“อภิสิทธิ์” สวน “ยิ่งลักษณ์” เล่นการเมืองเสียเอง มัวโทษฝ่ายค้านขวาง พ.ร.ก.กู้เงินแก้น้ำท่วม ชี้รัฐบาลมีงบฯ ในมือเกือบ 2 แสนล้าน นำมาใช้ได้ทันทีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นเร่งด่วนต้องออก พ.ร.ก. เตือน “เฉลิม” อย่ากดดันศาล รธน. ผลออกมาอย่างไรต้องยอมรับ หยุดปลุกระดมสองมาตรฐาน
วันที่ 2 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงคำชี้แจงของรัฐบาลต่อสภาเกี่ยวกับ พ.ร.ก.กองทุนประกันภัยและ พ.ร.ก.ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 3 แสนล้านบาทให้ผู้ประกอบการที่ประสบภัยน้ำท่วมว่า เป็นความพยายามที่จะชี้แจงในลักษณะเหมือนต่อสู้คดีในสภา ทั้งๆ ที่ พ.ร.ก.2 ฉบับที่ฝ่ายค้านยื่นตีความ คือ พ.ร.ก.โอนหนี้กองทุนฟื้นฟู และ พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทนั้น ไม่ได้อยู่ในวาระการพิจารณาของสภา ซึ่งทางรัฐบาลกำลังสร้างความสับสนเพราะสิ่งที่ชี้แจงก็ไม่ตรงต่อข้อเท็จจริง เนื่องจากรัฐบาลมีงบประมาณที่ทำเรื่องน้ำท่วมในมือ สามารถนำมาใช้ได้เกือบสองแสนล้านบาท เฉพาะงบกลาง 1.2 แสนล้านบาท งบกลางของนายกรัฐมนตรีอีก 6 หมื่นล้านบาท และงบท้องถิ่นอีก 1 หมื่นล้านบาท ทั้งหมดเป็นงบสามารถใช้เรื่องการเยียวยาและทำแผนที่จะต้องดำเนินการโครงสร้างพื้นฐานตามที่ กยน.กำหนดที่จะใช้เงิน 5 หมื่นล้านบาท ส่วนที่จำเป็นต้องกู้เงินจริงๆ ยังไม่จำเป็นต้องทำขณะนี้ ฝ่ายค้านจึงเห็นว่าการที่รัฐบาลอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 มาตราพระราชกำหนดจึงไม่เข้าข่ายตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน และเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ความพยายามที่รัฐบาลจะอ้างว่าหากน้ำท่วมเป็นความผิดของกระบวนการตีความกฎหมาย 2 ฉบับนี้ก็ไม่เป็นความจริง เพราะยังไม่มีโครงการไหนจะทำให้เสร็จก่อนน้ำมาที่จะสามารถจัดงบประมาณได้ ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่เรื่องเงิน แต่อยู่ที่การลงมือทำในโครงการที่มีงบประมาณในมืออยู่แล้ว ซึ่งยังไม่ได้เริ่มต้น และประชาชนในพื้นที่ก็รอคอยอยู่
“คงเป็นความพยายามที่จะโทษฝ่ายค้านว่าไปขัดขวางการแก้ปัญหาของรัฐบาล การทำเช่นนี้คือการเล่นการเมือง ผมเห็นนายกฯ พูดว่าไม่อยากให้เอาเรื่องน้ำมาเล่นการเมือง แต่นี่คือการเล่นการเมืองอย่างแท้จริงโดยรัฐบาล ข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ฝ่ายค้านก็ต้องนำเสนอความจริงให้ประชาชนทราบ ผมคิดว่าคำชี้แจงของ ร.ต.อ.เฉลิมเมื่อวานนี้มีความพยายามที่จะกดดันศาลรัฐธรรมนูญ เป็นแนวทางที่ฝ่ายนี้ใช้มาโดยตลอด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่ผมมั่นใจว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาตามข้อเท็จจริง ซึ่งคิดว่า ร.ต.อ.เฉลิมเองก็คงมีความกังวลว่ามีปัญหาข้อกฎหมายจริงๆ จึงพยายามกดดันไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งผมยืนยันว่า การที่ฝ่ายค้านยื่นตีความ พ.ร.ก.2 ฉบับ เป็นเพราะต้องการให้รัฐบาลทำอย่างถูกกฎหมาย จึงไม่ควรทำให้เรื่องนี้ลุกลามเป็นประเด็นการเมือง ผมมั่นใจว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่หวั่นไหวกับแรงกดดันและจะพิจารณาตัดสินเรื่องนี้ตามข้อเท็จจริง” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้นำฝ่ายค้านฯ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลเคารพคำตัดสินของศาลรัฐธรมนูญ ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกอย่างไร หากศาลวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญก็ควรปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่ปลุกระดมเรื่องสองมาตรฐานขึ้นมาอีก ทั้งนี้เห็นว่าสังคมจะต้องมีความเข้มแข็ง หนักแน่นเพียงพอที่จะดูข้อเท็จจริงว่าเป็นย่างไร ไม่เช่นนั้นเราก็จะปล่อยให้รัฐบาลฉกฉวยโอกาสใช้เงื่อนไขน้ำท่วมและความทุกข์ของประชาชนมาเป็นการฉวยโอกาสในการทำบางสิ่งบางอย่างซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการแก้ปัญหาน้ำท่วม