“อภิสิทธิ์” เตือน "ยิ่งลักษณ์" อย่าซ้ำรอยพี่ชาย วอน ทบทวนท่าทีช่วยรักษากลไกสภา อัดเพื่อไทยปากอ้างเคารพ ปชต.แต่ไม่ให้ความสำคัญกับกลไกรัฐสภา ขู่กลับ อย่าเล่นแง่ทางเทคนิคเรื่องกระทู้ ระวังเจอสวนกลับให้นายกฯตอบเองอีก แนะ” นกแก้ว” มีเสียงข้างมากอย่ากลัวสภา ต้องแสดงภาวะผู้นำช่วยลดขัดแย้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลใช้เสียงข้างมากปิดอภิปรายการพิจารณา พ.ร.ก.กองทุนประกันภัยและพ.ร.ก.ปล่อยสินเชื่อดอกเบียต่ำ 3 แสนล้านบาทวานนี้ (2 ก.พ.55) ว่า เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นเพราะทำให้การทำงานในสภาไม่ราบรื่นเท่าที่ควร ฝ่ายค้านอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับกระบวนการของสภา เมื่อวานนี้จุดเริ่มต้นเกิดจากการที่ไม่มีรัฐมนตรีนั่งฟังการอภิปราย นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ จึงพยายามหากวิธีการที่จะให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงของฝ่ายค้าน ซึ่งเมื่อรัฐมนตรีเข้ามาในห้องประชุม นายบุญยอดก็ตั้งใจที่จะถอนญัตติ แต่ถูกส.ส.รัฐบาลโห่จึงทำให้บรรยากาศมีปัญหามากขึ้น และฝ่ายรัฐบาลก็จงใจ เพราะตนได้ยินเลยว่าตั้งใจที่จะเข้ามาเพื่อปิดอภิปราย
อย่างไรก็ตามเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องมองไปข้างหน้าว่าจะทำอย่างไรให้บรรยากาศของสภามีความราบรื่นมากยิ่งขึ้น ตนอยากให้รัฐบาลเปิดใจกว้าง เพราะหลายเรื่องมาจากความกังวลว่าฝ่ายค้านจะมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นทั้งที่รัฐบาลสามารถควบคุมเสียงข้างมากได้อยู่แล้ว โดยเห็นได้จากปัญหากระทู้ถามที่มีความขัดแย้งมาเกือบทุกอาทิตย์เป็นเพราะรัฐบาลปกป้องนายกรัฐมนตรีไม่ให้มาตอบกระทู้ มีความพยายามที่จะลดจำนวนกระทู้ลง ซึ่งในสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เคยมีปัญหาเช่นนี้ และได้เริ่มต้นให้มีการถ่ายทอดกระทู้สดเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสรับรู้รับทราบการทำงานของสภา โดยไม่ได้เกี่ยงในเรื่องเวลาการถ่ายทอดที่อาจเกินกว่าที่กำหนดไว้โดยมีการขยายเวลาให้ อีกทั้งต้นยังพยายามที่จะสร้างบรรทัดฐานด้วยการมาตอบกระทู้ด้วยตัวเองโดยตลอด แม้กระทั่งในเรื่องที่มอบหมายให้รัฐมนตรีไปแล้วก็ยังมาฟังและอธิบายถึงทิศทางของรัฐบาล เพราะตนถือว่าการตรวจสอบของฝ่ายค้านเป็นหัวใจสำคัญของระบบรัฐสภา ซึ่งทั่วโลกก็ทำกันแบบนี้
"หลังการปิดอภิปรายรัฐบาลก็ไม่ได้ชี้แจง อีกทั้งประเด็นที่ฝ่ายค้านนำเสนอและค้างอยู่ก็เป็นประโยชน์ที่รัฐบาลควรจะนำไปปรับปรุงให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งผมเป็นห่วงว่าการทำเช่นนี้ ของรัฐบาลจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศทางการเมืองโดยไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย ในระบอบประชาธิปไตยต้องเปิดโอกาสให้สภาทำงาน และบทเรียนอย่างหนึ่งจากยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือ เมื่อพยายามปิดกั้นทุกวิถีทางสุดท้ายการเมืองก็ออกสู่ท้องถนน มีความขัดแน้งมาจนถึงทุกวันนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุคว่า รัฐบาลใช้เผด็จการรัฐสภาปิดปากฝ่ายค้านในสภาจะทำให้การเมืองออกมานอกสภาทำให้พังกันทั้งหมดมองอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่อยากให้รัฐบาลเรียนรู้ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจเพราะพรรคเพื่อไทยมักจะอ้างเสมอว่าตัวเองต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ต่อสู้เพื่อระบบรัฐสภา แต่กลับไม่ให้ความสำคัญกับกระบวนการของสภาเมื่อเข้ามามีอำนาจทางการเมือง
ผู้นำฝ่ายค้านฯ ยังแสดงความไม่สบายใจเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯเกี่ยวกับการบรรจุกระทู้สดที่ควรจะรักษาผลประโยชน์ของสภาในการตรวจสอบฝ่ายบริหาร ด้วยการเข้มงวดกับฝ่ายริหารว่าต้องทำหน้าตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ ซึ่งกำหนดชัดถึงการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีที่จะต้องรับผิดชอบต่อสภา ส่วนเหตุการณ์ระหว่างกรนับองค์ประชุมเมื่อวานนี้นั้นตนเห็นใจนาย วิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธารสภาฯ ที่ทำหน้าที่ประธานสภาฯในขณะนั้นว่าได้พยายามที่จะไกล่เกลี่ย แต่เมื่อฝ่ายเสียงข้างมากใช้เสียงข้างมากดำเนินการตามความ้องการของตัวเองทำให้ประธานในขณะนั้นไม่มีทางเลือก แต่การทำหน้าที่ของนายสมศักดิ์นั้นตนอยากให้ใจเย็น ๆ และรับฟังทางฝ่ายค้านใหมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องกระทู้ถามยกตัวอย่างทกระทู้ที่นายกรณ์ ขาติกวณิช ถามเกี่ยวกับการแปรรูป ปตท.ซึ่งมีข้อตกลงค้างจากสัปดาห์ที่แล้วโดยประธานในขณะนั้นให้เลื่อนกระทู้มาถามในสัปดาห์นี้และประเด็นที่จะถามก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะเป็นประโยชน์่อประชาชน หากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไม่สามารถมาตอบได้ก็สามารถเลื่อนไปเป็นสัปดาห์หน้าได้ โดยรักษาสิทธิของสภาเอาไว้ให้เป็น 4 กระทู้ก็ไม่มีปัญหา
"ผมเตือนว่าอย่าเล่นแง่ทางเทคนิคว่าเมื่อเลื่อนกระทู้ไปแล้วต้องมายื่นใหม่เหมือนที่ทำในสัปดาห์นี้ เพราะถ้าจะทำแบบนี้ฝ่ายค้านก็จะยึดตามข้อบังคับอย่างเคร่งครัดว่า ถ้าถามนายกฯจะมอบหมายไม่ได้ต้องมาตอบด้วยตัวเอง แต่เราก็ไม่ได้ทำ เพราะทราบว่าบางทีนายกฯอาจมีภารกิจสำคัญ หรือมอบให้รัฐมนตรีมาตอบแทนได้แต่เรื่องที่นายกฯต้องมาตอบเองก็ต้องมาด้วยตัวเอง ผมอยากให้รัฐบาลเปิดใจกว้างมากกว่านี้ ทบทวนการทำงานทั้งหมดอย่าบีบให้การเมืองต้องออกมาอยู่นอกถนนมีการประท้วงกันตามถนนเลย ในยุคพ.ต.ท.ทักษิณ ก็เริ่มจากการปิดรายการโทรทัศน์ จนถึงการทำให้กลไกสภาทำงานอย่างยากลำบากทำให้เกิดปัญหา แต่อย่ากังวลจนเกินไปในการตอบกระทู้เพราะแค่ตอบตามปกติก็จบแล้ว เปิดใจกว้างไม่มีอะไรต้องกลัวในสภาสำหรับรัฐบาลเพราะมีเสียงข้างมากอยู่แล้ว แต่เราต้องช่วยกันรักษากลไกสภาเอาไว้ เพราะจะมีส่วนสำคัญในการช่วยลดปัญหาความขัดแย้งสังคมได้" นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์ ยังแสดงความผิดหวังต่อบทบาทของน.ส.ยิ่งลักษณ์ในการช่วยคลี่คลายบรรยากาศความขัดแย้งในสภา โดยเห็นว่า บทบาทนี้ยังขาดไปในส่วนของนายกรัฐมนตรี พร้อมยกตัวอย่างในขณะเป็นนายกรัฐมนตรีว่าจะให้ความสำคัญกับการทำงานในสภา เมื่อมีปัญหาและตนเห็นว่าสามารถไกล่เกลี่ยได้ตนก็จะพยายามที่จะเสนอทางออกเพื่อช่วยลดบรรยากาศไม่ให้เกิดความขัดแย้ง นายกฯจะอ้างแต่ว่าเป็นเรื่องของ วิป หรือเป็นเรื่องมอบหมายรองนายกฯไปแล้วไม่ได้ เพราะถ้านายกฯอยู่ในสภาลุกขึ้นพูดคำเดียวว่าขอให้เปิดโอกาสฝ่ายค้านอภิปรายแต่อาจไม่ต้องถึงเที่ยงคืน หาข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องเวลาปัญหาก็จะจบ
