“ยิ่งลักษณ์” มั่นใจทำงานร่วมกับกองทัพได้ ไม่กลัวยึดอำนาจซ้ำรอยพี่ชาย บอกมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ปกป้องสถาบันกษัตริย์ ดูแลทุกข์สุขประชาชน ปัดปากว่าตาขยิบ ปล่อยคนในพรรคขยับแก้ พ.ร.บ.กลาโหม อ้างเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล สุดท้ายอยู่ที่ ครม.ด้าน ผบ.สส.ย้ำ กองทัพหนุนรัฐบาลเต็มสูบ พร้อมทำให้เกินหน้าที่ปกติด้วยซ้ำ
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 13 ธ.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพไทย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประการ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังนายกฯ ตรวจเยี่ยมกองบัญชาการกองทัพไทยอย่างเป็นทางการ โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากตรวจเยี่ยมกระทรวงกลาโหมวันนี้ได้มาที่กองทัพไทยเพื่อมาหารือ พร้อมมอบนโยบายในส่วนของกองทัพไทย ซึ่งตลอดเวลากองทัพไทยเป็นศูนย์รวม และเป็นกำลังหลักสำคัญของกองทัพในการทำงานร่วมกับรัฐบาล คงจะเป็นส่วนที่เรายึดเรื่องนโยบายหลักที่มีการแถลงไว้ต่อรัฐสภา
นายกฯ กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะในส่วนเรื่องของความมั่นคง ได้มีการเน้นย้ำที่จะดูแลเรื่องการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่สำคัญ โดยจะต้องมีการรณรงค์รูปแบบต่างๆ ให้เป็นรูปธรรม และวันนี้เราเองในฐานะคนไทยด้วยกัน อยากเห็นความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ ซึ่งเป็นจุดรวมที่เรามาทำงานร่วมกันกับทางกองทัพในวันนี้ และในส่วนของกองทัพไทยมีอีกหน่วยงานหนึ่งที่เป็นหน่วยงานสำคัญ คือ หน่วยทหารพัฒนา ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการที่จะร่วมงานรับมอบนโยบายจากรัฐบาล โดยเฉพาะการลงไปพัฒนาพื้นที่ ซึ่งหน่วยทหารพัฒนาจะไปทำด้านพัฒนา ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และเป็นกำลังสำคัญของรัฐบาลในการร่วมมือพัฒนาไปยังท้องถิ่นต่างๆ ซึ่งตนได้ให้แนวทางที่เราจะต้องบูรณาการรวมแผนฟื้นฟูของทั้งประเทศ โดยต้องพัฒนาตั้งแต่ขั้นพื้นฐานในส่วนของคมนาคม การดูแลท้องถิ่น ซึ่งต้องประสานกับหน่วยงานพัฒนา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า ภารกิจอีกอย่างของกองทัพไทย คือ เรื่องของการดูแลความมั่นคงในส่วนของประเทศเพื่อนบ้าน โดยตนได้ให้แนวทางการทำงานกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำอย่างไรที่จะเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งในเรื่องความมั่นคง การดูแลความปลอดภัย และที่สำคัญ ต้องประสานการทำงานกับประเทศเพื่อนบ้านให้อยู่ภายใต้ความมั่นคง ดูแลรักษาเอกราช ความสงบสุขของคนที่อยู่บริเวณนั้น รวมถึงการค้าขายที่จะต้องดำเนินการไปตามปกติ พร้อมกันนี้ ขอขอบคุณข้าราชการทหารทุกท่าน ซึ่งทางกองทัพยังเป็นหน่วยหลักที่ทำงานร่วมกับรัฐบาล และจากการตรวจเยี่ยมกองทัพไทย ถือว่า กองทัพไทยเป็นศูนย์รวมที่บูรณาการข้อมูลข่าวสารต่างๆ การเชื่อมต่อระบบซีซีทีวี วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ และเชื่อมต่อการจราจรต่างๆ ค่อนข้างดีครบถ้วน ถือว่าเป็นอีกหน่วยหนึ่งที่สำคัญ สามารถบูรณาการฐานข้อมูล และกระบวนการแก้ไขปัญหาวิกฤตได้เป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากเดินสายเยี่ยมเยียนกระทรวงกลาโหม และมาที่กองทัพไทย มั่นใจว่าจะทำงานร่วมกับทหารได้อย่างโล่งใจ และมั่นใจว่า จะไม่มีการปฏิวัติเกิดขึ้นตามมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอพูดอย่างนี้มากกว่า ตราบใดที่เราทำงานด้วยกัน ดิฉันเชื่อมั่นในการทำงานว่า ถ้าเราทำงานด้วยกัน ประสานกัน เชื่อมต่อทำความเข้าใจกัน สุดท้ายเราต้องทำงานบนจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ การรักษาความสงบสุขของประเทศ การดูแลความทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน และที่สำคัญ วันนี้ เรากับทางด้านกองทัพต้องดูแลเรื่องการปกป้องสถาบัน รวมถึงการที่จะทำอย่างไรที่จะดูแลภาพรวมร่วมกัน ดังนั้น ถ้าเราทำงานด้วยกัน ก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน ตรงนี้อยากขอให้ผู้บัญชาการสูงสุดตอบบ้างหลังจากที่มาเยี่ยมชม
พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีกรุณามาเยี่ยมเรา ถือเป็นเกียรติอย่างสูง และเป็นการสร้างกำลังใจให้กับข้าราชการกองทัพไทยทุกคน ซึ่งหมายถึงกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ด้วย ขอเรียนว่า ภารกิจการปฏิบัติของเรา ขอยืนยันว่า กองทัพพร้อมสนับสนุนรัฐบาล พร้อมที่จะปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลอย่างเต็มขีดความสามารถ ทั้งนี้ เพื่อความสงบ ความปรองดอง ความก้าวหน้าที่จะไปด้วยกันของประเทศชาติต่อไป ฉะนั้น ขอให้ทุกคนสบายใจได้ว่า เราสามารถจะสนับสนุนท่านอย่างเต็มขีดความสามารถ
เมื่อถามว่า ดูจากบรรยากาศชุดปัจจุบันที่เข้ามา มั่นใจได้หรือไม่ว่ารัฐบาลชุดนี้จะร่วมสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นได้ ผบ.สส.กล่าวว่า มันต้องได้อยู่แล้วตนมั่นใจ เพราะท่านทำงานเหมือนไม่มีวันหยุดเลย และจากการทำงานของเราก็ทุ่มเทให้ ซึ่งทำมากกว่าหน้าที่ที่ได้รับ เราทุ่มเทเพื่อให้ส่วนรวมไปข้างหน้า และรัฐบาลก็ใช้เราได้ถูกต้อง มีวิธีทางที่จะใช้ตามครรลอง ตามระบบ เป็นไปตามขนบธรรมเนียม ซึ่งเราพร้อมที่จะทำอยู่แล้ว และอย่างที่เรียนเราทำให้เกินกว่า สิ่งที่เราต้องปฏิบัติด้วยซ้ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเมื่อทหารดูแลรัฐบาล นายกฯ จะมอบงบประมาณให้กองทัพอย่างไร ภายหลังจากที่ถูกตัดไปเยอะ นายกฯ กล่าวว่า เราทำงานด้วยกันรู้สึกดีใจ ภูมิใจ ตนเองเป็นผู้หญิงการทำงานร่วมกับทางกองทัพ ถือเป็นเรื่องที่ยากในครั้งแรก แต่หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันต้องขอบคุณทางกองทัพที่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เชื่อว่า เราทำงานด้วยกันได้บนความเข้าใจ และพื้นฐานเดียวกัน ที่สำคัญบรรยากาศต่างๆ เราต้องร่วมกันสร้างให้เกิดความปรองดอง และความสงบสุขของคนในชาติ สำหรับทางกองทัพที่ทำงานสนับสนุนรัฐบาล แน่นอนสิ่งไหนที่ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ที่เรามีการแถลงไว้ต่อรัฐสภา และสิ่งไหนที่เราคุยกันโดยเฉพาะในส่วนของการพัฒนาศักยภาพ และบุคลากรของกองทัพ เรายินดีให้การสนับสนุน
“วันนี้ความมั่นคงต่างได้เปลี่ยนรูปแบบไป การดูแลอุปกรณ์ต่างๆ ทางกองทัพก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ รัฐบาลพร้อมตราบใดถ้าเป็นเรื่องหลักการ ความสำคัญและความจำเป็นยินดี แต่ขอเรียนว่า จะมีข้อจำกัดในส่วนของกรอบงบประมาณที่เราต้องจัดตามความสำคัญ ไม่ใช่ว่า อยู่ในโหมดที่จะต้องตัดของกองทัพ อะไรที่เป็นสิ่งจำเป็นโดยภาพรวม เราคงต้องมจัดสรรร่วมกัน” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า นายกฯ มั่นใจหรือไม่ว่า จะบริหารงานไปรอด หรือไม่จบเหมือนกับพี่ชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะทหารยังเป็นกลุ่มเดิมที่เคยปฏิวัติ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ดิฉันมั่นใจในตัวเองทำงานอย่างเต็มที่ ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนที่ให้โอกาสไว้วางใจ และดิฉันจะทำงานให้เต็มที่ให้กับประเทศไทย และเชื่อมั่นว่า ด้วยเจตนานี้คงต้องขอความเป็นธรรมกับทุกคน ซึ่งวันนี้เราเองยังไม่อยากจะสรุปแบบนั้น การจบอย่างไรอย่าพูดแบบนั้นดีกว่า ต้องพูดว่า เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่ที่สุด และสุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแง่ของการทำหน้าที่ แต่ละฝ่ายจะต้องทำหน้าที่ของตนเอง แต่ฝ่ายการเมืองก็พยายามที่จะเข้ามาแก้ไข พ.ร.บ.กลาโหม นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการคุยกันเลย แน่นอนอะไรก็ตามทุกอย่างยึดหลักการ อะไรที่มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปถ้ามีความเหมาะสมก็ต้องทำ แต่ดิฉันยังไม่ได้สรุปเรื่องนี้ และดิฉันยังไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้เลย ก็ยังไม่อยากให้นำประเด็นนี้ขึ้นมา เราจะนำประเด็นแรก คือ การที่รัฐบาลจะทำงานร่วมกับกองทัพในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน อันนี้เป็นภารกิจหลัก และสำคัญเรื่องแรกที่เราต้องทำอย่างเร่งด่วน
เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของ ส.ส.ในพรรคของนายกฯ เองก็พยายามเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อยู่ มันจะทำให้เกิดการกินใจกันได้หรือไม่ว่า รัฐบาลกำลังใจปากว่าตาขยิบ ผู้นำบอกว่าไม่ แต่คนที่อยู่รอบข้างทำอยู่ตลอดเวลา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ย้อนถามว่า ทำอะไรละคะ คือ ต้องแยกระหว่างการแสดงสิทธิเสรีภาพ และความคิดเห็นส่วนบุคคล แต่สุดท้ายการปฏิบัติทั้งหมดก็อยู่ที่มติ ครม. อยู่ที่กระบวนการดำเนินการที่จะต้องดำเนินการไป ซึ่งวันนี้ท่านเองก็ยังเห็นว่า ยังจะต้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างแรกอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ พูดได้ชัดๆ และดังๆ ได้หรือไม่จะไม่หวาดระแวงทหาร นายกฯ กล่าวว่า “ใช่คะ วันนี้ไม่ได้หวาดระแวง เราทำงานด้วยกัน เชื่อใจกัน”