xs
xsm
sm
md
lg

9 ก.พ.ยื่นแก้รัฐธรรมนูญ ทุกพรรคจ้องเก้าอี้ส.ส.ร.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อุดมเดช รัตนเสถียร
รายงานการเมือง

การเมืองในสภาฯนับจากนี้น่าจับตายิ่ง

ในวันนี้ วิปรัฐบาล นำโดยอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาลจะใช้ฤกษ์ 9 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นฤกษ์เอาชัยยื่นเรื่องร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 291 ต่อสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อประธานสภาฯรับเรื่องไปแล้ว ก็ต้องดูว่าจะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาฯให้พิจารณาเมื่อใด แต่คงไม่ช้า เพราะสมศักดิ์ ฆ้อนปลอมดูไบ ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ส.ส.เพื่อไทย ลูกสมุน ทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องรับลูกส่งลูกกับเพื่อไทยอยู่แล้ว เพราะการแก้ไขรธน.เป็นมติพรรคเพื่อไทย

อย่างไร สมศักดิ์ต้องรีบบรรจุเข้าสู่การพิจารณาให้ทันสมัยประชุมสภาฯรอบนี้ เพราะแม้จะเหลืออีกหลายสัปดาห์กว่าจะปิดสมัยประชุมฯแต่การประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขรธน. 291 ต้องใช้เวลามาก คงมีทั้งส.ส.-ส.ว.เกินร้อยขอใช้สิทธิอภิปรายทั้งสนับสนุน-คัดค้าน การพิจารณาก็คาดว่า 2 วันยังอาจไม่พอด้วยซ้ำ

อีกทั้ง ต้องกะไว้ด้วยว่าต่อจากนี้ อาจมีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอื่นๆ เช่น ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจากบางพรรคการเมืองเช่นประชาธิปัตย์เข้าประกบด้วยหรือไม่ ก็จะทำให้การพิจารณาใช้เวลามากขึ้นไปอีก ขณะที่ร่างแก้ไขจากภาคประชาชนเช่นที่ยื่นไปก่อนหน้านี้ที่เป็นร่างของประชาชนซึ่งร่วมกันลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 5 หมื่นรายชื่อที่ส่วนใหญ่เป็นประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือที่มีสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน เพื่อไทยเป็นตัวหลักในการเดินเรื่องและยื่นต่อประธานสภาฯ ไปเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

หรือที่มีข่าวว่ ฝ่ายเสื้อแดงก็ซุ่มเงียบทำร่างแก้ไขรธน.มาตรา 291 เอาไว้ด้วยเช่นกัน เหลือรอเอารายชื่อประชาชน 5 หมื่นชื่อปะหน้าส่งประกบยื่นต่อประธานสภาฯ

จึงทำให้การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญถึงวันนี้ ยังไม่มีความชัดเจน จะมีกี่ร่างกันแน่

แต่ในส่วนของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประชาชนเข้าชื่อกันนั้น ไม่ใช่ว่ายื่นแล้วมีผลทันทีเหมือนร่างที่ส.ส.ร่วมกันลงชื่อ เพราะต้องมีการตรวจสอบรายชื่อประชาชน 5 หมื่นชื่อทั้งหมดก่อนว่ามีตัวตนจริงหรือไม่ ไม่ใช่จู่ๆ ก็บรรจุเป็นวาระพิจารณาได้เลย เดี๋ยวจะยุ่งกันภายหลัง
 

ทำให้ดูแล้ว ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภา หากไม่มีพรรคการเมืองไหน ยื่นประกบด้วย ร่างหลักก็จะเป็นของพรรคเพื่อไทยนั่นเอง

ดังนั้น ประเด็นร้อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นวาระแห่งชาติที่สำคัญทางการเมืองต่อจากนี้ หากเพื่อไทยไม่มีการดึงคันเร่งเหยียบเบรกกันเองไว้ก่อน

เพราะรัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุดของประเทศ เป็นธรรมนูญการปกครองของแผ่นดิน ประชาชนทุกคนจึงมีหน้าที่ต้องเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวเรื่องนี้กันให้ดี เนื่องจากดูแล้วกระแสธารการต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้จะเกิดขึ้นจากประชาชนหลายภาคส่วนที่ไม่เห็นด้วย เพราะมองตรงกันว่า

ปัญหาของประเทศชาติ เช่นความแตกแยกของคนในประเทศ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ แต่อยู่ที่ตัวบุคคลคือพวกนักเลือกตั้ง-พรรคการเมืองไม่กี่คน การแก้รัฐธรรมนูญคนได้ประโยชน์ก็แค่นักการเมือง ไม่ใช่ส่วนรวม

แต่ถึงตอนนี้ ประเมินกันอย่างตรงไปตรงมา การต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญคงไม่สำเร็จ ด้วยเหตุหลายปัจจัย เมื่อต้านได้ยาก ทางที่ดีก็คือต้องช่วยกันสอดส่องจับตามองการแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกฝีก้าว

เนื่องจากแค่ยังไม่ทันจะขยับอะไร ยังไม่รู้ว่ารัฐสภาจะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญกันวันไหน แล้วรัฐสภาจะให้ความเห็นชอบหรือไม่ ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวของนักเลือกตั้งและกลุ่มการเมืองหลายกลุ่มที่จ้องจะหาประโยชน์กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญกันแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมส่งคนของเครือข่ายฝ่ายตัวเอง ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.ร.จังหวัด

อย่างฝ่าย “เสื้อแดง”ก็มีข่าวว่า ระดับแกนนำนปช.ที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยและที่นั่งบัญชาการอยู่ที่ตึกอิมพีเรียล ลาดพร้าว ที่ทำการของนปช.มีการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ กับพวกส.ส.เพื่อไทย-หัวคะแนนเพื่อไทยในพื้นที่ว่า จะเอาคนของฝ่ายเสื้อแดงทั้งระดับแกนนำนปช.จังหวัดหรือพวกที่ทำงานให้นปช.ทั้งฝ่ายกฎหมาย-ฝ่ายคุมมวลชนเช่นฝ่ายจัดตั้งหมู่บ้าน-อำเภอเสื้อแดง ลงสมัครเป็นส.ส.ร.จังหวัด จึงขอให้ส.ส.ในพื้นที่ช่วยดูแลพื้นที่ให้ เพื่อที่ส.ส.ร.จังหวัดจะได้เป็นคนของฝ่ายนปช.-เพื่อไทยมากที่สุด

อันจะเป็นผลดีต่อการเข้าไปยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ฝ่ายเพื่อไทยจะได้ส่งพิมพ์เขียวให้ส.ส.ร.ของตัวเองเอาเข้าไปผลักดันในที่ประชุมกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญและกุมเสียงข้างมากในสภาร่างรัฐธรรมนูญ

ดูตัวอย่างก็ได้ อาทิ คารม พลทะกลาง ทนายเสื้อแดงที่คุมภาพรวมคดีเสื้อแดงทั่วประเทศ รวมถึงคดีสำคัญๆของแกนนำนปช.ทั้งหมดโดยเฉพาะคดีที่นปช.โดนข้อหาก่อการร้าย เด้งรับข่าวเลยบอกเอาจริงลงแน่นอนที่ร้อยเอ็ด จะชูจุดขายคือเป็นนักกฎหมายสู้เผด็จการ

รายนี้หากลงจริง ก็น่าจะได้ค่อนข้างสูงหากเพื่อไทย-เสื้อแดง ตกลงกันได้ ไม่ให้คนอื่นที่เป็นเครือข่ายเดียวกันลงแข่ง เพราะร้อยเอ็ด เลือกตั้งที่ผ่านมาเพื่อไทยชนะยกจังหวัด ถือเป็นพื้นที่แดงเข้มข้นผนวกกับเมื่อได้ นิสิต สินธุไพร แกนนำนปช.ขวัญใจแดงร้อยเอ็ด มาช่วยทำพื้นที่ให้ ดูแล้ว โอกาส “ คารม” จะลอยลำได้เป็นส.ส.ร.ร้อยเอ็ดค่อนข้างมีสูงและอาจเป็นตัวหลักของเพื่อไทยและเสื้อแดงในการยกร่างรธน.ฉบับใหม่เลยทีเดียว

ไม่ใช่แค่ที่ร้อยเอ็ดแต่อีสานและเหนือหลายจังหวัดที่เป็นฐานหลักของ เครือข่ายเสื้อแดง-เพื่อไทยก็ขยับกันแล้วแต่ยังเป็นการคุยกันภายในอยู่ เพราะไม่อยากให้กลายเป็นว่าวางแผนจะยึดสภาร่างรธน.ตั้งแต่ยังไม่ตั้งไข่ ไม่ว่าจะเป็นที่ สกลนคร ขอนแก่น อุดรธานี เป็นต้น

การเตรียมการที่จะส่งคนของฝ่ายตัวเองเป็นส.ส.ร.จังหวัด พูดกันตามจริง ไม่ใช่แค่ในฝ่ายพรรคเพื่อไทยที่จ้องกันอยู่ หลายพรรคก็คิดเช่นกัน

อย่างประชาธิปัตย์ คิดหรือว่า จะไม่คิดอย่างที่เพื่อไทยคิด ในการจะส่งคนของตัวเองลงสมัครส.ส.ร.จังหวัดในภาคใต้ เช่นเดียวกับชาติไทยพัฒนาของบรรหาร ศิลปอาชา มีหรือไม่อยากส่งคนของตัวเองเป็นส.ส.ร.ในพื้นที่ของชาติไทยพัฒนาเช่นสุพรรณบุรี-อ่างทอง

ช่องทางให้คนของตนเอง เข้าไปเป็นส.ส.ร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ก็จะเป็นอีกเวทีที่แย่งชิงกันดุเดือด ประชาธิปัตย์ต้องหวังเอาคนที่ใกล้ชิดไว้เพื่อคานกับฝ่ายทักษิณ-เพื่อไทย-เสื้อแดงในสภาร่างรัฐธรรมนูญ แม้โอกาสจะยากเนื่องจากต้องมีการโหวตเสียงเลือกกันในที่ประชุมรัฐสภา ทำให้โอกาสที่เพื่อไทยจะเอาคนของตัวเองไปเป็นส.ส.ร.ผู้ทรงคุณวุฒิที่อาจมีประมาณ 22 คนจะมีมากกว่าเพราะเสียงรัฐบาลบวกกับเสียงส.ว.ฝั่งตัวเองมีมากกว่าประชาธิปัตย์อยู่แล้ว ทำให้ได้เปรียบในการโหวตเลือกส.ส.ร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เมื่อมีการล็อกโผเอาไว้ล่วงหน้าว่าจะให้เป็นส.ส.ร.แม้ที่มาของรายชื่อจะให้สภามหาวิทยาลัยของสถาบันอุดมศึกษาคัดเลือกและส่งรายชื่อมาให้รัฐสภาโหวตเลือกก็ตาม !

การแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้ แม้ยังไม่รู้จะสำเร็จหรือไม่ จะมีแรงต้านมากน้อยแค่ไหนเมื่อถึงเวลานั้น แต่ยังไม่ทันจะเริ่มออกสตาร์ท ก็เห็นแล้วว่า ส่อเค้าสูญเปล่า เพราะไม่ได้แก้ปัญหาโครงสร้างการเมืองไทยให้ดีขึ้นได้เลย

แล้วจะแก้กันทำไม ให้เปลืองภาษีประชาชนหลายพันล้านบาท
สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์
กำลังโหลดความคิดเห็น