xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กบัง” ปรองดองกับใคร รับงาน “ทักษิณ” หรือเปล่า?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน
เป็นฝ่ายค้านมาร่วม 4 เดือน บทบาทของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิและอดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่เคยเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในประเทศไทยหลัง 19 กันยายน 2549

เห็นเลยว่าเงียบเชียบอย่างมาก พล.อ.สนธิไม่ได้แสดงบทบาททางการเมืองในภารกิจด้านนิติบัญญัติเลย บางคนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า พล.อ.สนธิ เป็ นส.ส.และมีพรรคมาตุภูมิอยู่ในสภาฯ

และยิ่งดูน่าแปลกใจเข้าไปอีก เมื่อ พล.อ.สนธิงดออกเสียงไม่ไว้วางใจในการลงมติในญัตติที่ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม และในฐานะผอ.ศปภ.เมื่อเช้าวันจันทร์ (28 พ.ย.) ที่ผ่านมา ทั้งที่อยู่ในซีกฝ่ายค้าน การแสดงจุดยืนของ “บิ๊กบัง” ครั้งนี้ย่อมเป็นที่กังขาคาใจของสังคมไม่ใช่น้อย

ความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ของอดีตประธาน คมช.กลับมาเป็นที่สนใจอีกคราเมื่อ พล.อ.สนธิ ยื่นญัตติโดยมี ส.ส.เพื่อไทยจำนวนมากเซ็นรับรอง นั่นคือ

ญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ

โดย พล.อ.สนธิให้เหตุผลวันเสนอญัตติดังกล่าวต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า เพราะตนคือส่วนหนึ่งของปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองไทย จึงต้องการขอมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอันนี้

เบื้องต้นกรรมาธิการชุดนี้ซึ่งมีพลเอกสนธิเป็นประธานบอกว่าจะยึดแนวทางการเมืองที่นักวิชาการจากสถาบันพระปกเกล้าเคยเสนอไว้รวมถึงข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ชุดนายคณิต ณ นคร ที่เคยเสนอให้ควรยุติคดีเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองทั้งคดีเสื้อเหลืองและเสื้อแดง รวมถึงเสนอให้ปล่อยนักโทษคดีการเมืองหลัง 19 ก.ย. 2549 ซึ่งแม้คอป.จะไม่แตะคดีทุจริตของทักษิณ ชินวัตร แต่ก็ถูกวิจารณ์อย่างมากว่าแนวทางของคอป.เข้าทางรัฐบาลเพื่อไทยและคนเสื้อแดง

โดยกรรมาธิการชุดสร้างความปรองดองของสภาฯ หลังจากนี้ก็คงจะมีการเชิญบุคคลจากกลุ่มต่างๆที่เป็นคู่ขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงตัวแทนกลุ่มต่างๆ มาร่วมประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็น ที่แน่นอนว่าต้องมีประเภทแกนนำ นปช.-นักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์-กรรมการใน คอป.มาประชุมด้วยแน่นอน

ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่า การทำงานของกมธ.ชุดนี้จะออกมาอย่างไร จะมีข้อเสนอแบบไหน และจะเป็นรูปธรรมมากน้อยประการใด เพราะต้องรอให้มีการทำงานไปสักระยะหนึ่งก่อน และมีข้อเสนออย่างเป็นทางการออกมา ซึ่งไม่รู้ว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อใด และจะเข้าทางกับฝ่ายไหน

แม้กรรมาธิการจะมีคนจากซีกเสื้อแดงเข้าไปอยู่หลายคน เช่น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.- น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล บุตรสาว พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผลหรือเสธ.แดง แต่ก็มีกรรมาธิการจากซีกฝายค้านและสายข้าราชการอย่างพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ-อดีต ผบ.ตร.ร่วมอยู่ด้วย เชื่อว่ากว่าจะได้ข้อสรุปใด ๆออกมาคงต้องถกเถียงกันพอสมควร

หลังมีการโยนหินถามทางมาจากกรรมาธิการบางคนที่ยังไม่ทันจะทำงานอะไรก็รีบบอกแล้วว่าแนวทางที่สรุปออกมาอาจเสนอให้มีการปลดล็อกการเมืองด้วยการนิรโทษกรรมการเมืองคดีการเมืองทั้งหมดหลัง 19 ก.ย.49

ดูแล้วจะเห็นได้ว่า เป็นการโยนหินถามทางหวังวัดกระแสสังคมให้จับตามองกรรมาธิการชุดนี้ว่าจะเป็นสะพานสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยหยิบยกไปเป็นเหตุผลในการเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมการเมืองที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับทักษิณ ชินวัตร

ต้องไม่ลืมเด็ดขาดว่า พล.อ.สนธิ คือผู้ทำรัฐประหารทักษิณ ชินวัตร และ “บิ๊กบัง” ก็ใช้อำนาจประธาน คมช.ที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่เป็นคนสอบสวนเอาผิดทักษิณ ชินวัตร จนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินยึดทรัพย์ทักษิณ 4.6 หมื่นล้านบาท และตัดสินจำคุกทักษิณ 2 ปีในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ

และ “บิ๊กบัง” อีกเช่นกันที่เป็นคนเซ็นตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติชุดนี้ที่มีวาระการดำรงตำแหน่งยาวนาน 9 ปี โดยที่ทั้งหมดไม่ได้ผ่านการสรรหาคัดเลือกใดๆ และเป็นกรรมการ ป.ป.ช.ที่กำลังจะยื่นฟ้องทักษิณในศาลฎีกาฯ เพิ่มอีกสองคดีอาญา คือ คดีทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ และคดีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย

แล้วก็เป็น “บิ๊กบัง” อีกเช่นกัน ที่เป็นคนเซ็นออกคำสั่ง คมช.ล้มศาลรัฐธรรมนูญหลัง 19 ก.ย. 49 และออกคำสั่งตั้ง “คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ” ที่ตัดสินคดียุบพรรคไทยรักไทย

รวมถึง พล.อ.สนธิ ยังเป็นคนตั้งกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ในโควตา คมช.อีก 10 คน แล้วก็คมช.นี่แหละที่ล็อบบี้ให้ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญและสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 50 ที่ก็คือผลิตผลของ คมช.เขียนรัฐธรรมนูญมาตรา 309 นิรโทษกรรมการกระทำทุกอย่างของ พล.อ.สนธิและคมช.เอาไว้แล้ว เพื่อไม่ให้ถูกตลบหลัง

ถ้าขนาด พล.อ.สนธิ คนทำรัฐประหารทักษิณด้วยข้ออ้างไม่จงรักภักดี-ทุจริตคอร์รัปชัน-คนตั้ง คตส.และป.ป.ช.ยังประทับตราเอาด้วยกับการปลดล็อกปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ด้วยวิธีการ “นิรโทษกรรม”

ถ้า “บิ๊กบัง” จะเล่นทางนี้ มันก็เข้าทาง เฉลิม อยู่บำรุง และพรรคเพื่อไทยที่จ้องจะหาแรงหนุนออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ทักษิณ แต่พ่วงเอาทุกกลุ่มเช่นคนเสื้อแดงมาบังหน้าให้ได้รับอานิสงส์ไปพร้อมกับนักโทษชายทักษิณที่เป็นเป้าหมายใหญ่ของรัฐบาลเพื่อไทย

เพราะรัฐบาลจะอ้างว่าขนาดอดีตผู้ทำรัฐประหาร คนตั้ง คตส.-ป.ป.ช. ยังเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม มันก็ชอบธรรมแล้วกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมของรัฐบาลที่ประกาศแล้วว่า เอาแน่ ใครไม่เอาก็ตกขบวน

โดยแผนของรัฐบาล มีแนวทางว่า หากผลการศึกษาของกรรมาธิการชุดนี้เห็นด้วยกับการให้ทุกอย่างกลับไปเริ่มต้นใหม่ โดยอ้างเรื่องความปรองดอง แล้วยังมีข้อเสนอของนักวิชาการกลุ่มนิติราษฏร์ที่เสนอให้ลบล้างทุกอย่างหลัง 19 ก.ย.49 ที่จะครอบคลุมไปถึงคำตัดสินของศาลในคดีทักษิณด้วย

แล้วก็ยังมีบันไดอีกหลายตัว ที่เตรียมจะทอดเป็นทางเดินให้รัฐบาลและทักษิณในการใช้เป็นเครื่องมือออกกฎหมายนิรโทษกรรม

เช่น ข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ หรือ คอ.นธ.ที่มีอุกฤษ มงคลนาวิน อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ใกล้ชิดกับทักษิณ อันเป็นกรรมการที่คลอดโดยคำสั่งของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

คาดว่า ข้อเสนอของ คอ.นธ.จะออกมาในช่วงกลางปีหน้าภายใต้การทำงานที่ตั้งธงไว้แล้วว่า จะยึดหลักล้มสองมาตรฐานและสร้างนิติธรรมใหม่ให้กับสังคมไทย อันเป็นเรื่องที่ทักษิณ ปลุกระดมมาตลอด

หากเดาไม่ผิด “คอ.นธ.” แม้จะเขินอายไม่กล้าเสนอถึงขั้นให้ล้มกระดานทุกอย่างแบบเดียวกับกลุ่มนิติราษฏร์แต่ข้อเสนอของกลุ่ม คอ.นธ.ก็น่าจะเข้าทางทักษิณกับรัฐบาลชุดนี้เพื่อเอาไปประทับตราสร้างความชอบธรรมในการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับทักษิณเช่นกัน

แม้ล่าสุด “บิ๊กบัง” ที่ดูเหมือนจะเริ่มถูกสังคมมองด้วยสายตาไม่ไว้ใจกับความเป็นต้นตำรับ “ลับ ลวง พราง” เพราะไม่รู้ว่าการเสนอให้สภาฯ ตั้ง กมธ.ปรองดองฯ ของ “บิ๊กบัง” มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรหรือไม่

ไปรับงานใครมาหรือเปล่า

และจริงหรือไม่กับข่าวลือการเมืองที่ว่าก่อนหน้านี้ “บิ๊กบัง” มีการพูดคุยกับทักษิณและแกนนำพรรคเพื่อไทย จนเป็นคนเสนอให้สภาฯ ตั้ง กมธ.ปรองดอง

จนถึงขนาดที่คณะรัฐมนตรีและวิปรัฐบาลเห็นชอบให้สภาฯ หยิบยกญัตตินี้ของ “บิ๊กบัง” ขึ้นมาพิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วนทั้งที่เพิ่งเสนอไปได้กี่วัน ชนิดแซงหน้าญัตติอื่นๆที่เสียบค้างอยู่หลายเดือน ก่อนที่จะตามด้วยเสียงโหวตสนับสนุนท่วมท้นจาก ส.ส.รัฐบาล

แม้ล่าสุดพลเอกสนธิจะยืนกรานว่า กมธ.ปรองดองชุดนี้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของใคร ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อเสนอที่จะออกกฎหมายเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง หรือเป็นจุดเริ่มต้นออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

แต่ พล.อ.สนธิ ผู้เคยบอกมาตลอดจนกระทั่งวันสุดท้ายก่อน 19 ก.ย.49 ว่าทหารจะไม่ปฏิวัติแต่สุดท้ายก็ปฏิวัติ

ดังนั้น วันนี้บอกว่าไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่ใครจะรู้วันข้างหน้าอาจทำก็ได้ ใช่ไหม

ลับ ลวง พราง ของ “บิ๊กบัง” คงหลอกใครอีกไม่ได้แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น