ส.ส.เมืองสองแคว ปชป.เตือน “โกร่ง ต้มยำกุ้ง” คิดตักเงินกองทุนวายุภักษ์ซื้อหุ้น ปตท. และการบินไทย อ้างช่วยลดหนี้สาธารณะ เผย ไม่ใช่เงินส่วนตัวใคร หากไม่รอบคอบกองทุนจะพังเสียเอง ย้อนนำ ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์ นักการเมืองรวยเละ วอนอย่าเอามาเป็นแหล่งทำมาหากิน แล้วฟันกำไรราคาน้ำมัน-ก๊าซ ฝากถึงบอร์ด ปตท.เงินไม่ใช่พระเจ้า แต่ความเป็นธรรมยั่งยืนกว่า
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอของ นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) เสนอแนวคิดใช้กองทุนวายุภักษ์ ซื้อหุ้นบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จากกระทรวงการคลัง ร้อยละ 2 โดยอ้างว่าเป็นการช่วยลดภาระหนี้สาธารณะร้อยละ 10 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือ จีดีพี เพื่อขอกู้เงินได้เพิ่มขึ้น ว่า ขอให้ นายวีรพงษ์ คิดให้รอบคอบ เพราะเงินในกองทุนวายุภักษ์นี้ไม่ใช่เงินส่วนตัวของใคร แต่เป็นเงินส่วนรวมของประเทศ และถ้าใช้เงินจากกองทุนนี้ไปโดยขาดความรอบคอบ จะทำให้กองทุนนี้เสียหายเอง อีกประการหนึ่งคือ เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่า การนำเอา ปตท.เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในอดีต ก็ทำให้นักการเมืองรวยกันเละ รับกันอื้อ แม้วันนี้จะมีการหลบเลี่ยงถือครองหุ้นโดยใช้นอมินี หรือตัวแทนถือหุ้น ปตท.อยู่ เพราะจัดเป็นหุ้นชั้นดี ราคาสูงตลอด จึงเป็นเรื่องที่ ปตท.ต้องตระหนักถึงความโปร่งใสในการบริหารจัดการ เพราะช่วงหลัง ปตท.เองก็ตรวจสอบยากขึ้นทุกที
“จึงขอเตือนเสียงดังๆ ว่า อย่าเอา ปตท.มาเป็นแหล่งทำมาหากิน เพราะ ปตท.มีหน้าที่ดูแลประเทศในด้านพลังงาน ตามเจตนารมณ์ที่ตั้งขึ้น ปตท.จึงมีหน้าที่ดูแลประเทศมากกว่าบรรดาผู้ถือหุ้นของคุณเสียอีก เพราะวันนี้กระทรวงการคลังยังถือหุ้นใน ปตท.51.5 เปอร์เซ็นต์ ผู้ถือหุ้นรายย่อยถือหุ้นรวมกันที่ 48.5 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้น ต้องตระหนักเสมอว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ คนไทยที่เป็นเจ้าของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นธรรมในการกำหนดราคาขายน้ำมันและก๊าซชนิดต่างๆ ที่ ปตท.ฟันผลกำไรมหาศาล ดังนั้น ปตท.อย่ามาเล่นกลเล็กๆ น้อยๆ กับเรื่องราคาต้นทุนของก๊าซ ที่คนยากคนจนส่วนใหญ่ของประเทศยังต้องจ่ายค่าก๊าซแพงทั้งนั้น จึงอยากให้ผู้บริหาร และบอร์ด ปตท.ทบทวนปรัชญาใหม่ ว่า เงินไม่ใช่พระเจ้า เงินไม่ใช่ความสุข ความเป็นธรรมต่างหากที่ให้ความสุขที่ยั่งยืน” นายจุติ กล่าว
