หน.ปชป.ท้ารัฐแบแผน พ.ร.ก.กู้แลกถอนคำร้องศาล รธน. จี้เร่งจัดการน้ำก่อนท่วมซ้ำ

ผู้นำฝ่ายค้านห่วงรัฐบาลทำแผนบริหารจัดการน้ำไม่ชัดเจน แนะต้องทำแบบจำลองพยากรณ์น้ำให้เสร็จ ใช้ช่วงทัวร์นกแก้วทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ มากกว่ามุ่งสร้างภาพหวังผลการเมือง ชี้เหลือเวลาไม่มากแล้ว หวั่นรัฐกับมวลชนเผชิญหน้าซ้ำรอยปีที่แล้ว แม้มีโครงการแต่จัดการไม่ดีก็ป้องกันไม่ได้ ท้ารัฐบาลแจกแจง พ.ร.ก.กู้เงินใช้ทำอะไรบ้าง แลกกับถอนชื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ หวั่นเป็นภาระต่อประชาชน


วันนี้ (5 ก.พ.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์แสดงความเป็นห่วงต่อความไม่ชัดเจนในแผนบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลโดยแนะนำว่า ภายในเดือนนี้รัฐบาลต้องมีความชัดเจนในเรื่องการจัดทำระบบข้อมูลแบบจำลองการพยากรณ์เรื่องน้ำให้แล้วเสร็จ และต้องเปิดเผยให้ประชาชนทราบ เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจพื้นที่ตามแนวลุ่มน้ำเจ้าพระยาระหว่างวันที่ 13-17 กุมภาพันธ์นี้ ก็ควรที่จะใช้โอกาสนี้ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ทั้งในเรื่องการกำหนดพื้นที่รับน้ำ ทางผ่านของน้ำ และต้องปรับรูปแบบการลงพื้นที่ใหม่ ไม่ใช่มุ่งแต่การสร้างภาพเพื่อประโยชน์ทางการเมือง การให้คำมั่นสัญญาในเรื่องโครงการอย่างเดียวจะไม่มีประโยขน์ในการแก้ปัญหา เพราะสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยานั้นประชาชนมีความวิตกกังวลมากและต้องการเห็นแผนที่เป็นรูปธรรม

“รัฐบาลต้องเร่งทำความเข้าใจเพราะเวลาก็เหลือไม่มากแล้ว นอกจากนี้ควรรับฟังความเห็นในพื้นที่ด้วยว่า มีส่วนใดที่ยังไม่มีการขุดลอกคูคลองเพื่อเร่งรัดอนุมัติโครงการ เพราะรัฐบาลก็มีเงินอยู่ในมือมาก” นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ภาคประชาชนเริ่มที่จะเตรียมคัดค้านการบริหารจัดการลุ่มน้ำของรัฐบาล เนื่องจากไม่มีการทำความเข้าในพื้นที่ล่วงหน้าว่า รัฐบาลต้องเร่งทำความเข้าใจและตั้งหลักในเรื่องระบบการบริหารงานใหม่ เพราะคนไทยไม่ต้องการเห็นภาพซ้ำเหมือนปีที่แล้ว ที่การบริหารน้ำขึ้นอยู่กับมวลชน ทำให้เกิดความขัดแย้ง รัฐบาลขาดความชัดเจน และประชาชนก็หวาดวิตก เพราะไม่รู้ว่าข้อมูลการบริหารน้ำของรัฐบาลเป็นอย่างไร ซึ่งรัฐบาลต้องเรียนรู้ความผิดพลาด จากการที่ปล่อยให้การเมืองมาบริหารน้ำในช่วงปีที่แล้ว จนเกิดความสูญเสียเกินความจำเป็นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยอีกในปีนี้ ซึ่งทั้งหมดก็อยู่ที่แผนของรัฐบาลว่ามีความชัดเจนหรือไม่ มีอะไรที่จะสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนว่ารัฐบาลจะเดินตามแผนนั้น ไม่ใช่จำนนต่อแรงกดดันในเรื่องของการเมือง ตนคิดว่ารัฐบาลต้องมีความชัดเจนมากกว่าปัจจุบันเพราะว่าเวลานี้รัฐบาลมักพูดถึงแต่เรื่องการทำโครงการนั้นโครงการนี้มากกว่า ซึ่งความเป็นจริงแม้จะมีโครงการ แต่ถ้าการบริหารจัดการไม่ดีก็ป้องกันไม่ได้

ส่วนที่นายกรัฐมนตรียืนยันผ่านรายการนายกฯ ยิ่งลักษณ์ พบประชาชนว่า มีความจำเป็นที่จะต้องออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 4 ฉบับ และกู้เงินเพื่อมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนเคยบอกแล้วว่าถ้ารัฐบาลเอาแผนมาให้ฝ่ายค้านดูได้ว่ามีรายละเอียดในการใช้จ่ายเงินอย่างไรที่ต้องใช้เงินทันที เพื่อให้ฝ่ายค้านเห็นว่าเงินที่มีอยู่ในมือเกือบ 2 แสนล้านบาทไม่เพียงพอ ถ้าเอามาให้เห็นได้ ตนยินดีถอนชื่อจากการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ แต่ถ้ารัฐบาลไม่สามารถนำรายละเอียดมายืนยันได้ ก็จะกลายเป็นภาระของประชาชนที่ต้องแบกรับดอกเบี้ยเงินกู้ เพราะเป็นการนำเงินมากองไว้ เหมือนคนมีแผนจะทำอะไรสักอย่างในอีก 5-6 ปีแต่กลับกู้เงินมาเก็บไว้ที่บ้าน ซึ่งก็จะเป็นภาระดอกเบี้ยโดยไม่จำเป็น โดยในส่วนของรัฐบาลเองที่พูดว่าต้องกู้เร่งด่วนนั้น ความจริงจะมีการกู้เกิดขึ้นในช่วงปลายปีหน้าด้วยซ้ำ สะท้อนว่ารัฐบาลใช้เรื่องน้ำท่วมและความทุกข์ของประชาชนมาเป็นข้ออ้างในการกู้เงิน