xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ยันส่งตีความ พ.ร.ก.โอนหนี้ให้ ธปท. ชี้ไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (แฟ้มภาพ)
ผู้นำฝ่ายค้านฯ งง ครม.อนุมัติร่าง พ.ร.ก.4 ฉบับ แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดเนื้อหา ทั้งที่กำลังจะประกาศใช้ เตรียมยื่นศาล รธน.ตีความ เหตุ พ.ร.ก.โอนหนี้กองทุนฟื้นฟูให้ ธปท.รับผิดชอบ ไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องออกเป็นพระราชกำหนด

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในหลักการ และไม่แจกแจงรายละเอียดเนื้อหาร่าง พ.ร.ก.4 ฉบับว่า การไม่เปิดเผยรายละเอียดของ พ.ร.ก.4 ฉบับนั้นเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะว่าเป็นกฎหมายที่จะมีการประกาศใช้แล้ว และไม่ได้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา ทำให้เกิดความกังวลในหลายส่วน โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการโอนหนี้ไปให้ ธปท.

“เริ่มมีความไม่ชัดเจนว่าสิ่งที่ ธปท.พูดคุยกับกระทรวงการคลังนั้น กฎหมายดังกล่าวออกมาตามความเข้าใจของทั้ง 2 ฝ่ายหรือเปล่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่รัฐบาลพูดคุยกับ ธปท.แล้ว รัฐบาลจะมีการถอยในเรื่องมาตรา 7 (3) ร่าง พ.ร.ก.โอนหนี้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. จำนวน 1.1 ล้านล้านบาทรับผิดชอบ แต่ยังไม่มีใครที่สามารถจะตอบได้ว่าหลักการที่เหลือนั้นเป็นอย่างไร” นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์มองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เข้าข่ายการเป็น พ.ร.ก. เนื่องจากการกระทำทั้งหมดไม่ใช่การกระทำที่เร่งด่วน เพราะหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ ที่เป็นพันธบัตรจะหมดอายุปลายปี ดังนั้น ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ตาม หนี้ส่วนนี้ก็ยังเหมือนเดิม นอกจากนั้น วิธีการทั้งหมดไม่มีผลต่อหนี้ของประเทศ หรือหนี้สาธารณะอย่างแท้จริง ดังนั้นจะอ้างว่าหากไม่ทำเรื่องนี้แล้วจะไม่สามารถบริหารเศรษฐกิจหรือกู้เงินต่างๆ ได้ก็ไม่เป็นความจริ’

“อย่างน้อยที่สุด กฎหมายฉบับนี้ถ้าเราได้เห็นและยืนยันได้ว่าไม่มีอะไรพลิกแพลงไปมากกว่านี้ เราก็คิดว่าจะต้องมีการส่งตีความว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ การที่ตรา พ.ร.ก. ส่วนฉบับอื่นๆ นั้นก็เช่นเดียวกันยังไม่เห็นรายละเอียดทั้งหมด ในหลักการนั้นเราสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนประกันภัยเป็นเรื่องเร่งด่วน เราสนับสนุนการระดมกันฟื้นฟูเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ต้องดูว่าเหตุใดจึงไม่ทำเป็น พ.ร.บ. เพราะเราไม่เชื่อว่าเงิน 3.5 แสนล้านจะมีการใช้จ่ายอย่างรวดเร็ว แทนที่จะเปิดโอกาสให้สมาชิกวุฒิสภาสามารถพิจารณาแล้วแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้เกิดกระบวนการตรวจสอบการใช้จ่ายเงิน ทำไมจึงไม่เปิดโอกาสอย่างนั้น ส่วนฉบับสุดท้ายที่ให้ ธปท.ปล่อยสินเชื่อนั้น ผมว่าภาคเอกชนคงอยากได้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแต่เราก็ไม่แน่ใจว่านี่คือวิธีที่ดีที่สุด แล้วก็ยังมีปัญหาเรื่องการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบโดยรวมแล้วทั้งๆ ที่มีเสียงทักท้วงวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย แต่รัฐบาลก็ดึงดันทำเรื่องนี้ เพื่อเร่งหาเงินมากองไว้” ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น