พระตำหนัก ที่หน่วยบินเดโชชัย 3 ดอนเมือง น้ำท่วมสูงเป็นเวลานาน จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ที่เกิดขึ้นมานานกว่า 2 เดือน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเห็นพระทัย และทรงเข้าใจในความเดือดร้อนของราษฎรที่ประสบอุทกภัยเช่นกัน
บ่ายวานนี้(20 พ.ย.) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมและพระราชทานถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัย ณ ศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัยกองบัญชาการกองทัพไทย พื้นที่หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา บริเวณอาคารสำนักงานทหารพัฒนา กองบัญชาการทหารสูงสุด เพื่อพระราชทานขวัญและกำลังใจ และแสดงความห่วงใยทหารและครอบครัว ตลอดจนพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดอนเมือง ที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมขังมาเป็นเวลานาน โดยทรงเข้าพระทัยและเห็นใจในความเดือดร้อนของประชาชน ที่ไม่สามารถพักอาศัยในบ้านเรือนตนเองได้
การเกิดอุทกภัยครั้งนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงได้รับผลกระทบด้วย เนื่องจากพระตำหนักที่ประทับถูกน้ำท่วม ทำให้ขาดไฟฟ้า น้ำประปา และเส้นทางในการเสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องประทับทั้งรถจีเอ็มซี และเรือ
หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดตั้งศูนย์พักพิงกองบัญชาการกองทัพไทย ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2554 รองรับผู้ประสบอุทกภัยได้ 500 คน เพื่อให้ความช่วยเหลือทั้งกำลังพลและประชาชน โดยปัจจุบันมีผู้ประสบอุทกภัยมาพักอาศัย ซึ่งมีครอบครัวข้าราชการ 107 คน และประชาชน 316 คน
ในการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้ ได้พระราชทานแนวทางในการช่วยเหลือ ฟื้นฟู แก่พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในการให้ศึกษาข้อเท็จจริงปัญหาอุทกภัยในครั้งนี้ เพื่อสามารถหาแนวทางในการป้องกัน รวมทั้งให้ความช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด พร้อมทั้งวางแนวทางช่วยเหลือฟื้นฟู ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
นอกจากนี้ยังมีพระราชดำรัสชื่นชมการทำงานของกำลังพลกองทัพไทย กองทัพบก และกองทัพเรือ ที่ปฏิบัติการช่วยเหลือราษฎรอย่างเต็มกำลัง จนเป็นที่ประทับใจ และได้รับคำชื่นชมจากประชาชนอย่างมาก นอกจากนี้ มีพระราชปฏิสันถารให้กำลังใจกับผู้ประสบอุทกภัยที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาท บริเวณลานอเนกประสงค์ พร้อมทอดพระเนตรการปฏิบัติงานของชุดแพทย์ประจำศูนย์พักพิง กิจกรรมฝึกอาชีพระยะสั้น กิจกรรมนันทนาการของเด็กและเยาวชน รวมถึงการให้บริการตัดผม
จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารสโมสรทหารอากาศ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง เพื่อพระราชทานถุงยังชีพแก่ครอบครัวข้าราชการกองทัพอากาศที่ประสบอุทกภัย พร้อมกันนี้มีพระราชปฏิสันถารพระราชทานกำลังใจให้ต่อสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างมีสติ และให้มีความอดทน พร้อมทรงแสดงความซาบซึ้งใจที่กำลังพลของกองทัพอากาศ ร่วมกันป้องกันและแก้ไขสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่กองทัพอากาศ โดยเฉพาะการป้องกันพระตำหนัก และสนามบินดอนเมือง เร่งฟื้นฟูให้ท่าอากาศยานดอนเมืองกลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากข้าราชการจะได้ประโยชน์ในการกลับมาปฏิบัติภารกิจ และทำให้การส่งกำลังเพื่อช่วยเหลือประชาชนนั้นเป็นไปได้โดยสะดวกและรวดเร็ว
จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น กองทัพอากาศให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว ให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วย สนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ การจัดสถานที่จอดยานพาหนะ และจัดรถรับ-ส่งข้าราชการ และประชาชน รวมถึงจัดเครื่องบินเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหนักจากโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ไปยังโรงพยาบาลในต่างจังหวัด การสร้างแนวคันกั้นน้ำ การจัดชุดสายตรวจทางเรือ และชุดลาดตระเวนเฝ้าระวังการพังของแนงคันกั้นน้ำ แต่อย่างไรก็ตาม กำลังพลของกองทัพอากาศนับว่าเป็นผู้ประสบอุทกภัยเช่นกัน เนื่องจากพื้นที่พักอาศัยของข้าราชการและครอบครัวอยู่ในพื้นที่แขวงสีกัน เขตดอนเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย มีผู้ได้รับความเดือดร้อน 1,700 ครอบครัว ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา
การเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมข้าราชการกองทัพอากาศ และประชาชนในพื้นที่เขตดอนเมือง สร้างความรู้สึกปลาบปลื้มแก่ผู้ประสบอุทกภัยเป็นอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชบริพารที่ถวายงานในพระตำหนักหน่วยบินเดโชชัย 3 ออกเยี่ยมและนำถุงยังชีพพระราชทาน อาหารกล่อง ยาและเวชภัณฑ์ ไปแจกจ่ายประชาชนที่ศูนย์พักพิง และผู้ประสบอุทกภัยย่านดอนเมือง หลายครั้ง โดยทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยเช่นเดียวกัน โดยพระราชทานคติแก่ประชาชนว่า โดนด้วยกัน จมด้วยกัน อยู่ด้วยกัน ช่วยและปลอบใจซึ่งกันและกัน ไปรอดด้วยกัน ร่วมพัฒนาฟื้นฟูด้วยกัน
บ่ายวานนี้(20 พ.ย.) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมและพระราชทานถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัย ณ ศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัยกองบัญชาการกองทัพไทย พื้นที่หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา บริเวณอาคารสำนักงานทหารพัฒนา กองบัญชาการทหารสูงสุด เพื่อพระราชทานขวัญและกำลังใจ และแสดงความห่วงใยทหารและครอบครัว ตลอดจนพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดอนเมือง ที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมขังมาเป็นเวลานาน โดยทรงเข้าพระทัยและเห็นใจในความเดือดร้อนของประชาชน ที่ไม่สามารถพักอาศัยในบ้านเรือนตนเองได้
การเกิดอุทกภัยครั้งนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงได้รับผลกระทบด้วย เนื่องจากพระตำหนักที่ประทับถูกน้ำท่วม ทำให้ขาดไฟฟ้า น้ำประปา และเส้นทางในการเสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องประทับทั้งรถจีเอ็มซี และเรือ
หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดตั้งศูนย์พักพิงกองบัญชาการกองทัพไทย ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2554 รองรับผู้ประสบอุทกภัยได้ 500 คน เพื่อให้ความช่วยเหลือทั้งกำลังพลและประชาชน โดยปัจจุบันมีผู้ประสบอุทกภัยมาพักอาศัย ซึ่งมีครอบครัวข้าราชการ 107 คน และประชาชน 316 คน
ในการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้ ได้พระราชทานแนวทางในการช่วยเหลือ ฟื้นฟู แก่พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในการให้ศึกษาข้อเท็จจริงปัญหาอุทกภัยในครั้งนี้ เพื่อสามารถหาแนวทางในการป้องกัน รวมทั้งให้ความช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด พร้อมทั้งวางแนวทางช่วยเหลือฟื้นฟู ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
นอกจากนี้ยังมีพระราชดำรัสชื่นชมการทำงานของกำลังพลกองทัพไทย กองทัพบก และกองทัพเรือ ที่ปฏิบัติการช่วยเหลือราษฎรอย่างเต็มกำลัง จนเป็นที่ประทับใจ และได้รับคำชื่นชมจากประชาชนอย่างมาก นอกจากนี้ มีพระราชปฏิสันถารให้กำลังใจกับผู้ประสบอุทกภัยที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาท บริเวณลานอเนกประสงค์ พร้อมทอดพระเนตรการปฏิบัติงานของชุดแพทย์ประจำศูนย์พักพิง กิจกรรมฝึกอาชีพระยะสั้น กิจกรรมนันทนาการของเด็กและเยาวชน รวมถึงการให้บริการตัดผม
จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารสโมสรทหารอากาศ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง เพื่อพระราชทานถุงยังชีพแก่ครอบครัวข้าราชการกองทัพอากาศที่ประสบอุทกภัย พร้อมกันนี้มีพระราชปฏิสันถารพระราชทานกำลังใจให้ต่อสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างมีสติ และให้มีความอดทน พร้อมทรงแสดงความซาบซึ้งใจที่กำลังพลของกองทัพอากาศ ร่วมกันป้องกันและแก้ไขสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่กองทัพอากาศ โดยเฉพาะการป้องกันพระตำหนัก และสนามบินดอนเมือง เร่งฟื้นฟูให้ท่าอากาศยานดอนเมืองกลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากข้าราชการจะได้ประโยชน์ในการกลับมาปฏิบัติภารกิจ และทำให้การส่งกำลังเพื่อช่วยเหลือประชาชนนั้นเป็นไปได้โดยสะดวกและรวดเร็ว
จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น กองทัพอากาศให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว ให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วย สนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ การจัดสถานที่จอดยานพาหนะ และจัดรถรับ-ส่งข้าราชการ และประชาชน รวมถึงจัดเครื่องบินเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหนักจากโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ไปยังโรงพยาบาลในต่างจังหวัด การสร้างแนวคันกั้นน้ำ การจัดชุดสายตรวจทางเรือ และชุดลาดตระเวนเฝ้าระวังการพังของแนงคันกั้นน้ำ แต่อย่างไรก็ตาม กำลังพลของกองทัพอากาศนับว่าเป็นผู้ประสบอุทกภัยเช่นกัน เนื่องจากพื้นที่พักอาศัยของข้าราชการและครอบครัวอยู่ในพื้นที่แขวงสีกัน เขตดอนเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย มีผู้ได้รับความเดือดร้อน 1,700 ครอบครัว ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา
การเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมข้าราชการกองทัพอากาศ และประชาชนในพื้นที่เขตดอนเมือง สร้างความรู้สึกปลาบปลื้มแก่ผู้ประสบอุทกภัยเป็นอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชบริพารที่ถวายงานในพระตำหนักหน่วยบินเดโชชัย 3 ออกเยี่ยมและนำถุงยังชีพพระราชทาน อาหารกล่อง ยาและเวชภัณฑ์ ไปแจกจ่ายประชาชนที่ศูนย์พักพิง และผู้ประสบอุทกภัยย่านดอนเมือง หลายครั้ง โดยทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยเช่นเดียวกัน โดยพระราชทานคติแก่ประชาชนว่า โดนด้วยกัน จมด้วยกัน อยู่ด้วยกัน ช่วยและปลอบใจซึ่งกันและกัน ไปรอดด้วยกัน ร่วมพัฒนาฟื้นฟูด้วยกัน
