xs
xsm
sm
md
lg

ผู้เชี่ยวชาญการเงินแนะรบ.พับเรื่องหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ แก้น้ำท่วมให้สำเร็จก่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"สมชาย สกุลสุรรัตน์" ชี้ออกพันธบัตรรัฐบาล เป็นวิธีการที่ดีกว่าการโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯไปให้แบงก์ชาติ แต่ไม่ได้แก้ปัญหาได้จริง แนะแก้น้ำท่วมซึ่งเป็นปัญหาระยะสั้นให้สำเร็จก่อน เพื่อฟื้นความเชื่อมั่น แล้วค่อยแก้หนี้ เหตุเอามารวมกันทำให้คนสับสน พร้อมหนุนปกป้องคลังหลวงเต็มที่ เนื่องจากศก.โลกผันผวนหนัก ด้าน "ชัชวาล" ซัดรัฐบาลหมดความน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะทำอะไรประชาชนก็ไม่ไว้ใจแล้ว


วันที่ 6 ม.ค. นายสมชาย สกุลสุรรัตน์ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารทหารไทย และอดีตประธานกรรมการบริษัทจัดโครงสร้างหนี้ และนายชัชวาล ชาติสุทธิชัย นักวิชาการอิสระ ได้ร่วมรายการ "คนเคาะข่าว" ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV

โดยนายสมชาย กล่าวว่า กรณีที่รมว.คลัง บอกว่าการโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯไปให้ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อลดหนี้สาธารณะลง จะได้ออกหนี้ใหม่และเอาเงินที่ได้มาฟื้นฟูประเทศ ถ้าตอบตรงไปตรงมา ตนมองว่าหนี้นี้ระหว่างกระทรวงการคลังกับธนาคารแห่งประเทศไทย ตนคิอว่ามันเหมือนเป็นหนี้ผัวเมีย อย่างไรมันก็หนีไม่พ้น การโอนจากคลังไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทย แล้วบอกว่าไม่ใช่หนี้สาธารณะแล้ว ทางการเงินหลอกใครได้ แต่หลอกตัวเองไม่ได้ หลอกนักวิเคราะห์ที่จัดอันดับความน่าเชื่อถือไม่ได้ ทางด้านบัญชีลดตรงนี้ลงแต่เขาก็เอาความเสี่ยงอื่นเข้ามาอยู่ดี คงไม่ได้ผลอะไร เพราะถ้าเข้ามาประเมินเราเอาออกไป เขาก็เอากลับเข้ามา หนี้มันไม่ได้หายไปไหน

ส่วนที่รมว. คลัง บอกว่าไม่ใช่เป็นการโอนหนี้ แต่จะเป็นในรูปแบบของการระดมทุนออกพันธบัตรรัฐบาล แล้วมารวมศูนย์ที่กองทุนฟื้นฟูฯ ไม่ใช่โอนหนี้ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย แต่อย่างใด นายสมชาย กล่าวแจงว่า ต้องเข้าใจที่มาที่ไปก่อน หนี้ก้อนนี้เป็นหนี้ที่เกิดจากการโอบอุ้มสถาบันการเงิน 10 ปีก่อน ข้อตกลงสมัยมรว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นผู้ว่าแบงก์ชาติ เพื่อดูแลกองทุนก้อนนี้ หนี้ที่มีอยู่ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจ่ายเงินต้น แล้วรัฐบาลจ่ายดอกเบี้ย แต่หนี้ก้อนนี้ เกิดขึ้นได้โดยที่รัฐบาลไปออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนให้กองทุนฟื้นฟูฯ มันจึงเป็น หนี้สาธารณะ ข้อตกลงเดิม เป็นหนี้ที่แบงก์ชาติต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าโอนหนี้คืออะไร 1.คือโอนดอกเบี้ยมาให้แบงก์ชาติจ่าย ซึ่งอันนี้ มันก็มีความเสี่ยง แบงก์ชาติอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน จนขาดความเชื่อมั่นของทั้งระบบไป กับอีกเรื่องก็คือเงินต้น ต่างกันตรงนี้ ถ้าเป็นการโอนหนี้ เมื่อพันธบัตรรัฐบาลออกไปเพื่อระดมทุนให้กองทุนฟื้นฟูฯครบกำหนด เวลามีพันธบัตรใหม่ออกต้องไม่ใช่ของรัฐบาลแล้ว ต้องเป็นของกองทุนฟื้นฟู หรือธนาคารแห่งประเทศไทย ทีนี้กองทุนฟื้นฟูฯเป็นสถาบันที่หนี้สินมากมาย ถ้าออกพันธบัตรโดยไม่มีธนาคารแห่งประเทศไทย หรือรัฐบาลรับประกัน ใครจะซื้อ

2. แต่ถ้าให้แบงก์ชาติไปออกมันก็คือหนี้สาธารณะ แต่รวมไปรวมมาในภาคปฏิบัติคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ถ้ากองทุนฟื้นฟูฯ หรือแบงก์ชาติไปรับมา แล้วออกพันธบัตรใหม่ไม่ได้ อะไรจะเกิดขึ้น ง่ายนิดเดียวถ้ามักง่ายก็พิมพ์ธนบัตรออกมาจ่าย อันนี้ที่น่ากลัว

นายสมชาย กล่าวต่อว่า ความจริงแล้วก็ไม่ใช่เรื่องของการออกพันธบัตรมารวมศูนย์อะไร ถ้าทำอย่างนี้จริง ตามความเข้าใจของตน ก็คือเมื่อพันธบัตรที่ออกไปแล้วครบกำหนด รัฐบาลก็ออกพันธบัตรใหม่ แล้วก็โรลโอเวอร์ไปเรื่อยๆ มันก็เหมือนเก่า ก็คือหนี้ก็อยู่ที่กองทุนฟื้นฟูฯ แต่มูลแห่งหนี้ก็คือพันธบัตรรัฐบาล ถ้าทำอย่างนี้จริงมันไม่ได้โอนหนี้แล้ว เพราะมันเป็นภาระที่ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่มันเป็นการโอนภาระของการออกตราสาร เพื่อไปสร้างหนี้ จากรัฐบาลมาที่กองทุนฟื้นฟูฯ ซึ่งไม่มีวันออกได้ หรือแบงก์ชาติ ซึ่งก็รับไม่ได้เพราะเสี่ยงต่อการถูกกล่าวหาว่าพิมพ์ธนบัตร ซึ่งก็หมดประเด็นการโอนหนี้ไป แต่เหลือประเด็นดอกเบี้ย แต่วิธีนี้ก็ดีกว่าเดิม คือหมดปัญหาที่กลัวกันว่าแบงก์ชาติเมื่อเป็นหนี้จะไปเอาเงินคลังหลวงหรือพิมพ์ธนบัตรมาใช้

"อยากเล่าความรู้สึกส่วนตัว ผมเป็นนักการเงิน สมัยที่เป็นสภานิติบัญญัติฯ ตอนนั้นเห็นด้วยกับพรบ.ที่แบงก์ชาติเสนอให้เอาเงินคลังหลวงไปลงทุนในสถาบันการเงินระดับโลก ความน่าเชื่อถือระดับ AAA ถ้าตอนนั้นบอกว่า เลห์แมน บราเธอร์ส จะเจ๊งไม่มีทางเชื่อ ผมยังคิดเลยท่าน (หลวงตามหาบัว) เป็นพระ จะมาทราบเรื่องอย่างนี้ได้อย่างไร แต่พอเกิดวิกฤตเลห์แมน บราเธอร์สล้ม สถาบันต่างๆเกิดปัญหา ทำให้รู้สึกว่าท่านอาจจะรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้ ถ้าเอาแค่ประสบการณ์ของนักการเงิน แล้วให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเอาเงินคลังหลวงไปลงทุน ตอนนี้ประเทศชาติอาจเสียหายเป็นหลายแสนล้านบาท

ผมเห็นด้วยถ้าเราไม่รักษาเงินคลังหลวง และไม่ทำให้เพิ่มขึ้น ในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวนแบบนี้ ถือเป็นการประมาทอย่างมาก อย่างที่นายประสาร (ผู้ว่าการธ.แห่งประเทศไทย) บอกว่าทุนสำรองเงินตรา ดูเยอะแต่ไม่ได้เยอะจริงเพราะมีเจ้าของหมดแล้ว แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้น มีเงินสำรองมากเกินไม่ได้เดือดร้อนอะไร แค่เสียโอกาสในการหารายได้ แต่ไม่ทำให้พินาศ มองอีกมุมนึงเวลานี้ที่คนยังมองประเทศไทยเข้มแข็งไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็เพราะว่าความเชื่อมั่นต่อธนาคารชาติ กับเงินสำรองระหว่างประเทศ" นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย ยังกล่าวอีกว่า ทุกวันนี้เงินไหลเข้า-ออก ไม่ได้เกิดจากนำเข้า - ส่งออก แบบทฤษฎีสมัยที่ตนเรียนอีกแล้ว แต่ตอนนี้คือเงินที่มันหมุนเวียนเพื่อหาผลประโยชน์ แค่คิดคำนวณว่าประเทศใดประเทศหนึ่ง ควรถือเงินทุนสำรองต่างประเทศอย่างน้อย 6 เดือนของอิมพอร์ต เป็นการประมาทและผิดกาลเทศะ

ฉะนั้นจากบัญชีของฝ่ายการธนาคารที่ปัจจุบันต้องโอนเข้าคลังหลวง แต่พรบ.ที่รัฐบาลจะออก บอกว่าให้เอาออกมาใช้ได้ มองในเชิงทางการเงินไม่ผิด ไม่ได้ไปลดคลังหลวง แต่มันก็ไม่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น รัฐบาลไม่ผิดที่จะคิด ฉะนั้นอยากเรียนว่าการออกพันธบัตรรัฐบาลถือว่าดี แต่มันไม่ได้แก้ปัญหาของชาติ ปัญหาดอกเบี้ยควรจะทำอย่างไร โอนให้สถาบันการเงินไม่ถูกต้อง โยนให้กองทุนฟื้นฟูฯก็ไม่ใช่อีก โอนให้แบงก์ชาติก็ไม่ได้

"ถ้าเป็นผมจะจัดลำดับความสำคัญ แก้ปัญหาระยะสั้นก่อน คือป้องกันน้ำท่วม เรียกความเชื่อมั่น เพื่อให้เศรษฐกิจดีขึ้นก่อน ค่อยไปแก้เรื่องนี้ก็ได้ อยู่มาเป็นสิบปีไม่เดือดร้อนอะไร ก็จ่ายต่อไปก่อน เอาเรื่องอดีต - ปัจจุบันมารวมกันอย่างนี้ ทำให้คนสับสน" นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวว่า รัฐบาลสามารถก่อหนี้เพิ่มได้ ไม่มีใครว่า เพราะตอนนี้ปัญหาประเทศมันชัดเจน การออกพันธบัตรรัฐบาล ก็มีเหตุผลสมควร แต่ต้องแจงให้ชัดจะเอาเงินไปทำไรบ้าง

ด้าน นายชัชวาล กล่าวว่า เรื่องเครดิตสำคัญในทุกเรื่อง ต้องพูดตรงๆเครดิตรัฐบาลชุดนี้เสียไปหมดแล้ว เวลาดูเรื่องการใช้เงินมันไม่ค่อยโปร่งใส คนก็ไม่ไว้ใจ จึงเกิดคำถามเยอะ อยากฝากไว้ให้เป็นบทเรียน และฝากไปยังนายกิตติรัตน์ ว่าอย่ายอมคนที่มีอำนาจทางการเมือง เพราะอำนาจมันไม่ใช่ของจีรัง ต้องคิดถึงบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง

ขอพูดถึงตัวคน อย่างนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล (รมว.คลัง) ตนไม่มั่นใจว่าเป็นคนดี รู้กันในวงการการเมือง สมัยเป็นเลขากลต. ทำให้ใครรวย ช่วยใครบ้าง ไม่อย่างนั้นไม่มีทางได้เป็นรมว.คลังแน่

ส่วนนายกิตติรัตน์ เป็นคนเก่ง แต่พอไปยึดอยู่กับผลประโยชน์มันก็เกิดผลประโยชน์บังตา พูดตรงๆก็คือทำเอาใจพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องถือว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ใช้คนทุกคนที่เป็นประโยชน์ ฉลาดเลือกใช้คน อย่างนายเสนาะ ด่าพ.ต.ท.ทักษิณอย่างไรก็ตาม แต่พอเขาเห็นว่าจะทำประโยชน์ได้ ก็หวนกลับมาเรียกใช้ และใช้เยอะด้วย ใช้แม้กระทั่งเรื่องชายแดนกัมพูชา คนเสื้อแดงที่หนีไปก็ผ่านทางช่องตรงนั้น



กำลังโหลดความคิดเห็น