ผบ.เหล่าทัพ ประชุมคณะกรรมการฟื้นฟูหลังน้ำลด ระดม 50 กองร้อย พร้อมรถ 1 พันคัน และอีเอ็ม 2 หมื่นลิตร สนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยหลังน้ำแห้ง ขณะเดียวกัน ของบประมาณ 1.2 หมื่นล้าน ฟื้นฟูกองทัพ ระบุ กองทัพอากาศที่ยังจมอยู่ใต้น้ำเสียหายมากสุดกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ที่กระทรวงกลาโหม วันนี้ (23 พ.ย.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติการของกระทรวงกลาโหม (กปก.) เพื่อเตรียมแผนการฟื้นฟูภายหลังน้ำลดในพื้นที่ 27 จังหวัด รวมทั้งหน่วยทหารที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยจะกำหนดกรอบการทำงานงบประมาณ และยุทโธปกรณ์ที่จะใช้ในการฟื้นฟู เพื่อให้เป็นไปตามแผนการฟื้นฟูของรัฐบาลที่ได้ตั้งคณะกรรมการและกลไกในการปฏิบัติการเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการดังกล่าวด้วย
พล.อ.เสถียร แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมรับทราบถึงคำสั่งการแต่งตั้งคณะทำงานฟื้นฟู โดยรัฐบาลได้แต่งตั้งขึ้นมา 10 คณะ ซึ่งรัฐบาลเน้นย้ำเกี่ยวกับโครงสร้างในการปฏิบัติการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในครั้งนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์ดังกล่าวโดยมี รมว.กลาโหม เป็นประธาน และมี ผบ.เหล่าทัพ เป็นคณะกรรมการ และมีปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นเลขานุการ รวมถึงให้คณะกรรมการ และส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นคณะกรรมการอยู่ด้วยได้เสนองบประมาณ และแนวทางฟื้นฟูของหน่วยงานที่ได้รับผลระทบทั้งยุทโธปกรณ์ ที่ตั้งหน่วยทหาร เพื่อขอรับการสนับสนุนในครั้งนี้ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ หน่วยที่ได้รับผลกระทบโดยตรงยังมีความพร้อมในการให้การสนับสนุนประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ตลอดจนการฟื้นฟูอาชีพ และจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พร้อมให้การสนับสนุนประชาชน
พล.อ.เสถียร กล่าวว่า กระทรวงกลาโหม ยังได้เตรียมความพร้อมด้วยการจัดกองร้อยบรรเทาสาธารณภัยไว้ 50 กองร้อยในการสนับสนุน ทั้งชุดช่างไฟฟ้า ช่างไม้ ช่างประปา รวมทั้งชุดทหารช่างเฉพาะกิจที่จะปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ต่างๆ การจัดยานพาหนะจำนวน 1,000 คัน ชุดแพทย์เคลื่อนที่ บำบัดน้ำเสีย (อีเอ็ม) จำนวน 20,000 ลิตร นอกจากนี้ กองทัพพร้อมสนับสนุนคนที่สนใจจะเข้ามาอบรมในการทำน้ำหมักชีวภาพ (อีเอ็ม) อีก 1,000 กว่าคน เพื่อนำความรู้เผยแพร่ขยายการดำเนินการใน 5 พื้นที่ คือ กทม.ปริมณฑล จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สระบุรี และ จ.ลพบุรี สำหรับงบประมาณในภาพรวมหน่วยงานที่กองทัพได้เสนอขอรับการสนับสนุน ทั้งการฟื้นฟูให้กับหน่วยงานสถานที่ราชการ อาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมให้การสนับสนุนประชาชนในพื้นที่ และพร้อมรวบรวมเสนอต่อคณะกรรมการ และรัฐบาลภายในวันที่ 28 พ.ย.นี้
“จะเสนอของบจำนวน 12,288 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทัพอากาศ จำนวน 10,503 ล้านบาท กองทัพเรือ 312 ล้านบาท กองทัพบก 1,273 ล้านบาท และกองทัพไทยอีก 139 ล้านบาท เพื่อนำไปซ่อมแซมอาวุธยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ซึ่งกองทัพอากาศได้รับความเสียหายมากที่สุด ทั้ง สถานที่ราชการ ยานพาหนะ ชุดช่าง เครื่องบินที่ชำรุดไม่สามารถลากไปไหนได้ในพื้นที่ดอนเมือง ส่วนเหล่าทัพต่างๆ เราพิจารณาจากความเสียหาย ซึ่งงบประมาณนี้เป็นการขอในเบื้องต้น โดยจะผ่านไปยังคณะกรรมการโครงการสร้างพื้นฐานที่มี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม เป็นประธาน เพื่อรวบรวมข้อมูลกระทรวงต่างๆ ก่อนจะเสนอไปยัง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูเยียวยา จากนั้นจึงจะเข้าไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพื่ออนุมัติ ทั้งนี้ เราจะต้องทำให้หน่วยมีความพร้อมในการสนับสนุนประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับการร้องขอมา” พล.อ.เสถียร กล่าว
