันคือแผนของทักษิณ ชินวัตรในการหยั่งกระแสคนในพรรคและกระแสสังคมในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงหากจะใช้วิธีการอื่นๆ เพื่อกลับประเทศ อาทิการออกกฎหมายนิรโทษกรรม จะดีกว่าหรือไม่ ก่อนที่จะสรุปสุดท้ายว่าจะเอาอย่างไรในช่วงหลังปีใหม่เป็นต้นไป

แต่ดูแล้ว ฟันธงได้เลยว่า เพื่อไทยและยิ่งลักษณ์ “เอาแน่” เพียงแต่จะทำเมื่อไหร่ ต้องรอ ทักษิณ บัญชาการข้ามประเทศมาอีกที
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ทักษิณ ชินวัตร
กำลังโหลดความคิดเห็น