“อิทธพร” เปิดให้ ขรก.เบิร์ธเดย์ครบ 60 ปี บิ๊กท็อปบูตร่วมอวยพร เผยทำงานร่วม 4 รัฐบาล หวังปีนี้ไทยสงบ ร่วมฟื้นฟูชาติ พร้อมหนุนงานรัฐบาล แนะฟังเสียงคนทั้งชาติแก้รัฐธรรมนูญ จี้พูดให้ชัดมีปัญหาตรงไหน โวยรัฐบีบใช้งบปกติฟื้นฟูน้ำท่วมกองทัพ จี้รีบพิจารณา ด้าน “ประยุทธ์” ยินดีนักการเมืองหม่ำข้าว แนะหาวิธีสกัดม็อบโผล่
วันนี้ (6 ม.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ เมื่อเวลา 10.30 น. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เปิดห้องรับรองกองทัพอากาศ ให้ข้าราชการกองทัพอากาศอวยพรเนื่องในวันเกิดครบรอบ 60 ปี โดยทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร. ได้นำของขวัญและกระเช้าดอกไม้มาร่วมอวยพรด้วย ทั้งนี้ พล.อ.อ.อิทธพรกล่าวว่า ตนเป็น ผบ.ทอ.ปีนี้เป็นปีที่ 4 และในช่วงที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกับรัฐบาล 3 รัฐบาล รวมกับ รัฐบาลปัจจุบันเป็น 4 รัฐบาล บ้านเมืองเรามีเหตุการณ์ต่างๆ และทุกรัฐบาลพยายามให้บ้านเมืองสงบ และในปีนี้ประเทศไทยก็ประสบอุทกภัย สิ่งที่คนไทยอยากได้ และในวันเกิดของตนด้วย ตนก็อยากให้เป็นปีที่ประเทศไทยมีความสงบ และร่วมแรงร่วมใจฟื้นฟูประเทศทำอย่างไรให้ประเทศเดินไปด้วยความเรียบร้อย โดยไม่อยากให้มีเงี่อนไขต่างๆ ที่จะทำให้ประเทศเกิดความไม่สงบ เพราะประเทศไทยบอบช้ำมามากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และปีนี้ก็หนักหนาสาหัส คิดว่าปีนี้ต้องร่วมกันทำอย่างไรทำให้ประเทศเดินหน้าด้วยความเรียบร้อย ทุกคนมีความสุข ซึ่งตนในฐานะที่เป็น ผบ.ทอ.ต้องเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนรัฐบาล เราก็ต้องปฎิบัติหน้าที่เต็มขีดความสามารถ คงไม่อยากให้เรื่องไม่ดี เรื่องที่ทำให้เกิดปัญหาในประเทศเกิดขึ้น
พล.อ.อ.อิทธพรให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายการเมืองพยายามแก้ไขกฎหมายต่างๆ ที่อาจจะเป็นเงื่อนไขในการสร้างความขัดแย้งว่า ในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่งที่เราอ้างเรื่องประชาธิปไตยจะเป็นเงื่อนไขในการที่จะดำเนินการแก้ไขในหลายอย่าง ตนคิดว่าต้องฟังความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ คงไม่เหมาะที่จะมีกลุ่มคนเพียงแค่นิดหน่อยที่จะมาตั้งประเด็นและเกิดปัญหาความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขกฎหมาย รัฐธรรมนูญ เราต้องมาดูว่ารัฐธรรมนูญ ปี 2550 มีความเป็นมาอย่างไร กว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มามีขั้นตอนอย่างไร มีการลงประชามติจากประชาชนทั้งประเทศหรือไม่
“การจะแก้ไขรัฐธรมนูญต้องพูดให้ชัดแจนว่ามีปัญหาตรงไหน มีข้อขัดข้องอย่างไร หรือจะมีการแก้ไขมาตราไหน คงต้องบอกประชาชนส่วนใหญ่ให้ได้รับทราบ และน่าจะให้ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความเห็นชอบ ผมในฐานะที่เป็นประชาชนอยากมีส่วนร่วมในการที่จะแสดงความคิดด้วย ต้องถามว่า กว่าจะออกมาเป็นรัฐธรรมนูญปี 2550 ไม่ได้แก้โดยกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง แต่จะออกมาได้ต้องมีการลงประชามติ เท่าที่ผมจำได้ รัฐธรรมนูญปี 2550 กว่าจะออกมาใช้ได้ต้องผ่านประชามติ มันเป็นมติของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศในการที่จะให้ใช้ แต่การที่จะแก้จะเหมาะหรือไม่ ที่เป็นกลุ่มคนที่อ้างว่าได้รับการเลือกตั้งมา แล้วมาขอแก้ โดยไม่ฟังความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ที่เขาลงมติก่อนที่จะใช้ ถ้าจะแก้ต้องบอกให้ชัดเจนว่ามาตราไหนมีปัญหา” ผบ.ทอ.กล่าว
เมื่อถามว่า มาตราที่ต้องการแก้ เป็นการป้องกันไม่ให้นักการเมืองทำความผิด พล.อ.อ.อิทธพรกล่าวว่า ตนไม่ใช่นักกฎหมายหรือนัการเมือง อยากให้ผู้ที่มีบทบาทด้านกฎหมายให้ความเห็นมากกว่า ตนเป็นข้าราชการพูดอะไรอาจจะไม่เหมาะสมกับบทบาท
ผู้บัญชาการทหารอากาศยังให้สัมภาษณ์กรณีที่รัฐบาลตัดงบประมาณในการฟื้นฟูกองทัพอากาศว่า กองทัพอากาศได้รับการประสานมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ของบประมาณไป และจากที่ขอไปครั้งแรก เมื่อน้ำลดมีการสำรวจเพิ่มเติม ก็มีหลายส่วนที่คาดว่าจะเสียหาย โดยเฉพาะระบบโทรคมนาคม ก็ไม่ได้เสียหายอย่างที่คิด รวมถึงยุทธโธปกรณ์ต่างๆ ก็ไม่เสียมาก จึงปรับงบประมาณลดลงได้จำนวนหนึ่ง ในส่วนการฟื้นฟูเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ยุทธโธปกรณ์ ระบบการติดต่อสื่อสารสั่งการ ก็ได้แยกส่วนออกมา ขณะนี้ได้รวบรวมข้อมูลและเสนอไปใหม่แล้ว คงจะอยู่ในขั้นตอน แต่ก็อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบว่างบประมาณที่กองทัพอากาศได้รับเป็นงบประจำปี คือ งบดำรงสภาพ และงบที่จะพัฒนา แต่ไม่ใช่งบฟื้นฟูจากความเสียหายที่เกิดขึ้น จึงอยากให้รีบพิจารณาเพื่อให้กองทัพอากาศกลับมาปฎิบัติภารกิจเหมือนที่เคยมีขีดความสามารถ ถ้าล้าช้าทำให้กองทัพอากาศไม่สามารถปฎิบัติภารกิจได้เหมือนเดิม สำหรับตัวเลขก็มีการปรับลดกันมาตามลำดับ จาก 10,563 ล้านบาท มาเป็น 9,200 ล้านบาท และหลังสุดก็ปรับลดลงมาอีกแต่ไม่แน่ใจเรื่องตัวเลข
เมื่อถามว่า รู้สึกน้อยใจหรือไม่ เพราะทางรัฐบาลระบุว่าให้ใช้งบของกองทัพอากาศในการฟื้นฟู พล.อ.อ.อิทธพรกล่าวว่า งบประมาณที่ผ่าน ครม.และกำลังจะผ่าน พ.ร.บ. เป็นงบประจำปีที่ทางกองทัพอากาศได้เสนอ เพื่อดำรงสภาพความพร้อมรบ และงบผูกพันในการจัดหายุทโธปกรณ์ต่อเนื่อง รวมถึงงบพัฒนา แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นเกิดจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นหลังจากที่เราพิจารณาจัดตั้งงบ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เอางบปกติมาฟื้นฟูกองทัพอากาศ
ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หัวหน้าพรรคการเมืองนัดทานมื้อเที่ยงเพื่อหารือแนวทางการสร้างความปรองดองว่า เป็นที่น่ายินดี ลองติดตามดูว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เราเป็นข้าราชการ เป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง ประเทศไทยอยู่ได้หลายอำนาจ คือ อำนาจบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ส่วนทหารเป็นข้าราชการประจำ เป็นกลไกของรัฐ เราทำหน้าที่ของเรา เรื่องอื่นเขาก็แก้ปัญหากันไป หากแก้ได้ก็เป็นที่น่ายินดี ประเทศชาติจะได้ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งตนเห็นว่าทุกคนอยากให้เกิดความปรองดองเร็วที่สุด ต้องดูว่าจะทำได้แค่ไหน ทุกคนต้องช่วยกัน ทำให้บ้านเมืองสงบและปลอดภัย ส่วน กรณีที่จะมีกลุ่มสีเสื้อต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวนั้น ต้องช่วยกันแก้ ทำอย่างไรไม่ให้คนพวกนี้ออกมา คิดว่าทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ให้ประเทศชาติก้าวไปข้างหน้าโดยระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
เมื่อถามว่า การเมืองพยายามเข้ามาแก้ไขกฎหมายจะกระทบต่อแนวทางความปรองดองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องคุยกันว่าในทางกฎหมายจะทำอย่างไร สังคมจะว่าอย่างไร เรามีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ไม่มีส่วนร่วมในจุดนี้ เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ส่วนกรณีที่นิติราษฎร์พยายามล่ารายชื่อเพื่อแก้ไขมาตรา 112 นั้น การดำเนินการมีหลายขั้นตอน ไม่ใช่ล่ารายชื่ออย่างเดียว กว่าจะล่ารายชื่อ รวบรวม เสนอ ยังมีขั้นตอนอีกมากมาย ก็ลองดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างไร สิ่งสำคัญอย่าทำให้ประเทศชาติเสียหายและวุ่นวาย เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะรุนแรงขึ้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทหารพร้อมทำหน้าที่ของเราอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวล พร้อมทำหน้าที่ของทหารตามความรับผิดชอบ